เลือดกับน้ำอะไรจะข้นกว่ากัน! “ศึกสายเลือด” นักการเมืองไทยยืนคนละฝ่ายหรือสุดท้ายแค่ขยายอำนาจ!
นอกจากโรคเลื่อนที่เป็นหนามตำใจให้เราต้องอกสั่นขวัญแขวนกันอยู่ว่า เอ๊ะ ปีนี้เราจะได้เลือกตั้งตามที่ผู้หลักผู้ใหญ่ท่านว่าไว้หรือไม่แล้ว สิ่งหนึ่งที่น่าจับตาเหลือเกินในการเลือกตั้งปี 2562 ก็คือ นักการเมืองที่ลงประชันกันในศึกครั้งนี้ของแต่ละพรรค ทั้งหน้าเก่าที่พ้นจากอำนาจรุ่นเก่าแล้วถูกจับมาปัดฝุ่น หน้าใหม่ไฟแรงแต่ถือว่ายังอ่อนหัดทางการเมือง ที่สำคัญมีตระกูลใหญ่ระดับประเทศที่ลูกหลานแยกพรรคกันในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย
ลูกท่านหลานเธอเหล่านี้ต่างกระจายกันไปอยู่ตามพรรคใหญ่และพรรคดาวรุ่งที่ดูแล้วจะมีแวว ได้รับความสนใจ และพื้นที่สื่ออยู่ตลอด มีความเป็นไปได้ที่จะถูกเลือกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
มันน่าคิดตรงที่ พวกเขาเห็นต่างกันจริง ๆ ยืนคนละข้างทางอุดมการณ์จริง ๆ หรือแค่มีบางอย่างแอบแฝงกันแน่
ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ
ฝ่ายอา "นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" นักการเมืองมือฉมังที่อยู่มาแล้วถึง 4 พรรค ทั้งพรรคกิจสังคม ไทยรักไทย ภูมิใจไทย และพรรคล่าสุด พลังประชารัฐที่ก่อตั้งพรรคร่วมกับกลุ่มสามมิตร ซึ่งเจ้าตัวภูมิอกภูมิใจถึงกับออกปากว่าจะยิ่งใหญ่กว่าพรรคไทยรักไทยเพื่อไทยเสียอีก
สมัยทำงานกับทักษิณ นายสุริยะ เรียกได้ว่าเป็นตัวแรงของพรรค เป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจให้กุมบังเหียนกระทรวงใหญ่อย่างกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงคมนาคม ถึงจะคดีทุจริตประปราย แต่ก็ถือว่ารับมือได้ดี จนอยู่รอดปลอดภัยมาถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนให้พลเอกประยุทธิ์เป็นนายกต่อไป
ขณะที่หลานชาย "ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ" หรือ เอก เป็นนักธุรกิจไฟแรงที่หันหลังให้กับกลุ่มบริษัทไทยซัมมิทของครอบครัว มีบริษัทในเครือรวมกว่า 40 บริษัท ครอบคลุมการผลิตเพื่ออุตสาหกรรมสำคัญ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักร นำมาซึ่งมูลค่าทรัพย์สินมากมายก่ายกองจนหลาย ๆ คน ถึงกับตั้งคำถามกับเจตนารมณ์ทางการเมืองของเขา ว่าจะเป็นเพียงเศรษฐีอีกคนที่เข้ามาแบ่งเค้กกันในรัฐบาลหรือไม่
ธนาธรฝ่ากระแสที่ถูกตราหน้าว่าเป็น "ไพร่หมื่นล้าน" จากการที่แสดงความเห็นทางการเมืองไปพ้องกับฝั่งเสื้อแดงบางส่วน ปรากฎตัวต่อหน้าสื่อในฐานะผู้นำพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้คะแนนโหวตเป็นเสียงเอกฉันท์จากคนในพรรค พร้อมกับจุดยืนที่ได้ใจคนจากการต่อต้านคสช. ตั้งตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเต็มตัว
เรียกได้ว่าเป็นอาหลานที่อยู่คนละขั้ว ยืนคนละอุดมการณ์ แถมความเก๋าเกมก็ต่างกันมากจนถ้าเปรียบเป็นมวยก็คงดูเพลิน
ตระกูลปุณณกันต์
ศึกนี้มีชื่อเล่นที่คอการเมืองรู้กันว่า "ศึกสายเลือดซอยราชครู" เล่นการเมืองกันมาตั้งแต่รุ่นปู่จนถึงปัจจุบัน "พุทธิพงษ์" ผู้พี่มีภาพบทบาททางการเมืองที่ชัดกว่าน้องชาย เขาเริ่มเล่นการเมืองตั้งแต่ปี 2544 โดยสวมเสื้อลงสมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขตพญาไท แม้จะ สอบตก เพราะ กรรณิกาจากฟากไทยรักไทยฐานเสียงดีกว่า แต่เพราะผู้ชนะโดนใบเหลือง สุดท้ายเมื่อเลือกตั้งซ่อมเขาจึงชนะ ได้เป็น ส.ส.ครั้งแรก ก่อนที่ล่าสุดจะย้ายข้างไปทำงาน กับคสช. ในฐานะรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและโฆษกรัฐบาลหลังจากทำงานกับประชาธิปัตย์มานานถึง 18 ปี
ขณะที่ฟากน้องชาย "ดนุพร" ปรากฎตัวต่อหน้าสื่อในฐานะนักแสดงก่อนจะเข้ามารับหน้าที่ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขซึ่งก็คือ คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ ดนุพรลงสมัครส.ส. เขตสาธร- ยานนาวา และลงสมัครเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2548 แต่พ่ายแพ้ให้กับ "กรณ์ จาติกวณิช" ซึ่งถือว่ากระดูกแข็งกว่ามาก ๆ แต่ได้เข้ามาทำงานในรัฐบาลเมื่อฟากไทยรักไทยในขณะนั้นได้ตั้งรัฐบาล โดยเข้ามารับหน้าที่โฆษกรัฐบาล แล้วพักไปยาว ๆ หลังจากเกิดปฏิวัติ แล้วกลับมาอีกครั้งกับผู้บริหารพรรคเพื่อไทยชุดเดิม อ่านแถลงการณ์พรรคในการประชุมครั้งล่าสุด ในฐานะคนเพื่อไทยเหมือนเดิม
คือถึงฟากหนึ่งจะย้ายพรรคไป ทั้งคู่ยังถือว่ายืนตรงข้ามกันอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น 2 พี่น้องยืนยันว่าในบ้านก็ยังรักกันดี
ยืนคนละข้างหรือทางเลือกในการกระจายอำนาจ
ข้อสังเกตที่น่าสนใจก็คือ ทั้งสองตระกูลไม่ได้แค่แยกพรรคกัน ไม่ใช่แค่จุดยืนทางการเมืองที่แตกต่าง แต่ยังแยกกันไปอยู่ในพรรคที่ถือได้ว่าเป็นขั้วอำนาจ มีโอกาสจะเป็นผู้ชนะทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย ประชาธิปปัตย์ และคสช. รวมถึงพลังประชารัฐที่สนับสนุน คสช. ด้วย
ประกอบกับศักยภาพของทั้ง 2 ตระกูลที่ทั้งเก่าแก่ร่ำรวย ต่างมีส่วนได้ส่วนเสียกับภาคธุรกิจในประเทศนี้มากมายนับไม่หมด เป็นไปได้หรือไม่ที่ต่างฝ่ายต่างก็ทำเพื่อรักษาฐานอำนาจของตระกูลโดยอาศัยวิธีวางหมากกระจาย ๆ ไปทั่วทุกพรรค ทุกข้าง เพื่อที่ไม่ว่าพรรคไหนจะชนะ จะแพ้ ตระกูลของพวกเขาจะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์
ไม่ได้ว่ากันที่เงินล้านแต่ว่ากันเป็นหมื่นหรือแสนล้าน
การเมืองที่ดูหวือหวาอาจไม่สู้การบ้านที่ต้องเจอกันอยู่ทุกวัน ร่วมทุกข์รวมสุขกันมาทั้งชีวิตสุดท้ายแล้วต้องมาดูว่าเลือดกับน้ำอะไรจะข้นกว่ากัน
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.thaiquote.org/content/31366
https://www.matichonweekly.com/column/article_135383
https://www.khaosod.co.th/politics/news_1841646
https://www.matichon.co.th/politics/news_1003853
Tu ปาหี่
หนะจ้า
13 ม.ค. 2562 เวลา 18.30 น.
chet ยังไงก็กงสี ผลประโยชน์ร่วมกัน ละครน้ำเน่า
13 ม.ค. 2562 เวลา 02.39 น.
อรพิน แยกกันเดินร่วมกันตีแน่
13 ม.ค. 2562 เวลา 01.46 น.
ไพศาลเฟอร์นิเจอร์ เลือกตั้งครั้งนี้ จะรู้ว่า ชาวไทย รักประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ ใครโกงหรือมีส่วนร่วมในการโกงการเลือกตั้งขอให้ บ้านมันจงมีแต่ความ ชิบหายย่อยยับ
13 ม.ค. 2562 เวลา 01.40 น.
ไชยยา,บุญสายบัว ใครๆก็อยากทำเพื่อชาติทั้งนั้นแหละแต่ต้องอยู่กะนโยบายให้ประชาชน
13 ม.ค. 2562 เวลา 01.34 น.
ดูทั้งหมด