คปพ.ค้าน ปตท.สผ.คว้าสิทธิแหล่งก๊าซ “เอราวัณ-บงกช”

วันนี้ ( 14 ธ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ยกเลิกการประมูลสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่มิชอบและจัดการประมูลขึ้นใหม่ โดยมีเนื้อหาระบุว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่อนุมัติให้กลุ่มบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. ชนะการประมูลสิทธิสำรวจและผลิต ทั้งแปลงเอราวัณและบงกชนั้น มีกระบวนการประมูลไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศและประชาชน สมควรยกเลิกพร้อมทั้งจัดประมูลใหม่ในเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศ

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ผู้แทน คปพ. กล่าวว่า มีผู้เข้าประมูลน้อยราย และบางรายอาจขาดคุณสมบัติ ควรรอให้มีการตัดสินของศาลเสียก่อน ขณะที่การพิจารณาผลการประมูลโดยให้น้ำหนักที่ราคาเสนอขายก๊าซที่ต่ำที่สุดอาจไม่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน แต่กลับเปิดทางให้ ปตท.ได้ประโยชน์จากก๊าซราคาต่ำในอ่าวไทยไปใช้ในกิจการปิโตรเคมีของกลุ่มบริษัทแทน รวมไปถึงผู้ถือหุ้นต่างประเทศด้วย

ผู้แทน คปพ.ยังระบุว่า จะยังเคลื่อนไหวคัดค้าน และเรียกร้องให้ยกเลิกการประมูลโดยจะไปหารือกับพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่จะสมัครรับเลือกตั้ง ถามถึงจุดยืนของแต่ละพรรคในการจัดสรรทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย และแต่ละพรรคมีแนวทางในการแก้ปัญหาการประมูลที่ไม่ถูกต้องและเป็นธรรมอย่างไร เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่เข้ามาดูแลผลประโยชน์ของชาติให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุดก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญากับ ปตท.สผ.ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลในปี 2563
ด้านนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ยังไม่เห็นหนังสือที่ คปพ.เรียกร้องให้ยกเลิกประมูล แต่พร้อมฟังทุกฝ่าย ส่วนผลการประมูลมองว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วไปที่จะได้ใช้ไฟฟ้าและเอ็นจีวีราคาถูกลง รวมทั้งอุตสาหกรรมมีต้นทุนผลิตต่ำลง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงประเด็นราคาก๊าซที่ผลิตได้เสนอต่ำกว่าราคาปัจจุบันมาก และผลตอบแทนรัฐสูงขึ้น ว่า ไม่น่าเป็นกังวล เพราะเชื่อมั่นในผู้ประกอบการที่คัดเลือกว่าเป็นบริษัทที่เข้มแข็ง ตามคุณสมบัติตามมาตรฐานสากลที่กำไหนดไว้