หุ้น การลงทุน

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดเพิ่ม 161.35 จุด ขานรับยอดค้าปลีกสูงเกินคาด

The Bangkok Insight
อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • The Bangkok Insight

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (17 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ "ดาวโจนส์" เพิ่มขึ้น 161.35 จุด ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 4 ในรอบ 5 วันทำการ เหตุตลาดขานรับยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาด บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,239.05 จุด เพิ่มขึ้น 161.35 จุด หรือ +0.37% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 5,841.47 จุด ลดลง 1.00 จุด หรือ -0.02% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 18,373.61 จุด เพิ่มขึ้น 6.53 จุด หรือ +0.04%

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดาวโจนส์

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนสิงหาคม

ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 19,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 262,000 ราย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม โดยจะลดลง 0.25% ในทั้ง 2 เดือน

เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ยืนยันถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ยังคงสนับสนุนโอกาส 89.4% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25%

หุ้นส่วนใหญ่ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลง รวมถึงกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ สาธารณูปโภคและอสังหาริมทรัพย์ซึ่งลดลง 0.9% และ 0.7% ตามลำดับ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่หุ้นกลุ่มธนาคารบวก 0.1% โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หลังการเปิดเผยผลประกอบการของไตรมาส 3 ของธนาคารระดับภูมิภาค

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X:https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

ดูข่าวต้นฉบับ