ปธน.โสมใต้ กินอาหารทะเลเกาหลีโชว์ หวังดับกังวล ปชช. ผวาปนเปื้อนจากการปล่อยน้ำโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ของเกาหลีใต้ รับประทานอาหารทะเลเป็นมื้อกลางวันในวันจันทร์ (28 ส.ค.) นี้ เพื่อหวังบรรเทาความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ปลาและอาหารทะเลในท้องถิ่น ที่เกิดขึ้นหลังจากญี่ปุ่นปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเล
สำนักงานประธานาธิบดีของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ในระหว่างการประชุมประจำสัปดาห์ในวันนี้กับนายฮัน ด็อกซู นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ ประธานาธิบดียุนได้รับประทานอาหารทะเลเป็นมื้อกลางวัน นอกจากนี้ โรงอาหารของสำนักงานประธานาธิบดียังจัดปลาดิบ เป็นเมนูอาหารกลางวันสำหรับเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานด้วย
“สำนักงานประธานาธิบดีตัดสินใจที่จะจัดอาหารทะเลเกาหลีเป็นเมนูอาหารกลางที่โรงอาหารในทุกๆ วัน เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เริ่มวันจันทร์นี้ หวังว่าประชาชนของเราจะบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของเราโดยปราศจากความกังวล” สำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุ
หลังจากญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำเสียที่บำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางการประท้วงคัดค้านทั้งในญี่ปุ่นและประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะจีนที่ประกาศแบนการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำทั้งหมดจากประเทศญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดี รัฐบาลเกาหลีใต้กล่าวว่า ยังไม่พบปัญหาทั้งในทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคจากการปล่อยน้ำดังกล่าวของญี่ปุ่น ทว่าชาวเกาหลีใต้ยังคงมีความกังวลกันอยู่อย่างมากเกี่ยวกับความปลอดภัยในอาหารและการปนเปื้อนของน้ำในมหาสมุทร
ขณะที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น แถลงในวันอาทิตย์ (27 ส.ค.) ว่า จากการทดสอบน้ำทะเลใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ยังไม่พบสารกัมมันตรังสีหลังการปล่อยน้ำแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมประมงในเกาหลีใต้ยังคงกลัวว่าการบริโภคอาหารทะเลจะลดลงอย่างมากจากความกังวลในเรื่องความปลอดภัย โดยผลสำรวจที่จัดทำโดย มีเดีย รีเสิร์ช เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่า ชาวเกาหลีใต้ 62% บอกว่าจะลดหรือหยุดบริโภคอาหารทะเลในทันทีที่การปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเลดังกล่าวเดินหน้าไป แม้รัฐบาลเกาหลีใต้จะรับรองว่าจะเฝ้าระวังการปล่อยน้ำอย่างใกล้ชิด
ด้านนายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้กล่าวเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่า จะห้ามนำเข้าสินค้าประมงและผลิตภัณฑ์อาหารจากจังหวัดฟุกุชิมะต่อไป จนกว่าประชาชนจะคลายความกังวลลง