หากพูดถึงโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ ที่แพร่ระบาดและเกิดขึ้นกับเด็กได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่อาจนึกถึงไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่เป็นอันดับแรก แต่ยังมีเชื้อไวรัสอีกกลุ่มหนึ่งที่พบได้บ่อยและสามารถทำให้เกิดอาการติดเชื้อรุนแรงในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ นั่นคือ ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza Virus) ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ง่ายผ่านละอองฝอยเมื่อมีการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อเราจึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา มาให้คุณพ่อคุณแม่ทำความรู้จักและหาทางป้องกันลูก โดยเฉพาะเด็กเล็กอาจได้รับเชื้อและแพร่กระจายต่อได้อย่างรวดเร็ว
ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza Virus) คืออะไร?แม้ว่าจะมีชื่อคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ (Influenza) แต่ก็เป็นไวรัสคนละสายพันธุ์กันไวรัสพาราอินฟลูเอนซา มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ โดยแต่ละชนิดก่อให้เกิดโรคที่แตกต่างกัน เช่น• HPIV-1 และ HPIV-2 มักเป็นสาเหตุของอาการครูป (Croup) หรือภาวะกล่องเสียงและหลอดลมอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบริเวณทางเดินหายใจส่วนบน• HPIV-3 มักทำให้เกิดปอดบวมและหลอดลมอักเสบ• HPIV-4 พบได้น้อยกว่าชนิดอื่นอาการของการติดเชื้อไวรัสพาราอินฟลูเอนซาลักษณะอาการมักแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของไวรัสและอายุของผู้ติดเชื้อ เช่น ผู้ใหญ่ได้รับเชื้อ อาจมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา แต่ในเด็กเล็ก อาการที่พบบ่อย ได้แก่• ไข้ต่ำถึงปานกลาง• ไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ• น้ำมูกไหล คัดจมูก• เจ็บคอ เสียงแหบ• หายใจลำบาก• และอาจมีอาการครูป (Croup) หรือภาวะกล่องเสียงและหลอดลมอักเสบ (Laryngotracheobronchitis)อาการจากเชื้อไวรัสพาราอินฟลูเอนซามักหายได้เองภายใน 7-10 วัน แต่ในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาจต้องระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หรือภาวะขาดออกซิเจนการรักษาปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนหรือยาสำหรับไวรัสพาราอินฟลูเอนซาโดยเฉพาะ เมื่อได้รับเชื้อจึงใช้การรักษาตามอาการเท่านั้นการป้องกัน ไวรัสแพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย และละอองฝอยจากการไอหรือจาม จึงควรใส่หน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกันโดยไม่จำเป็น ทำความสะอาดของเล่นและสิ่งของที่เด็กใช้ร่วมกัน และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ที่มีอาการป่วยอ่านบทความ: ไวรัส hMPV : เชื้อไวรัสตัวร้ายระบาดในกลุ่มเด็กเล็กอ้างอิงphyathaipiyavate