วันที่ 9 กรกฏาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แจ้งยกเลิกการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในวันพรุ่งนี้ ( 10 กรกฎาคม 2563) เนื่องจากรัฐมนตรีเศรษฐกิจกลุ่ม 4 กุมาร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลาออกจากสมาชิกพรรค นายกรัฐมนตรีจึงสั่งยกเลิกกระทันหันในวันนี้
- “ประยุทธ์” ประกาศปรับ ครม. โละ 4 กุมาร รื้อโควตาทีมเศรษฐกิจพรรคร่วม
- ด่วน! รัฐมนตรี 4 กุมาร ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
ก่อนหน้านี้ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ) กล่าวว่า ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ที่จะมาถึงในวันที่ 10 ก.ค. ที่จะถึงนี้มีความสำคัญมากเพราะเราเห็นว่าตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการปิดเมืองและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19โดยข้อมูลล่าสุดในเดือนพฤษภาคม การส่งออกติดลบถึง 22% และถ้าไม่รวมทองคำจะติดลบถึง 29%
ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมติด ลบ 20% การผลิตและการลงทุนติดลบ 10% ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่รุนแรงในรอบหลายๆปี
นายกอบศักดิ์กล่าวว่าการแก้ไขนั้นมีความจำเป็นจะต้องหารือกับทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม มีการประสานงานเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งในส่วนที่พรรคพลังประชารัฐดูแลด้านเศรษฐกิจมีเพียง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการคลัง พลังงานอุตสาหกรรม และอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม แต่ประเด็นเศรษฐกิจมีกระทรวงของพรรคร่วมรัฐบาลที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ คมนาคม แรงงาน การท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงเหล่านี้เป็นองค์ประกอบใน ครม. เศรษฐกิจอยู่แล้ว หากทุกกระทรวงมาร่วมกันคิดและหาทางแก้ไข จะช่วยผลักดันดันให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง เช่น ประเด็นเรื่องโลจิสติกส์เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคมถ้าหากสามารถแยกได้จะช่วยทำให้ระบบเศรษฐกิจและการขนส่งของไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นสำคัญที่จะหารือในวันที่ 10 ก.ค. นี้ คือประเด็นเรื่องของเอสเอ็มอี ซึ่งในขณะนี้ยังมีปัญหาคือ ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนจากมาตรการเอสเอ็มอี ที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้ โดยในการประชุมครั้งนี้ที่ประชุมจะหาแนวทางว่าทำอย่างไรที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีรายเล็กซึ่งมีอยู่ประมาณ 3,000,000 รายมีเงินทุนพอเพียงที่จะเดินหน้ากิจการของตนเองต่อไป รักษาระดับการจ้างงานต่อไป
นอกจากนี้จะมีการหารือถึงประเด็นการปรับหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อผ่อนปรน(ซอฟท์โลน) ทั้งนี้มีบางกิจการที่ต้องการซอฟท์โลนมากกว่า 500 ล้านบาท และมีการหารือประเด็นเรื่องการตั้งกองทุนเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่มีขนาดเล็กมากๆ โดยมีเงื่อนไขว่าเมื่อมีการปล่อยกู้แล้วจะให้เอสเอ็มอีเหล่านี้รักษาการจ้างงานต่อไป
นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ล่าสุดได้หารือกับสมาพันธ์เอสเอ็มอี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งได้นำเสนอแนวทางในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีมาแล้วและจะนำมารายงานให้ที่ประชุมรับทราบ เพื่อหาทางแก้ไขต่อไป
นอกจากนี้จะมีการเปิดให้รัฐมนตรีที่เป็นกรรมการนำเสนอความเห็น และแนวทางในการช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในระยะต่อไป
“ครม.เศรษฐกิจมีนายกฯซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เป็นประธานอยู่แล้ว ซึ่งการนัดประชุมครั้งนี้เพื่อให้ทุกคนมาช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินไปข้างหน้าและแก้ปัญหาที่ต้องการความร่วมมือจากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง”
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมในนัดถัดไปในวันที่ 24 ก.ค. จะมีการหารือถึงประเด็นการท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศหายไป 40,000,000 คน จะต้องมาดูว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือให้การท่องเที่ยวในประเทศได้รับความสะดวกและสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และต้องมาวางแผนร่วมกันในการที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติบางประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้
KTU ... ศึกนอก ร้อนแรง ศึกในร้อน ยิ่งกว่า...สุดท้ายจะพ่ายแพ้ตัวเอง....เนื่องจากศึกรอบทิศจะเกิดขึ้น...แล้วประชาชนจะไม่เดือดร้อนได้อย่างไร
09 ก.ค. 2563 เวลา 09.18 น.
Kee จะพังเพราะพวกมัวเมาหลงไหลในอำนาจ
09 ก.ค. 2563 เวลา 09.19 น.
ต้น..เมืองชล ละครลิง....
09 ก.ค. 2563 เวลา 09.29 น.
สะเทือน!!!!!
09 ก.ค. 2563 เวลา 08.22 น.
gorn ขายแป้งดิครับ
09 ก.ค. 2563 เวลา 08.41 น.
ดูทั้งหมด