ทั่วไป

"โซเดียม" ภัยเงียบจากของอร่อย แนะนำวิธีลดเค็มง่ายๆ ห่างไกล "โรคไต"

ไทยรัฐออนไลน์ - Social
อัพเดต 03 ก.ค. 2563 เวลา 14.01 น. • เผยแพร่ 03 ก.ค. 2563 เวลา 14.05 น.
ภาพไฮไลต์

สถาบันโรคทรวงอก เตือนการบริโภค "โซเดียม" ในปริมาณมากเกินกว่า 2,400 มิลลิกรัม หรือ มากกว่า 1 ช้อนชาต่อวัน จะทำให้ไตทำงานหนัก เสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตสูง

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โซเดียมเป็นส่วนประกอบของเกลือ ซึ่งเกลือ 1 กรัม จะมีโซเดียมประมาณ 400 มิลลิกรัม โดยร่างกายมีความต้องการโซเดียมประมาณ 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ถ้าได้รับมากร่างกายจะขับออกทางไตจะทำให้ไตทำงานหนัก ดังนั้นการที่ร่างกายได้รับโซเดียมในปริมาณที่พอเพียงไม่มากไม่น้อยจนเกินไปจะเกิดผลดีต่อการทำงานของไต

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ส่วนเกลือโซเดียม หรือ เกลือแกงเป็นตัวหลักของสารที่ให้ความเค็มในเครื่องปรุงรสที่นิยมใช้ คือ น้ำปลา, ซอสถั่วเหลือง, ซีอิ๊วขาว, ซีอิ๊วดำ, เต้าเจี้ยว ฯลฯ และยังใช้ในการถนอมอาหารประเภทหมักดอง เช่น ผักดอง, ผลไม้ดอง, ไข่เค็ม, ปลาร้า, ปลาเค็ม, เนื้อเค็ม เป็นต้น

นอกจากนี้ เกลือโซเดียมยังแฝงมากับอาหารอื่นๆ เช่น ขนมอบกรอบ ผงชูรส หากรับประทานอาหารที่เค็มจัดที่มีเกลือโซเดียม หรือเกลือแกงมากกว่า 6 กรัมต่อวัน หรือมากกว่า 1 ช้อนชาขึ้นไป จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบบริโภค ผัก ผลไม้

ทางด้าน นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในแต่ละวันไม่ควรบริโภคโซเดียมเกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งวิธีที่จะช่วยลดปริมาณการบริโภคโซเดียมมีหลายวิธี เช่น หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง ชิมอาหารทุกครั้งก่อนเติมเครื่องปรุง เลือกบริโภคอาหารสด หรืออาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูป

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

รวมทั้ง ขนมขบเคี้ยวที่มีเครื่องปรุงรสปริมาณมาก ลดความถี่ของการบริโภคอาหารที่ต้องมีเครื่องปรุงน้ำจิ้ม และลดปริมาณน้ำจิ้มที่บริโภค ทดลองปรุงอาหารโดยใช้ปริมาณเกลือ น้ำปลา ตลอดจนเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพียงครึ่งหนึ่งที่กำหนดไว้ในสูตรปรุงอาหาร ถ้ารสชาติไม่อร่อยจริงๆ จึงค่อยเพิ่มปริมาณของเครื่องปรุงรส

อย่างไรก็ตาม ควรปลูกฝังนิสัยให้บุตรหลานรับประทานอาหารรสจืด โดยไม่เติมเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำปลา ตลอดจนซอสปรุงรสในอาหารเด็กและทารก และควรบริโภคอาหารที่มีปริมาณโปแตสเซียมสูง เช่น ผักใบเขียวและผลไม้ จะสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้.

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 4
  • นก_ศศินันท์
    อายุ40ปีขึ้นไปแล้วควรงดการกินน้ำแข็งด้วยจะดีต่อไตในระยะยาวค่ะ
    03 ก.ค. 2563 เวลา 23.46 น.
  • ☎เป็นของใช้ส่วนตัว😒
    คนเปนกันมากโรคนี้ เพราะอาหารสมัยนี้เจือสารมาก
    03 ก.ค. 2563 เวลา 23.41 น.
  • มันจ่ายไม่ครบครับ...กล่องมันตัด...ใครประหยัดก็ตามสะดวกครับ
    03 ก.ค. 2563 เวลา 22.55 น.
  • Dea.r 🌴
    เห็นด้วย ลดเค็ม ลดโรค
    03 ก.ค. 2563 เวลา 22.48 น.
ดูทั้งหมด