ชีวิตหนึ่งๆสร้างขึ้นจากองค์ประกอบต่างๆ
ถ้าเปลี่ยนอะไรต่ออะไรที่เป็นองค์ประกอบหลักของชีวิตได้
ชีวิตก็น่าจะแปรรูปตามไปด้วย ไม่มากก็น้อย
เปรียบเหมือนรถสีจืดที่ไม่มีใครเหลียวมอง
พอไปเปลี่ยนล้อแม็ก ขัดเงา พ่นสีเติมลวดลายเข้าหน่อย
ใครต่อใครก็จ้องกันเหลียวหลังได้ง่ายๆ
แม้ยังไม่ปรับแต่งเครื่องเคราใดๆ เลยก็ตาม
.
การเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนฮวงจุ้ย เปลี่ยนเบอร์โทร.
ซึ่งเป็นศาสตร์แห่งการเปลี่ยนองค์ประกอบชีวิต
จึงนับเป็นศาสตร์ที่น่าพิจารณาอยู่
โดยเฉพาะสำหรับคนที่เต็มที่กับทุกสิ่งแล้ว
ไม่รู้จะดิ้นไปแก้ไขอะไร
แบบจับต้องได้เป็นเหตุเป็นผลแล้ว
.
หลายคนบอกว่า
ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ ประเสริฐที่สุด
ให้เก็บไว้เป็นมงคลชีวิต
ก็ปรากฏว่ามีพ่อแม่บางคน
ที่เพิ่งหันมาสนใจศาสตร์การตั้งชื่อ
ถึงกับตาลีตาเหลือกบอกลูกด้วยความร้อนใจเองเลยว่า
ให้รีบไปเปลี่ยนเสีย ชื่อที่ฉันตั้งให้แกเป็นชื่อฉิบหาย
.
โอเค! จะเปลี่ยนล่ะ
แต่จะเปลี่ยนด้วยความเชื่อแบบไหนดี?
.
หากเลือกจะเชื่อเรื่องการเปลี่ยนชื่อแซ่
คุณต้องตั้งธงไว้ หรือมีภาพในใจชัดๆ ว่า
จะเปลี่ยนให้ได้อะไรขึ้นมา
และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
คือ ถามตัวเองดีๆ ว่า
รู้สึกเป็นบวกหรือเป็นลบกับชื่อใหม่
เพราะความรู้สึกบวกลบเกี่ยวกับชื่อใหม่
เป็นสิ่งที่จะเกาะกุมคุณไปตลอด ๒๔ ชั่วโมง
หากรู้สึกไม่ดี หากรู้สึกว่าจำยาก
หากรู้สึกเดี๋ยวชอบเดี๋ยวไม่ชอบ
หากเช้าไหนตื่นมาแล้วรู้สึกไม่ใช่
ไม่อยากให้ใครเรียกด้วยชื่อใหม่นั้น
คุณก็อาจต้องปวดหัวแก้ชื่อใหม่กันอีก
.
ถ้าจะตั้งธงแบบพุทธ
คุณต้องถามตัวเองด้วยสติที่แจ่มใสว่า
เปลี่ยนชื่อแซ่แล้วแก้ชะตากรรมได้จริงหรือ?
.
ในทางพุทธ ชะตากรรมมาจากอะไร?
ดูที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้
เรามีกรรมเป็นของตน เราเป็นทายาทแห่งกรรม
เรามีกรรมเป็นกำเนิด เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
เรามีกรรมเป็นที่พึ่ง ที่ทำกรรมดีไว้ก็ตาม
ที่ทำกรรมชั่วไว้ก็ตาม เราจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นๆ
(อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต)
.
ความหมายคือ
ถ้าชาติก่อนคุณฆ่าคน ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไว้มาก
คุณต้องรับผล คือ เป็นโรคมาก
พื้นฐานโครงสร้างสุขภาพแย่มาก อาจจะตั้งแต่อ้อนแต่ออก
แล้วก็มีสิทธิ์อายุสั้น ตายไม่รู้ตัว หรือตายทรมาน
แบบเดียวกับที่วิธีฆ่าที่เคยใช้กับสิ่งมีชีวิตอื่น
ถ้าจะแก้กรรมก็ต้องแก้เจตนา
เปลี่ยนตัวเองจากผู้ปลิดชีวิตมาเป็นผู้ให้ชีวิต
หรืออย่างน้อยก็ไม่คิดพรากชีวิตผู้อื่นอีก
หากสุขภาพจะไม่ดีขึ้น อย่างน้อยก็คงไม่แย่ลง
ด้วยโทษฐานพอกบาปใหม่สำทับบาปเก่าเข้าไปอีก
.
แต่หากจะเอาแบบสบายอกสะดวกใจ
คงต้องเชื่อว่า แค่เปลี่ยนชื่อแซ่
ก็แก้ไขปาณาติบาตกรรม
หรือหลบหนีผลของบาปได้พ้น
สุขภาพจะดี มีอายุจะยืน แข็งแรงไปจนตายอย่างสงบ
.
ทำนองเดียวกัน
กรรมที่เคยยืมเงินแล้วไม่คืน
เคยยักยอกทรัพย์เป็นว่าเล่น
หรือโกงที่ดินใครเขาไว้จนหมดตัว
ชาตินี้เจอโกง เจอรีดไถ เจอขโมยขึ้นบ้านปีละสองรอบ
ถ้าแค่เปลี่ยนชื่อแซ่แล้วจบ
ก็สมควรยกระดับศาสตร์การตั้งชื่อขึ้นเทียบเท่าศาสนา
เพราะคงไม่มีศาสนาไหนช่วยใครได้ขนาดนี้อีกแล้ว
.
อันนี้ผมไม่ได้บอกว่าศาสตร์การตั้งชื่อ
เป็นเรื่องเหลวไหล เป็นเรื่องไม่ดี เพ้อเจ้อไร้สาระนะครับ
แต่จะดีกว่าไหม หากคุณเปลี่ยนชื่อด้วยความเข้าใจ
ด้วยความมีจุดยืนแบบคนในศาสนาแห่งเหตุผล
เช่น แก้อักษรที่ผิดให้เป็นถูก
อันนี้นับว่าแก้ข้อบกพร่องให้สมบูรณ์
แก้อักษรกาลกิณีให้เป็นเดชเป็นศรี
อันนี้ก็เปลี่ยนความกังวลให้เป็นสบายใจได้
.
แต่หากถึงขั้นยึดแต่ความเชื่อเรื่องอักษรเป็นหลักตั้ง
ยอมเปลี่ยนจากชื่อดีๆ มีความหมาย จดจำง่าย เห็นภาพชัด
ให้กลายเป็นชื่อที่หาความหมายไม่ได้ จำยาก เรียกยาก
อันนี้คุณอาจเปลี่ยนสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้แย่ลงโดยไม่รู้ตัว
.
สังเกตจากใจตัวเองเถอะ
ไม่มีใครชอบชื่อยาวๆ จดจำลำบาก
จะเรียกแต่ละที ต้องตะกุกตะกัก พูดผิดพูดถูกอยู่เรื่อย
จำไว้ว่าอะไรที่ทำให้ใจคุณ ใจคนอื่นยุ่งยาก
นั่นเป็นนิมิตหมายบอกอยู่โต้งๆว่า
ชีวิตคุณเริ่มยุ่งยากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
.
สังเกตดูคนที่บอกว่า
เปลี่ยนชื่อเป็นอะไรยาวๆ ยากๆ
แล้วอะไรอะไรดีขึ้นจริงๆ
ให้คุณสังเกตไปนานๆ แล้วมองภาพรวมทั้งหมด
คุณจะพบว่าที่แท้เขาบอกว่า
หลังเปลี่ยนชื่อ รู้สึกดีขึ้นสองสามวัน
กับสิ่งแปลกใหม่ในตัวเอง
พอนานไปรู้สึกเฉยๆ
ก็จะไม่เห็นบทบาทสำคัญของชื่อใหม่อีกเลย
.
ถ้าซีเรียสกับอักษรกาลกิณีน้อยลง
แล้วใส่ใจกับความกระชับสั้น เด่น เก๋ ให้มากขึ้น
คุณอาจพบความจริงอีกด้าน
เช่น เปลี่ยนชื่อแล้วอารมณ์เย็นลง
เพราะรู้สึกดีกับความหมายของชื่อเรียกตนเองมากขึ้น
.
เปลี่ยนชื่อแล้วได้ลาภลอยชั่วคราว
อันนี้ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้อีก
ถ้าชื่อนั้นมีความเป็นมงคลพอ
ธรรมชาติก็ทำพิธีรับขวัญให้เสียหน่อย
แต่อย่าไปปักใจว่า
เปลี่ยนชื่อทีเดียว จะได้ลาภลอยไปจนตาย
โดยไม่ต้องขวนขวายทำมาหากินใดๆเลย
.
หรือหากคุณจะส่องสำรวจ
องค์ประกอบหลักของชีวิตให้ลึกซึ้ง
แล้วค้นพบว่าเส้นทางกรรมสำคัญที่สุด
นำไปสู่ชะตาใหม่ได้แน่นอนที่สุด
ก็อาจหันมาตกลงกับตัวเองว่า
เอาล่ะ! ก่อนเปลี่ยนชื่อแซ่ให้เส้นทางกรรมเดิมๆ
มาทดลองเปลี่ยนเส้นทางกรรมให้ชื่อแซ่ดูก่อนไหม
หากปรับแก้เส้นทางกรรมให้กับชื่อเก่า
แล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้นในชั่วข้ามเดือนข้ามปี
จะยอมเสียเวลาไปอำเภอเพื่อเปลี่ยนชื่อใหม่คงไม่สาย!
.
(หมายเหตุ - ผมเคยเห็นคนที่เปลี่ยนชื่อ
แล้วกลายเป็นคนดัง คนประสบความสำเร็จมาจริงๆ
แต่พิจารณาแล้ว เป็นเพราะชื่อใหม่ติดปากคนง่าย จำง่าย
แล้วเขาก็ขยันขึ้น มีความเพียรพยายามสูงขึ้น
ไม่ใช่จะมาพูดเหมารวมว่า เปลี่ยนชื่อแล้วต้องดีขึ้นชัวร์ๆ
เพราะที่เห็นเปลี่ยนชื่อกันส่วนใหญ่ด้วยความปักใจเชื่อง่ายๆ
ในที่สุดก็ต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
จนกระทั่งสับสน บอกผิดบอกถูก
จำไม่ได้ว่าตัวเองชื่ออะไรกันแน่)
.
ผมคิดว่า ชีวิตของคนเรานั้นจะมีความสุขและดีขึ้นมาได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ความคิดและในการกระทำเป็นหลักที่สำคัญด้วยเหมือนกันนะครับ เพราะว่าในการที่เราคิดดี ทำดีแล้ว สิ่งที่ดีๆย่อมที่จะต้องเกิดขึ้นมาในชีวิตเสมอ.
05 ม.ค. 2563 เวลา 02.11 น.
ฉาง *คนที่ต้องเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เขาอาจมีเหตุผลมั้ง ใครอยากเปลี่ยนก็เชิญเปลี่ยนเลยครับ เปลี่ยนแล้วทำให้สบายใจ
05 ม.ค. 2563 เวลา 05.45 น.
Suchaya คนเราจะดีหรือไม่อยู่ที่การกระทำ,พระพุทธเจ้าสอนว่า,ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ค่ะ
05 ม.ค. 2563 เวลา 03.11 น.
Tui of Earth "เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยน"
05 ม.ค. 2563 เวลา 04.53 น.
Jeab 789 ผมว่ามีผล.. ถ้าผมชื่อบุญทิ้ง.. คงจะย้ำเตือนตัวเองว่าเป็นแบบนั้น.. หรือชื่อคำไม่สุภาพก็เห็นมีมากมายแบบนี้ก็น่าจะเปลี่ยนเพื่อตัวเอง
05 ม.ค. 2563 เวลา 10.03 น.
ดูทั้งหมด