เรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อ แอชลีย์ พูล กลายเป็นแรงบันดาลใจของคนทั้งโลก หลังจากที่เธอออกมาแชร์ว่าเคยประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เกือบคร่าขีวิตของเธอไปอย่างหวุดหวิด และทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากระหว่างที่เธอกำลังแค่จะขับรถพาเจ้าหมาไปหาหมอ
“วันที่ 31 มกราคม 2015 ตอนนั้นฉันอายุ 19 ปี และเป็นวันที่ฉันต้องขับรถพาเจ้าลิลลี่ ลูกหมาของฉัน ไปฉีดยา ทุกอย่างปกติมาก ๆ จนกระทั่งมีรถบรรทุกฟางที่อยู่ดี ๆ ก็ขับพุ่งมาทางเลนฉันอย่างเร็ว ฉันตกใจและหักพวงมาลัยหนีเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกชนแต่รถก็เกิดเสียหลักหมุนจนควบคุมไม่ได้และพลิกคว่ำ ตัวฉันกระเด็นออกนอกรถไปประมาณ 15 เมตรซึ่งตอนนั้นฉันมีสตินะ แต่ไม่รู้สึกอะไรเลย ขยับตัวก็ไม่ได้ ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวคือลิลลี่เป็นอะไรไหม ฉันพยายามลุกแต่ก็ทำไม่ได้จนมีคนที่เห็นเหตุการณ์วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด
ภาพรถของแอชลีย์หลังอุบัติเหตุ / ขอบคุณภาพจาก Love What Matters
“พูดอะไรสักอย่างหน่อย ช่วยพูดอะไรออกมาหน่อย” เขาตะโกนบอกด้วยความร้อนรน
“ช่วยด้วย” ฉันตอบกลับไป และสิ่งต่อมาที่ฉันจำได้อย่างลาง ๆ คือมีรถพยาบาลมารับตัวและส่งต่อฉันให้กับเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งเพื่อพาไปยังโรงพยาบาลใหญ่ในรัฐแอตแลนต้า
ระหว่างทาง ร่างกายฉันไม่ตอบสนองใด ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่าฉันหยุดหายใจตั้งแต่เทคออฟ พวกเขาต้องปั๊มหัวใจให้ตลอดทางและเมื่อไปถึงปลายทาง ร่างกายฉันก็หยุดทำงานโดยสิ้นเชิง ชีพจรหยุดเต้น ความดันเลือดก็กลายเป็นศูนย์ ฉันถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดในทันทีเพื่อกู้ชีวิตกลับคืนมา คุณหมอพบว่าม้ามของฉันแตก อวัยวะภายในเลือดออก ทีมแพทย์เลยต้องรีบรักษาเพื่อให้เลือดหยุดไหล แต่ร่างกายของฉันก็แตกร้าวมาก ๆ จนไม่สามารถช่วยอะไรให้ดีไปมากกว่านี้
ทุกคนภาวนาขอให้ฉันผ่านพ้นคืนนั้นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้ความหวังจะริบหรี่มาก ๆ ก็ตาม แต่ปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่มาก ๆ ก็เกิดขึ้น เพราะฉันทำได้!
ฉันมีชีวิตอยู่ด้วยท่อและเครื่องช่วยหายใจอีก 2 วันหลังจากนั้น จนคุณหมอเห็นว่าฉันแข็งแรงพอที่จะเข้าเครื่องซีทีสแกนเพื่อหาจุดอื่น ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บ แรงกระแทกส่งผลให้กระดูกสันหลังแตกเป็นเสี่ยง ๆ พวกเขาเลยรีบส่งฉันเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้งเพื่อดามกระดูกด้วยน็อตหลายแท่งเหล็กเล็ก ๆ ครั้งนี้ใช้เวลาทั้งหมด 8 ชั่วโมงและถึงแม้ผลจะออกมาเป็นที่น่าพอใจ ร่างกายท่อนล่างของฉันกลายเป็นอัมพฤกษ์ในทันที หมอบอกว่าฉันจะไม่สามารถเดินได้หลังจากนี้หรือแม้แต่ขยับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายท่อนล่างได้เลย แต่หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดปอดอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย ฉันก็ไม่หมดหวังนะ พยายามฝึกใช้ชีวิตใหม่ในรถเข็น ซึ่งระยะเวลาทั้งหมดที่ฉันต้องอยู่ในโรงพยาบาลก็ผ่านไปเกือบปี”
แอชลีย์ใช้ชีวิตอย่างมี “เป้าหมาย” มากขึ้น เธอบอกว่าการที่เธอประสบอุบัติเหตุตั้งแต่ยังเด็กกลายเป็นเหมือนบทเรียนชีวิตที่ถูกย่อเอาไว้ภายในเวลา 1 ปีที่เธอพักรักษาตัว “ตอนอายุ 19 คงไม่มีใครคิดหรอกว่าคุณนอนหลับ คุณตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นคนพิการภายในชั่วข้ามคืน มันสอนให้ฉันมองเห็นชีวิตจากอีกด้านหนึ่ง มองเห็นความสวยงามทุก ๆ สิ่งรอบ ๆ ตัวและการหาเป้าหมายของการมีชีวิตต่อไป”
ถึงนักกายภาพบำบัดจะวินิจฉัยว่าเธอจะเดินด้วยขาที่อ่อนเปลี้ยไม่ได้อีกแล้ว แต่แอชลีย์พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าไม่มีอะไรที่จะมาจำกัดความตั้งใจของเธอได้ ในวันแต่งงานของเธอ แอชลีย์เดินเข้าพิธีพร้อมกับคุณพ่อโดยปราศจากเก้าอี้รถเข็น เธอใช้เวลามากกว่า 3 ปีเพื่อฝึกซ้อมและฟื้นฟูร่างกายเพื่อวันสำคัญนี้ “ฉันมีภาพวันแต่งงานของตัวเองอยู่ในหัวแล้วว่า ฉันจะควงแขนคุณพ่อเดินเข้างานแบบสวย ๆ เหมือนที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝัน และฉันจะไม่ยอมให้อุบัติเหตุครั้งนี้เปลี่ยนภาพนั้นอย่างเด็ดขาด”
สามีของเธอก็คือแฟนคนที่อยู่เคียงข้างมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนเธอประสบเหตุร้ายจนถึงวันที่เธอลกับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง และลิลลี่ เจ้าหมาที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ยังคงเป็นเพื่อนซี้ที่สนิทกันมากกว่าเดิมของแอชลีย์จนถึงทุกวันนี้
“หวังว่าเรื่องราวของฉันจะทำให้ทุกคนกล้าลุกขึ้นสู้อีกสักครั้ง สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือจงออกไปใช้ชีวิตซะ ใช้มันให้คุ้มค่า ไม่ว่าคุณอาจจะต้องเจอกับเรื่องร้าย ๆ บ้างก็เถอะ ที่สำคัญ ควรตั้งเป้าหมายและออกไล่ตามความฝันนั้นอย่างไม่ย่อท้อ” ทั้งหมดนี้คือคุณค่าของชีวิตที่แอชลีย์ได้เรียนรู้และอยากบอกต่อ เราเองก็หวังว่าการหยิบยกเรื่องของเธอมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกัน จะช่วยเติมเต็มกำลังใจในช่วงที่ยากลำบากนี้ได้บ้าง
เราเป็นกำลังใจให้นะคะ : )
อ้างอิง
เรื่องนี้คงจะเป็นการสื่อให้รู้ได้ว่า ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมากับในชีวิต สิ่งสำคัญที่สุดที่สามารถจะช่วยทำให้ตัวเรานั้นก้าวผ่านกับในเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นมาได้ดีที่สุดก็คือ กำลังใจ.
13 พ.ค. 2563 เวลา 02.36 น.
Kulavir P. Pipat เรื่องราวดีๆ แต่ช่วยใช้ภาษาให้ถูกต้องด้วย
อัมพฤกษ์ ไม่ใช่ อัมพฤต
รู้รักษ์ภาษาไทย
13 พ.ค. 2563 เวลา 00.37 น.
NA ดีงาม กับความตั้งใจไม่ย่อท้อ
13 พ.ค. 2563 เวลา 00.32 น.
จิน พฤกษ์ น่าจะนำเสนอวิธีที่เธอสามารถกลับมาเดินได้ด้วยจะมีประโยชน์มากกว่านี้เยอะ
13 พ.ค. 2563 เวลา 02.37 น.
sutthipas AMAZING
13 พ.ค. 2563 เวลา 00.12 น.
ดูทั้งหมด