บริหาร''ความโกรธ''หยุด''คลั่ง''ล้างโลก

สายสืบสุขภาพ สัปดาห์นี้ค้นเจอข้อมูลจากนักจิตวิทยาด้านการบริหารจัดการความโกรธที่มีสองเทคนิคง่ายๆมาแนะนำ และใช้ได้ผลกับคนที่ขึ้นไกเตรียมจัดการคู่อริ แต่สุดท้ายกลับวางปืนลงได้ในพริบตา

นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ดร.คริสเตียน คอนติ บอกว่า ทุกคนต่างเคยโกรธทั้งนั้น ความโกรธเกิดขึ้นเมื่อเราอยากจะทำในสิ่งที่เราต้องการ แต่มีใครสักคนพูดหรือทำบางสิ่งใส่เรา จนเราโกรธ และทำอะไรบางอย่างที่เราก็ไม่คิดว่าเราจะทำมาก่อน หรือพูดอะไรที่เราไม่ตั้งใจพูดออกไป

ดร.คริสเตียน แนะนำสองเทคนิคบริหารความโกรธที่ปฏิบัติได้จริง ดังนี้

1.เทคนิคหุ่นเชิด หรือPuppet World Technique

โดย ดร.คริสเตียน เชิดหุ่นให้ดูและบอกว่าวันนี้เป็นวันที่ดีของหุ่นตัวนี้ จน ดร.คริสเตียน พูดหยาบคายใส่ หุ่นก็อารมณ์เสีย แต่แล้วก็บอกมันว่าขอโทษ จริงๆแล้วคุณเท่มาก ดูดีมาก ซึ่งก็ทำให้หุ่นอารมณ์ดีขึ้น เหตุการณ์นี้ทำให้เห็นว่าหุ่นไม่ได้ควบคุมตัวเอง แต่คนที่พูดกับหุ่นคือคนที่ควบคุมมัน

เมื่อเราอนุญาตให้คนอื่นกำหนดการกระทำและความรู้สึกของเรา เราจะกลายเป็นหุ่นเชิดของคนๆนั้น แต่เทคนิคหุ่นเชิดที่สาธิตให้ดูจะทำให้เราจำภาพได้ ว่าเราไม่ต้องการเป็นหุ่นเชิดทางอารมณ์ของใคร ''ฉันต้องการควบคุมชีวิตของตัวเอง แทนที่จะให้คนอื่นมาควบคุมชีวิตของฉัน''

เทคนิคหุ่นเชิดจะทำงานได้ผลดีมากขึ้นเมื่อเรารู้จักอีกเทคนิคหนึ่ง ซึ่งจะคงสภาพการบริหารความโกรธได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2.เทคนิคอำนาจในการใช้ชีวิต

จริงๆแล้วเรามีอำนาจในการใช้ชีวิตมากอยู่แล้ว เพียงแต่มองไม่เห็น ดร.คริสเตียน จึงยกตัวอย่างง่ายๆ เปรียบอำนาจในการใช้ชีวิตเหมือนเสื้อของไอรอนแมน ที่ใส่ปุ๊บมีพลังปั๊บ แล้วยกหนังสือไว้ที่อก ให้หนังสือคือสัญลักษณ์อำนาจในการใช้ชีวิตของเรา เมื่อเจอใครทำหยาบคายใส่ ก็เหมือนเขาอยากได้หนังสือเล่มนั้น ถ้าเรายกให้เขา ก็เปรียบเหมือนเราเอาอำนาจในการใช้ชีวิตให้เขาไปนั่นเอง

สิ่งนี้ต้องทำเป็นรูปธรรมให้เห็นจึงจะจำและนำไปใช้ไปฝึกได้ เพราะในความจริงเมื่อคนอื่นมาพูดมาทำอะไรไม่ดีกับเรา เราก็เผลอยกอำนาจในการใช้ชีวิตของเราให้เขาไปใช้อยู่เสมอ

ดังนั้น ดร.คริสเตียน ให้บอกกับตัวเองว่า ''ฉันเลือกที่จะรักษาอำนาจในการใช้ชีวิตของตัวเอง''เช่นเดียวกับการใช้เทคนิคหุ่นเชิด ที่ไม่ให้ใครมาควบคุมการใช้ชีวิตของเรานั่นเอง

อดีตนักโทษคนหนึ่งที่เข้าอบรม 52 สัปดาห์ในการจัดการความโกรธกับ ดร.คริสเตียน ได้ใช้สองเทคนิคนี้หยุดตัวเองได้ก่อนที่จะยิงคู่กรณี โดยเขาบอกว่า เขาเกือบไม่ได้กลับมาอบรม เพราะไปเจอโจทย์เก่า แค่เห็นหน้า เขาก็รีบวิ่งเข้าบ้าน หยิบปืนมาขึ้นนกเสียแล้ว

แต่จู่ๆเขาก็นึกถึงหน้าดร.คริสเตียนลอยขึ้นมาและนึกขึ้นมาได้ถึง ''การยกอำนาจในการใช้ชีวิตของเราให้คนอื่น'' เขาจึงมีสติว่าถ้าเขายิงคู่อริ มันก็เหมือนเขายกอำนาจในการใช้ชีวิตของเขาให้คนนั้นไป และจบที่เขาถูกจับ เข้าคุก ต้องโทษประหารชีวิต ชีวิตทั้งหมดก็จบอยู่แค่นั้น

แต่เมื่อเขาจำได้ว่า มันเป็นอำนาจในการใช้ชีวิตของเขา การมีสติเรื่องอื่นๆก็ตามมา…ผู้ชายคนนั้นเคยมีเรื่องกันเมื่อหลายปีมาแล้ว เขาเองก็รับโทษแล้วพ้นโทษแล้ว และตระหนักว่าแท้จริงแล้ว เขาต้องการอิสรภาพ ต้องการรักษาอำนาจในการใช้ชีวิตของตัวเอง ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่จะยกอำนาจนี้ให้คนอื่น และเป็นหุ่นให้ใครเชิดอีกด้วย

ความเข้าใจในสองเทคนิคนี้ เขาจึงบริหารความโกรธและควบคุมตัวเองไว้ได้ รอดจากเรื่องแย่ๆในวันนั้นมาได้ในที่สุด

ดร.คริสเตียน สรุปเรื่องการใช้เทคนิคหุ่นเชิดและเทคนิคอำนาจในการใช้ชีวิต ด้วยคำถามว่า เราต้องการใช้ชีวิตแบบเป็นหุ่นเชิดของใครไหม? และ เราต้องการยกอำนาจในการใช้ชีวิตของเราให้คนอื่นหรือไม่?

เพียงรู้เท่านี้ก็จะทำให้คุณบริหารความโกรธของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปลี่ยนทิศทางชีวิตจากร้ายกลายเป็นดีได้ อย่าลืมฝึกฝนซ้ำๆเพื่อความว่องไวในการใช้สองเทคนิคนี้ด้วยนะคะ

…………………………………………..

สายสืบสุขภาพ : ศศิวรรณ์ เลิศวิริยะประภา

ขอบคุณข้อมูลจากดร.คริสเตียน คอนติ