ไลฟ์สไตล์

อาจไม่ได้ผิดที่เรา แค่เขาหมดใจ - ดีเจพี่อ้อย

TOP PICK TODAY
เผยแพร่ 07 พ.ค. 2563 เวลา 17.00 น. • ดีเจพี่อ้อย

            ช่วงชีวิตที่ต้องรับมือกับโควิด กลายเป็นคนติดซีรี่ส์เกาหลีไปเลยค่ะ  ก่อนหน้านี้ไม่กล้าดู  เพราะรู้ว่าติดแน่  แต่เรื่องนี้มีแต่คนชวนดูด้วยประโยคที่ว่า “พี่อ้อยต้องดู  มันClub Fridayมากๆ”  กำลังพูดถึง  “ A World of Married Couple”  ซีรี่ส์ที่พูดถึงเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในทุกด้าน แล้ววันหนึ่งเพิ่งรู้ว่าสามีนอกใจไปกับลูกสาวเศรษฐี  เล่าแค่นี้ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่หาได้ทั่วไปในครอบครัวไทย  แต่รายละเอียดของเรื่องทำให้หยุดดูไม่ได้จริงๆ   สังคมเกาหลีที่เชื่อเสมอว่า  ผู้หญิงต้องพึ่งผู้ชาย  และการเป็นหม้ายคือความทรมาน   เพราะฉะนั้นต้องทนต่อไปให้ได้สิเพื่อรักษาสถานภาพครอบครัว  หรือแม้แต่มุมของสามีที่กล้าพูดว่า  “ถ้าเธอให้อภัยฉันอีกหน่อย เราก็จะกลับมาเป็นครอบครัว  ทำไมใจร้อนที่จะหย่า”  เฮ้ย!!  ทำไมผู้หญิงที่ทนให้คนรักนอกใจไม่ได้    กลายเป็นผิด    หรือแม้แต่บางประโยคที่ซ่อนอยู่ในเรื่อง  ตอนที่ภรรยาขอให้สามีสารภาพเถอะว่า เธอมีคนอื่น  แต่เขาก็ยังยืนยันว่า เธอน่ะคิดมาก   จนภรรยาพูดไปว่า “เธอนอกใจ ฉันยังไม่เสียใจเท่าเธอโกหก” จริงค่ะ   นอกใจ คือทรยศ  แต่ถ้ายังโกหก  เหมือนดูถูกกันว่าฉันโง่  … ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต่อให้เป็นภรรยาที่อ่อนแอ แต่ยังต้องเป็นแม่ที่แข็งแกร่ง เพื่อเสริมแรงให้ลูกรับมือกับการอยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้างให้ได้   ชีวิตคู่ไม่มีอะไรง่าย  ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  ยังเชื่อว่า การนอกใจคือเรื่องธรรมดา  และน้ำตาของภรรยาคือเรื่องปกติ   

           จะชาติไหนภาษาไหน  ปัญหาหัวใจ  คือจุดอ่อนของทุกคน  จะเรื่องจริงหรือในซีรี่ส์  บางเรื่องไม่ได้ใช้เหตุผลใดเท่าความถูกใจ   และอย่าไปหาเหตุผลอะไรกับคนเห็นแก่ตัวเลย  

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

            “  พี่อ้อยคะ ปัญหาของน้อง มันเกิดจากเรื่องงานแต่งงานค่ะ ก่อนหน้านี้กับแฟนเรารักกันมาก ใช้ชีวิตปกติดี แต่อยู่กันคนละที่นะคะ คบกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จนมาถึงตอนนี้  8 ปีแล้ว  เขามาขอหมั้น กำหนดการแต่งงานคือไม่เกินปลายปีนี้ เราก็มีคุยกันเรื่องฤกษ์แต่งงานและทะเลาะกันตลอด เพราะเขาบอกว่าหาเงินคนเดียวมันไม่ทัน   เรายังแนะนำไปว่า กู้เงินก่อนได้นี่นา  เขาบอกว่า ชีวิตคู่ที่เริ่มจากการเป็นหนี้ไม่เอา ทะเลาะกัน จนสุดท้าย เป็นเราที่ไม่คุยกับเขา และปล่อยเวลาล่วงเลยไป1เดือนไม่ติดต่อกันเลย  พอถึงวันเกิดเขา เลยโทรไป สุดท้ายได้คำตอบคือเลิกกัน  เสียใจมากค่ะพี่ ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนดี   ตอนนี้เขามีคนใหม่ไปแล้ว เขาพาครอบครัวแฟนใหม่เขาไปเที่ยวสนุกสนาน  แต่เรายังจมปลักกับความรักและรู้สึกผิด  ตอนนี้อยู่ได้เพราะหลอกตัวเองว่าเขายังอยู่ เขาแค่นอนหลับ เขาแค่ไปทำงาน เขาแค่ไม่ว่าง คิดวนอยู่แบบนี้ แต่ทุกครั้งยิ่งคิดยิ่งร้องไห้ มันเคว้งไปหมดเลยค่ะพี่ หรือเพราะเราบังคับให้เขาหาฤกษ์มาแต่งงาน เขาเลยเปลี่ยนไปคะ” 

             ก่อนจะโทษว่าเป็นความผิดของเรา  มองเขาตามหลักความเป็นจริงก่อน  หายไป 1 เดือน เขามีคนใหม่ได้ไวทันใจ แถมพาครอบครัวแฟนใหม่ไปเที่ยวได้เร็วขนาดนั้นเลยหรือ   8 ปีที่ผ่านมา  ไม่เจอหน้ากันไป 1 เดือน ความสัมพันธ์เคลื่อนตัวไวไปไหม  หรือเขาเริ่มหมดใจมาได้ซักพัก  แต่ไม่รู้จะแตกหักยังไง    พอมีปัจจัยที่พอจะอ้างได้เลยไปง่ายๆขนาดนี้    1เดือนที่เราไม่ได้โทรฯไป  เขาไม่ทุรนทุรายจะโทรฯมาหน่อยหรือ ไม่ได้ถือทิฐิ    แค่มองตามหลักความเป็นจริง  สิ่งที่น้องร้องขอ  มันมากเกินกว่าผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งร้องขอตรงไหน   คบมา  8 ปี  ใครก็อยากรู้ว่า  เราอยู่ในอนาคตที่เขาวางไว้หรือเปล่า   แต่สิ่งที่น้องไม่ได้เล่าคือ  น้องกดดันเขาเบอร์ไหน  การที่เขามาขอหมั้น ก็ถือว่าจริงจังระดับหนึ่ง แต่เราถึงขั้นอยากให้เขาแต่งงาน  ในช่วงเวลาที่ทุกคนล้วนเจอเรื่องยาก   ลำบากกับปัญหาเศรษฐกิจหลังจากโควิด   การเสนอให้เขาเป็นหนี้เพื่อจะมีชีวิตคู่ มุมนี้ก็ยากอยู่  แต่คุยกันดีๆก็ได้นี่นา     เขาอยากให้เป็นแบบไหน  ต่างฝ่ายต่างช่วยกันหาวิธี   ปัญหาความรักบางทีก็แก้ไม่ยาก  แต่แสนจะลำบาก ตรงแก้ปัญหาความไม่รักแล้วนี่ล่ะค่ะ    บางคู่เขาจัดงานแต่งเล็กๆที่สวนหลังบ้านตั้งกล้องให้เพื่อนพ้องร่วมฉลองผ่านหน้าจอ ป้องการการติดเชื้อโควิดด้วย    สินสอดก็คุยกันทั้งสองบ้าน  รักกันมานานขนาดนี้   พ่อแม่แค่อยากให้ลูกได้คู่ชีวิตที่ดี  ซึ่งก็ไม่ได้การันตีด้วยยอดเงินในบัญชีเช่นกัน

              แต่เมื่อมาถึงวันนี้  พี่ก็ไม่อยากให้น้องหลอกตัวเองไปวันๆ  เดินหน้ายอมรับความจริง คือสิ่งที่ควรทำ    เขาเลือกทางใหม่ๆในชีวิตเขาแล้ว  เมื่อเขามีความสุขกับปัจจุบัน   เราจะจมทุกข์กับวันเก่าๆ ก็ไม่แฟร์กับหัวใจเรา  เศร้าก็ร้องไห้  พอสู้ไหวก็เดินหน้าต่อ  ไม่มีใครผิดที่สุดในวันที่ชีวิตคู่เดินหน้าต่อไม่ได้   ถ้าเลือกได้  ใครจะอยากอกหัก   แต่เมื่อรักของเราไม่เท่ากัน ก็แค่บอกเลิกให้จบๆ ไม่คบซ้อน ช่วงเวลาที่ผ่านมา ถือซะว่า  เราได้เรียนรู้กัน  มีความสุขกับวันนั้น ที่ไม่ใช่วันนี้  ความเหมือนเดิมไม่มีจริง  ทุกสิ่งเคลื่อนตัวได้  คนที่เคยรักเราที่สุด   อาจกลายเป็นคนที่ทำร้ายเราได้เจ็บที่สุด   ถ้าโควิด  ทำให้เกิด new normal กับการใช้ชีวิต  วิกฤตความรักครั้งนี้  ก็ต้องหาวิธีเปลี่ยนการใช้ชีวิตเช่นกัน    ความผูกพัน หรือ  ความเคยชิน ที่คิดว่านี่คือที่ปลอดภัย  วันนี้อาจกลายเป็นที่อันตราย       คนที่รอดได้ ไม่ใช่คนที่ไม่เคยร้องไห้  แต่คือคนที่รู้ว่า  ร้องไห้ได้ ก็หยุดได้  และพร้อมจะรับมือทุกเงื่อนไขของการเปลี่ยนแปลง ในวันที่ “โลก”  และ “ใจ”เปลี่ยนไปได้ทุกวัน   ไม่ต้องไปหาว่าใครผิด  แค่คิดที่จะใช้ชีวิตต่อ   เมื่อถึงทางแยก  ไม่มีใครรู้ว่า แยกไหนจะดีต่อใจที่สุด  ทุกคนทำได้แค่เลือกในสิ่งที่ดีที่สุดในจุดที่ต้องเลือกทั้งนั้น แล้วเมื่อเขาเลือกคนละทางกับเรา  ต้องทำให้เขาเห็นว่า    ต่อให้ไม่มีเขา  ทางของเราก็ไม่ได้ตันซะหน่อย  

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ความเห็น 11
  • อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวของผมนะ คือผมชอบชอบความคิดของฝ่ายชายตรงที่ว่า ในการเริ่มต้นของในการใช้ชีวิตคู่นั้น ก็ไม่ควรที่จะเริ่มต้นด้วยการเป็นหนี้เพราะว่าในสถานการณ์ของทุกวันนี้เราก็ไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร.
    07 พ.ค. 2563 เวลา 22.08 น.
  • พอหลุดจากผู้หญิงได้ ผช.เริ่มต้นชีวิตใหม่ อย่างมีความสุขทันที ถ้าไม่พร้อมจะแต่งงานกับเรา เหมือนเขาหาวิธีเลิกกับเราไว้อยู่แล้วคะ ฉันไม่เคยคิดจะไปแย่งใคร หรือบังคับใจใครให้มารักเราเลย และก็ไม่ชอบเห็นเราเป็นทางเลือก ตัวเลือกของใครหลายๆคน คุณผู้หญิงหาคนที่เหมาะสมกับเราดีกว่า ที่เขายอมรับเราได้จริงๆ เอาคนไม่ได้รักเรา เอามาทำร้ายจิตใจเราทำมัย ทำกับเอามาฆ่าตัวเอง
    08 พ.ค. 2563 เวลา 00.27 น.
  • ❤️benjawannakron 🇹🇭
    เค้าคงคบกันอยู่แล้ว หาจังหวะเลิกได้พอดี
    08 พ.ค. 2563 เวลา 08.42 น.
  • ปล่อยไปเถอะดีกว่าเลิกกันตอนมีลูกผญจะลำบากหลายอย่างคนเราถ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อกันรีบๆตัดใจขออวยพรให้มีชีวิตที่ดีกว่าอยู่กับผชคนนี้
    08 พ.ค. 2563 เวลา 03.53 น.
  • OatOatOat
    น่านจิ จงกลับมาแข็งแรงและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป
    07 พ.ค. 2563 เวลา 22.33 น.
ดูทั้งหมด