เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีคำสั่งให้พระสังฆาธิการพักจากตำแหน่งหน้าที่ กรณีช่วงเช้าของวันที่ 29 มีนาคม มีการจัดบวชนาคที่วัดสามวิหาร ซึ่งมีผู้ร่วมงานจำนวนมาก และมีกิจกรรมแห่นาครอบอุโบสถ มีแตรวง เครื่องเสียง ผู้ร่วมงานอยู่ใกล้ชิดกันมาก โดยมีพระครูวิบูลอาจารพิพัฒน์ เจ้าคณะตำบลท่าวาสุกรี เขต 2 เป็นเจ้าอาวาส และเป็นพระอุปัชฌาย์ให้การอุปสมบท เป็นการจัดกิจกรรมในช่วงที่บ้านเมืองประสบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยมีข้อกำหนดมิให้จัดการชุมนุมหรือทำกิจกรรม ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด
นอกจากนี้ ยังมีประกาศของคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือเป็นการขัดกิจกรรมที่ขัดคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินและของคณะสงฆ์ อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่การคณะสงฆ์ อันถือเป็นการละเมิดจริยาพระสังฆาธิการอย่างร้ายแรง ซึ่งต้องมีการสอบสวนพิจารณาความผิด และระหว่างการสอบสวน จึงควรให้พักจากตำแหน่งหน้าที่ไว้ก่อน จนถึงวันที่ 29 มีนาคม 2564
ล่าสุด พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดศาลปูน เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา มีประชาชนจัดการอุปสมบทลูกหลาน ที่วัดสามวิหาร จริงๆ แล้วในช่วงนี้ ในฐานะที่เป็นเจ้าคณะอำเภอได้กำชับออกเป็นเอกสารตามนโยบายของการควบคุมโรคโควิดที่กำลังระบาดอยู่กับพี่น้องประชาชน เห็นว่าการกระทำดังกล่าวที่ได้ทำการอุปสมบทนั้น อาจไม่ชี้แนะกับเจ้าภาพ อย่างไรก็ตาม จะจัดพิธีกรรมใดๆ ก็ตาม ต้องระลึกนึกถึงว่าปัจจุบันสถานการณ์บ้านเมือง คือ เชื้อไวรัสโควิด ซึ่งการกระทำดังกล่าวดูไม่เหมาะ
ในฐานะเป็นเจ้าคณะผู้ปกครองเจ้าคณะตำบลเป็นพระอุปัฌชาย์ ช่วงนี้ควรให้งดหรือเลื่อนการจัดไปก่อน แต่ยังมีการจัดงาน จึงอาศัยหลักกฎหมาย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ เห็นควรให้พักก่อนเพื่อเป็นแบบอย่างจะไม่ให้คณะสงฆ์จัดกิจกรรมเช่นนี้อีก
“การจัดกิจกรรมเช่นนี้เหมือนการไปรวมประชาชนหมู่มาก โดยไม่รู้ว่าประชาชนที่มา อาจมีเชื้อไวรัส หรืออาจไม่มี แต่เพื่อความสบายใจ ถ้าเล็งเห็นความสำคัญของส่วนนี้แล้ว ก็ควรงดไว้ก่อน หรือเลื่อนไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พระสังฆาธิการ ได้ประชาสัมพันธ์ ให้พี่น้อง ญาติโยมทั้งหลายได้เข้าใจ เราก็ต้องปฎิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองและกฎหมายของคณะสงฆ์นั้น ถือว่าใช้มาตรการที่อ่อนที่สุด คือ ให้พักไว้ก่อนจนกว่าจะสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จ และให้พระสังฆาธิการทั้งหลายได้เห็นเป็นแบบอย่าง และให้ยึดเป็นแนวทางปฎิบัติ
“ขอให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจ การบวชทำได้ แต่ขอให้ผ่านพ้นสถานการณ์ช่วงนี้ไปก่อน เบื้องต้น มีการสอบถามไปแล้วบางส่วน ท่านชี้แจงมาว่า คณะเจ้าภาพแจ้งว่าไม่มีแตร ไม่มีการแห่ ไม่มีทานเลี้ยง แต่เมื่อจัดจริงๆ แล้วเกิดมีขึ้นมา ท่านเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน”
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์
ภาพจากเฟซบุ๊ค วัดศาลาปูนวรวิหาร
𝐭𝐈Ⓝє หากจะบวชแบบข้าวหม้อแกงหม้อไม่จัดงานเอิกเริก ไม่เน้นรับแขกไม่เน้นซอง บวชเพื่อทำตามประเพณีอันดีงาม
และอยู่ศึกษาพระธรรมที่วัด ก็ช่วยได้ทางนึงนะครับ
ไม่ต้องไปไหน
30 มี.ค. 2563 เวลา 16.42 น.
aun บางทีก็เห็นใจพระนะตอนขอบวชรับปากแต่พอวันจริงก็อ้างว่าคนเค้ามาช่วย พระครูกลายเป็นพระโคเลย ก็ต้องเลยตามเลย
30 มี.ค. 2563 เวลา 17.21 น.
Tnagon.. noi คนรักษากฎหมายต้องเอาจริงทำเป็นตัวอย่างจะได้ไม่มีใครผ่าฝืนคำสั่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
30 มี.ค. 2563 เวลา 22.37 น.
Ae เห็นควรครับ
30 มี.ค. 2563 เวลา 21.30 น.
อนาคามี บวช7วัน15วัน จัดงานเอิกเกริกใหญ่โตในช่วงโรคระบาดหากมีใครติดเชื้อมาสักคนโดยที่ไม่รู้ตัวแล้วเอาเชื้อมาแพร่สนุกกันละทีนี้ งานบวชแทนที่จะได้บุญติดเชื้อมาล้มตายกลายเป็นงานบาป
30 มี.ค. 2563 เวลา 17.11 น.
ดูทั้งหมด