ทั่วไป

75 ส.ส.เข้าชื่อด่วน! ส่งพ.ร.บ.งบประมาณ 63 ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

ประชาชาติธุรกิจ
อัพเดต 22 ม.ค. 2563 เวลา 06.28 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. 2563 เวลา 05.34 น.

ลาก พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 เข้าสู่เกมการเมือง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขู่ให้ 2 ส.ส.ภูมิใจไทย “นาที-ฉลอง” สารภาพว่าไม่ได้โหวตร่างกฎหมายงบ 2563 ในมาตราใด เพื่อไม่ให้กฎหมายงบเป็นโมฆะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล วันนี้ จะมีการเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำเนินการตาม ข้อบังคับการประชุมข้อ ที่ 139 ให้ ส.ส. เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 ของจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ หรือ 75 คนเสนอประธานรัฐสภา นำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 2563 ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ กรณีมีผู้ลงมติ โดยไม่ได้อยู่ในห้องประชุม หรือมีการเสียบบัตรแทนกัน ของ ส.ส. พรรคภูมิใจไทย 2 คน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 63 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับช่วงเวลาหรือ ไทม์ไลน์การเสียงบัตรลงคะแนนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 2563 หรือร่างกฎหมายงบประมาณ ของนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.แบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในขณะที่มีข้อมูลปรากฎว่ามีการเดินทางไปต่างประเทศ จากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังประเทศจีน วันที่ 11 มกราคม 2563 เที่ยวบิน WE680 โดยมีข้อมูลว่าในเวลา 15.28 นางนาทีผ่านจุดด่านตรวจคนเข้าเมือง แต่เมื่อเวลาผ่านไปกับมีข้อมูลว่าในเวลา 15.46 นางนาทีเสียบบัตรโหวตกฎหมายงบประมาณในมาตรา 49

ซึ่งนายนิพิฏฐ์ตั้งข้อสังเกตว่าหากเดินทางด้วยขบวนพิเศษมีรถนำ หรือ VVIP อย่างน้อยต้องออกก่อนเวลา อย่างน้อย 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่าในสภาผู้แทนราษฎรมีการกดบัตรแทนกัน 2 คน คือ นายฉลอง เทิดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง และนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทยเช่นกัน

นายนิพิฏฐ์ยังอ้างข้อมูลว่าได้เช็คข้อมูลการโหวตของนางนาทีย้อนไป 4 มาตราพบว่ามีการโหวตอยู่ด้วย ซึ่งตามข้อมูลหลักฐานนั้น นางนาทีอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ทั้งนี้ยืนยันการเปิดเผยข้อมูลเป็นการทำหน้าที่ ส.ส. และไม่มีเรื่องส่วน และมาแถลงเพื่อเปิดเผยข้อมูลเท่านั้น ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของสภาผู้แทนราษฎรที่จะพิจารณาดำเนินการต่อจากนี้ ขณะเดียวกันไม่ได้ตรวจสอบการโหวตของคนอื่นเพราะไม่มีข้อมูล แต่กรณีนางนาทีและนายฉลองมีการโพสต์ภาพผ่านโซเชียล

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

และประเด็นการกดบัตรแทนกันมีความผิดเกิดขึ้น 2 ลักษณะ ทั้งความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกระบวนการตรากฎหมายงบประมาณปี 2563 และการรับผิดทางอาญาของเจ้าของบัตรว่ารู้เห็นเป็นใจนำบัตรตัวเองไปให้คนอื่นกดหรือไม่ ซึ่งต้องพิสูจน์ในเรื่องนี้ เชื่อว่าจะไม่กระทบจนทำให้มีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญที่อาจทำให้ร่างกฎหมายเป็นโมฆะ

นายนิพิฏฐ์ ย้ำว่าต้องแยกเรื่องความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่าพยายามช่วยไม่ให้กฎหมายนี้ไม่ให้เป็นโมฆะ ตามรัฐธรรมนูญ โดยพรรคภูมิใจไทยต้องให้ นางนาทีและนายฉลองมายอมรับสารภาพว่าไม่ได้กดบัตรมาตราใดบ้าง เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเฉพาะบางมาตราไม่กระทบทั้งฉบับ ซึ่งถือว่าเป็นการเสียสละ และย้ำว่าฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรไม่เด็ดขาด กรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงการโหวตของนายฉลอง เพราะในการโหวตมาตรา 31 เวลา 20.30 นั้นเป็นเวลาที่เครื่องบินของนายฉลองเดินทาง แต่ว่าก่อนหน้านั้นยังมีการโหวตของนายฉลองทั้งที่ข้อเท็จจริงต้องเดินทางไปยังสนามบินก่อนแล้ว

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 7
  • wiwat
    สาระสำคัญของเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.กระบวนการตรา พรบ.(การลงมติ) 2.เนื้อหาสาระใน พรบ.(ขัดหรือแย้งกับกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่) กรณี1 มันผิดแน่นอนที่ตัวบุคคล เพราะมีการลงคะแนนแทนกัน แต่จะถึงขั้นเป็นโมฆะหรือไม่ ต้องดูว่าการลงคะแนนแทนกัน มันมีผลทำให้ผลการลงมติเปลี่ยนแปลงหรือไม่(แพ้,ชนะ) เพราะหากคิดแค่ว่าลงคะแนนแทนกันต้องเป็นโมฆะ ทุกครั้งที่มีการลงมติ ถ้าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยต้องการให้เป็นโมฆะ ก็เสียบบัตรแทนกันไม่ดีกว่าหรือ? ส่วน กรณี 2 ถ้าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญก็ชัดเจนว่า โมฆะแน่
    22 ม.ค. 2563 เวลา 07.38 น.
  • เก่ง..มาจากไหนก็แพ้.
    สาวไส้ออกมา
    22 ม.ค. 2563 เวลา 07.37 น.
  • วิธีการดูคนว่าเขาเป็นคนดีหรือคนเลว คือ คนที่ทำถูกต้องตามกฎหมายคือ"คนดี" และ คนที่ทำผิดกฎหมายคือ"คนเลว" ง่ายๆแต่ชัดเจน เพราะกฎหมายมีไว้บังคับไม่ให้คนทำเลวเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการอย่างไม่ถูกต้อง
    22 ม.ค. 2563 เวลา 07.36 น.
  • เบิ้ม บางเขน
    555 แค้นฝังหุ่น
    22 ม.ค. 2563 เวลา 07.35 น.
  • เอ๋
    สส.หน้าที่คือมาประชุมสภา ยังไม่มา ให้คนอื่นกดบัตรแทน สส.รับฝาก กดแทนเอาให้หนัก
    22 ม.ค. 2563 เวลา 07.33 น.
ดูทั้งหมด