เบอร์ปริศนา โทรหาเมียกลางดึกหลังสองผัวเมียเพิ่งกลับจากินเหล้าด้วยกัน ก่อนผัวหึงโหด ปามือถือทิ้ง คว้าไม่ทุบตี ทะเลาะกันรุนแรง ก่อนจะเดินออกไปนอกบ้าน ทำเมียสุดทน คว้ามีดปลายแหลมวิ่งตามออกไป ก่อนถูกผัวทำร้ายอีก จึงตัดสินใจใช้มีดแทงไม่ยั้งจนเสียชีวิต

เบอร์ปริศนา / เมื่อวันที่ 20 ก.ค. พ.ต.ท. ชาญ กันยะมี รอง ผกก.สภ.ร้องกวาง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทงเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 78/2 ม. 4 ต.ทุ่งศรี อ.ร้องกวาง จ.แพร่ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.ธนกฤต ภุมมินทร์ ผกก.สภ.ร้องกวาง ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ร้องกวาง ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.แพร่ แพทย์เวรโรงพยาบาลร้องกวาง และหน่วยกู้ภัยพรานพิทักษ์จุดตรวจอำเภอร้องกวาง

ที่เกิดเหตุพบศพนายบุญเทียน เข็มเมือง อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพไม่ใส่เสื้อ สวมกางเกงขายาว ถูกแทงเข้าที่บริเวณชายโครงซ้ายหลายแผล เสียชีวิตจมกองเลือด ข้างกันพบผู้บาดเจ็บเป็นภรรยาชื่อ นางวันเพ็ญ เข็มเมือง อายุ 35 ปี ใกล้กันมีมีดปลายแหลมตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลแพร่

จากการสอบถามนายบุญธรรม จินาวงค์ อายุ 64 ปี พี่เขยของผู้เสียชีวิตอยู่บ้านติดกัน ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังสอนการบ้านหลานอยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นลูกของนายบุญเทียน จากนั้น ได้ยินเสียงนายบุญเทียนกับนางวันเพ็ญทะเลาะกันก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติของสองคนจนรู้สึกเอือมระอาแล้วไม่อยากยุ่งเกี่ยว เนื่องจากทะเลาะและทุบตีกันบ่อยครั้ง แต่ไม่ร้ายแรงแบบนี้ โดยส่วนมากจะเป็นเรื่องหึงหวงกัน เพราะภรรยาบ่นสามีหาเงินได้ก็เอาไปกินเหล้าและเที่ยวเตร่ ทำให้มักมีปากเสียงกันตลอด

ต่อมาตำรวจได้เดินทางไปสอบปากคำนางวันเพ็ญที่โรงพยาบาลแพร่ ให้การว่า ตนและนายบุญเทียนได้ไปดื่มเบียร์ที่บ้านญาติและกลับมาด้วยกัน กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น. มีโทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของตนแต่ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นใครโทรมาหา นายบุญเทียนจึงบ่นว่าดึกแล้วยังมีคนโทรศัพท์หาอีก หลังจากนั้น ก็เกิดการทะเลาะกัน

นางวันเพ็ญ ให้การต่อว่า โดยนายบุญเทียนได้ปาโทรศัพท์ของตนทิ้งจนพัง และเอาไม้มาทุบตีตนแล้วเดินหนีออกจากบ้านไป ด้วยความโกรธตนจึงวิ่งออกไปเอามีดปลายแหลมจากบ้านญาติหวังเพียงแค่จะไปขู่ และได้วิ่งตามออกไป พอนายบุญเทียนเห็นตนถือมีด จึงพยายามทำร้ายตน ด้วยความกลัวและตกใจตนจึงแทงไปหลายครั้ง ก็ไม่คิดว่านายบุญเทียนจะเสียชีวิต ซึ่งตนกลัวจะได้รับอันตรายจึงต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน

หลังจากตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.แพร่ ตรวจเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และแพทย์ได้ชันสูจน์พลิกศพแล้ว จึงมอบศพนายบุญเทียนให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนนางวันเพ็ญตำรวจได้ดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นก่อน