“บิ๊กตู่” ดีใจได้กลับบ้านเกิดขึ้นเวทีปราศรัยโคราช ‘อุบ’ เซอร์ไพรส์ ขำตัวเองพูดภาษาโคราชผิดๆ ถูกๆ เหน็บ “มิ่งขวัญ” โชว์แก้น้ำมันต้องดูกฎหมายด้วย ‘ลั่น’ ในฐานะนายกฯยืนยันจะลดให้ ‘ลั่น’ ไม่ได้หาเสียง อารมณ์ดีอ้อนสื่อเป็นกำลังใจในฐานะพวกเดียวกัน
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาในวันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์นี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีอะไรไปเซอร์ไพรส์บนเวทีบ้านเกิดหรือไม่ นอกจากมอตโต 3 ทำ คือทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อที่ได้ประกาศไว้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบอย่างอารมณ์ดี ว่า “อย่างน้อยก็ได้ไปเยี่ยมบ้านเกิดของเรา ก็นานมากแล้วที่ไม่ได้ไป ซึ่งปัจจุบันญาติพี่น้องก็ยังอยู่ที่นั่น ทั้งที่โคราชและชัยภูมิ ซึ่งคุณพ่อของผมเป็นคนกรุงเทพฯ คุณแม่เป็นคนชัยภูมิ แล้วมารับราชการอยู่ที่โคราช ผมก็ไปเกิดและโตอยู่ที่นั่น ความผูกพันก็มีอยู่มาโดยตลอด ซึ่งคนเราก็ต้อง นึกถึงบ้านเกิดเมืองนอนด้วยแล้วกัน ถ้าจะให้ผมพูดวันนี้เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก”
เมื่อผู้สื่อข่าวกระเซ้าและถามเป็นภาษาโคราชว่าอยากให้นายกฯพูดทักทายเป็นภาษาโคราชเพื่อเป็นน้ำจิ้มก่อนที่จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า”สบายดีเด้อ” ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้บอกเป็นภาษาโคราชว่าสบายดีแมะ ซึ่งแปลว่าสบายดีไหม พล.อ.ประยุทธ์จึงพยายามพูดตาม พร้อมกล่าวว่า “สบายดีไหม” ก่อนที่จะขำตัวเองเนื่องจากพูดภาษาโคราชผิดๆ ถูกๆ พร้อมกล่าวว่า “มันจะผสมกันไปหมดแล้ว”
เมื่อถามว่าตอนลงพื้นที่ภาคใต้นายกฯได้พูดภาษาใต้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การลงพื้นที่เราก็เตรียมการเปิดหาข้อมูลมา ภาษาอีสาน ภาษาใต้ อ่านได้บ้างปนกันไปหมด วันก่อนไปภาคใต้ก็ไปพูดเด้อ ก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน ความจริงก็อยากที่จะพูด เพราะความผูกพันทางจิตใจเรามีมากอยู่แล้วและมีให้กับทุกจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทำให้ทั้ง 77 จังหวัด จะเห็นว่าหลายอย่างก็เกิดขึ้นมามากแล้วในสิ่งที่รัฐบาลทำ วันข้างหน้าก็จะมีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น
เมื่อถามว่าในวันที่ 25 ก.พ.จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ทั้ง 132 เขตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทางพรรครวมไทยสร้างชาติเค้าเตรียมไว้แล้ว
เมื่อถามว่าจะมีการเปิดนโยบายทางด้านเศรษฐกิจเพื่อสู้กับพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า คำว่าเศรษฐกิจคืออะไรก็ต้องถามคนอื่นด้วยว่า เศรษฐกิจคือการให้เงินอย่างนั้นหรือ มันไม่ใช่นโยบาย คำว่านโยบายคือการหาเงินเข้าประเทศและใช้จ่ายเงินอย่างไรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและทุกคนได้รับอย่างทั่วถึง
ถ้าไปให้แค่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างนั้นเรียกว่าไม่ถูกต้อง เพราะกลุ่มอื่นก็ไม่ได้ ที่ผ่านมาก็ทำมาเช่นนี้โดยตลอดที่อยู่มาทุกคนจะต้องเข้าถึงโอกาสและต้องดูแลถึงความเท่าเทียมและความเป็นธรรมให้กับทุกคนด้วยคนมีรายได้น้อยจะต้องมีการดูแลกันอย่างไรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ให้ทุกคนได้รับอย่างทั่วถึง
ถ้าให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างนี้เรียกว่าไม่ถูกต้อง กลุ่มอื่นไม่ได้ ที่ผ่านมาเขาทำแบบนี้ตลอด ซึ่งตนอยู่มาไม่ได้ทำแบบนี้ แต่ตนทำให้ทุกคนได้เข้าถึงโอกาสดูแลความเป็นธรรมในการเข้าถึง คนรายได้น้อยจะสามารถดูแลอะไรได้บ้างเท่าไหร่ อะไรที่ให้ไปแล้วจะให้เพิ่มได้ไหม ซึ่งต้องคำนึงถึงรายรับรายจ่ายของประเทศด้วย มันต้องสมดุลกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าล่าสุด นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาเสนอนโยบายด้านพลังงานน้ำมันได้ฟังหรือไม่ และคิดว่าจะทำได้จริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เขาพูดอะไรก็ได้ แต่ต้องมาดูกติกากฎหมาย สัญญาต่างๆ เพราะทุกอย่างเป็นสัญญา ถ้าจะทำอะไรก็ต้องไปแก้กฎหมายกันใหม่ตรงโน้น ฉะนั้นเราต้องเริ่มต้นใหม่ ถ้าจะทำอะไรใหม่ๆ ก็ต้องทำให้ดี ของเดิมก็ต้องขอความร่วมมือกันบ้าง ช่วยเหลือกันบ้าง ก็พอได้ในตอนนี้
เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะสามารถลดราคาน้ำมันได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พูดอีกแล้ว รอดูแล้วกัน ไม่ต้องรวมไทยสร้างชาติหรอกในตอนนี้ นายกฯก็จะดูแลให้ มากน้อยก็เดี๋ยวดู ได้คุยกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ไว้แล้ว ในฐานะที่กำกับดูแลตรงนี้จะลดได้เท่าไหร่อย่างไร แต่ต้องดูว่าจะมีปัญหาในภาพรวมหรือเปล่า แต่ยืนยันว่าจะมีการลดให้ ไม่ใช่การหาเสียงเพราะตนพูดในนามของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า หลายพรรคมีนโยบายขายฝันจะทำได้มากน้อยแค่ไหนพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พวกเราก็ตรวจสอบกันสิจ๊ะ ตรวจสอบดูว่าให้อะไรเท่าไหร่ หาตัวเลขมาว่าคนแต่ละกลุ่มใช้เงินเท่าไหร่ คูณตัวเลขมาว่าใช้เงินเท่าไหร่ พอเพียงหรือไม่ วันนี้งบประมาณรายรับเรามีเท่าไหร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงตรงนี้ปรากฏว่าขาตั้งไมโครโฟนของสื่อมวลชนได้เอนใส่หน้าอก จึงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับชะงัก ก่อนพูดติดตลกและถามว่า “ไอ้นี้พวกใครว่ะเนี่ย พวกเราหรอ กระแทกแบบนี้” จากนั้นได้แกล้งดึงไมโครโฟนออกจากขาตั้งแล้วใส่กลับเข้าที่เดิม พร้อมกับกล่าวว่า “อย่าถือสา แหย่เล่นกัน เรามันพวกเดียวกันอยู่แล้ว”
เมื่อถามว่านายกฯจะปรับ ครม.ในช่วงนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะปรับทำไมอีก เหลืออีกไม่กี่วันจะปรับทำไม หลายพรรคก็บอกว่าไม่อยากปรับอะไรทั้งสิ้น ปรับมาก็ทำอะไรไม่ได้ มันเป็นเวลาของท่านแล้ว วันนี้แค่เก็บตกรายการที่ยังค้าง ครม.ก็ประชุมกันแย่ ซึ่งก็ต้องดูให้เกิดความเป็นธรรมถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ อย่างระมัดระวังอย่างที่สุด
เรื่องการบริหารราชการนายกฯยึดถืออย่างเดียว ทุกอย่างต้องคำนึงถึงระเบียบกฎหมาย ทุกฉบับต้องโปร่งใสสุจริตเป็นธรรม ข้อสำคัญต้องตรวจสอบได้ ถ้าใครร้องเรียนมาต้องตอบว่าใครเป็นคนรับโครงการไป เพราะเป็นการอนุมัติใน ครม.ในหลักการออกไป คณะทำงานมีเยอะก็รับผิดชอบกันไปตามลำดับ นายกฯรับผิดชอบในฐานะนโยบาย
ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดีว่า “ขอบคุณนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ” ผู้สื่อข่าวระบุว่า แล้วเจอกันที่โคราช นายกฯจึงกล่าวว่า ขอให้เดินทางปลอดภัยทุกคน
ผู้สื่อข่าวระบุว่า ลงพื้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องใช้ภาษาอะไร ใช้แค่ภาษาใจก็พอ พล.อ.ประยุทธ์ยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดีว่า ”อะไรนะ ภาษาใจเป็นอย่างไร พูดให้ดูหน่อย” ผู้สื่อข่าวตอบว่านายกฯเคยพูดบนเวทีพบกับประชาชนว่าทุกอย่างพูดออกมาจากใจ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า แสดงว่าฟังเหมือนกัน ก่อนเอามือตบไปที่หน้าอก พร้อมกล่าวว่า “ทุกอย่างใจถึงใจ ถ้าเราใจสัตย์ซื่อบริสุทธิ์ รักเขาจริง เป็นห่วงเขาจริง เราก็ต้องนำทางเขาในทางที่ถูกต้อง ผมยึดมั่นอย่างนี้มาตลอด ตั้งแต่เป็นทหารก็เป็นอย่างนี้”
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินกลับขึ้นไปห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ปรารภกับคนใกล้ชิดว่า“เราอารมณ์ดีไปหรือเปล่า เดี๋ยวนักข่าวก็จะถามอีก”