ต่างประเทศ

ภัยเงียบ! 5 จุดในบ้านที่เพาะเชื้อรา อันตรายก่อให้เกิดพิษพาโรคร้ายสู่ครอบครัว

News In Thailand
เผยแพร่ 25 ก.พ. เวลา 12.24 น. • ทีมข่าวสยามนิวส์
ภัยเงียบ! 5 จุดในบ้านที่เพาะเชื้อรา อันตรายก่อให้เกิดพิษพาโรคร้ายสู่ครอบครัว

จากสื่อต่างประเทศ ได้รายงานว่า ดร.หง หย่งเซียง แพทย์จากไต้หวัน เตือนว่าเชื้อราคือภัยเงียบที่แฝงอยู่ในทุกบ้าน เมื่อเชื้อราเจริญเติบโต ก็จะผลิตไมโคทอกซิน ซึ่งเป็นพิษชนิดหนึ่งที่สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์ได้หลายประการ

สิ่งที่อันตรายกว่านั้นคือ พวกมันสามารถเติบโตได้ในที่ชื้นและอากาศถ่ายเทไม่สะดวก ซึ่งบางครั้งอยู่มนจุดที่มองไม่เห็น ซ่อนอยู่ในอากาศ หรือในรอยแตกที่ตรวจจับได้ยาก แม้ว่าไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สปอร์ของเชื้อราก็ยังคงฟุ้งกระจายในอากาศ ทำให้เกิดพิษเรื้อรังเนื่องจากร่างกายสะสมสารพิษเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ตัวอย่างเช่น การสูดดมหรือการสัมผัสสารพิษจากเชื้อราเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ เช่นอาการไอ หายใจลำบาก โรคไซนัสอักเสบ และโรคหอบหืด โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือเด็กๆ ย่อมมีความเสี่ยงต่อผลกระทบร้ายแรงได้ง่ายกว่ามาก

และไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ทางเดินหายใจเท่านั้น เชื้อรายังส่งผลต่อระบบย่อยอาหารอีกด้วย หากรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนโดยไม่ได้ตั้งใจ อาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเสีย และอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะเมื่อเชื้อราบางชนิดสามารถผลิตสารอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่อันตรายอย่างยิ่งได้ นอกจากนี้ ผลกระทบในระยะยาวของเชื้อราอาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าเรื้อรัง อาการปวดหัว สูญเสียความทรงจำ และกระทั่งส่งผลต่อระบบประสาทได้อีกด้วย

5 จุดในบ้านที่เสี่ยงเกิดเชื้อรา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คุณหมอยังกล่าวเตือนด้วยว่า แม้เราจะทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่ 5 สถานที่ที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อรา แต่กลับถูกมองข้ามและทำความสะอาดอย่างไม่ใส่ใจ จนกลายเป็นสถานที่ที่เชื้อราและราดำแพร่กระจาย

1.ม่านอาบน้ำและผนังห้องน้ำ

นี่คือพื้นที่ที่สัมผัสกับน้ำเป็นจำนวนมากและความชื้นสูง ซึ่งเป็นสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราCladosporium ที่มักปรากฏในร่องกระเบื้อง ม่านห้องอาบน้ำ หรือมุมผนัง ทำให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองทางเดินหายใจและผิวหนังอักเสบ ทั้งนี้ เนื่องจากเชื้อราสามารถเติบโตได้บนพื้นผิวที่ไม่เด่นชัด การทำความสะอาดและการระบายอากาศในห้องน้ำอย่างทั่วถึงจึงเป็นสิ่งสำคัญ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

2.ตู้หรือชั้นวางเครื่องเทศ

บริเวณเก็บเครื่องเทศมักจะชื้นจากไอน้ำที่ใช้ในการปรุงอาหาร และไม่ได้รับการทำความสะอาดเป็นประจำ ในขณะที่เชื้อราPenicillium และ Aspergillus สามารถเติบโตบนแป้ง เครื่องเทศ หรือสิ่งตกค้างในกระป๋องได้ พวกมันไม่เพียงแต่ทำให้อาหารเน่าเสียเท่านั้น แต่ยังแพร่กระจายสปอร์ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ และเป็นพิษเมื่อกินเข้าไปอีกด้วย

3.ด้านหลังตู้เย็น

ตู้เสื้อผ้า หรือตู้รองเท้า สถานที่เหล่านี้มักจะไม่มีอากาศถ่ายเทและมีความชื้นเนื่องจากความชื้นที่สะสม หรือแม้แต่การรั่วไหลจากระบบระบายความร้อน จึงเป็นสถานที่ที่เชื้อรา Stachybotrys เจริญเติบโตได้ดี และผลิตไตรโคธีซีน ซึ่งเป็นสารพิษที่ระคายเคืองตา จมูก และลำคอ และอาจส่งผลต่อระบบประสาทได้หากสัมผัสเป็นเวลานาน

4.เครื่องปรับอากาศและระบายอากาศ

เครื่องปรับอากาศและระบบระบายอากาศ หากไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำ สิ่งสกปรกและความชื้นจะสะสม ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา Aspergillus และเมื่อเปิดใช้งาน สปอร์ของเชื้อราจะแพร่กระจายไปทั่วบ้าน ทำให้เกิดอาการแพ้ที่ดวงตา จมูก และลำคอ และอาจนำไปสู่การติดเชื้อที่ปอดในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้

5.ในเครื่องซักผ้า

ช่องใส่ผงซักฟอก ปะเก็นยางรอบประตูเครื่องซักผ้า และถังซัก เป็นจุดที่น้ำและสิ่งสกปรกสะสมหลังการใช้งานแต่ละครั้ง สิ่งนี้ทำให้เชื้อรา Aspergillus และ Cladosporium เจริญเติบโตได้ และเมื่อเปิดประตูเครื่องซักผ้า สปอร์ของเชื้อราจะแพร่กระจายไปในอากาศ เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของคนทั้งครอบครัวได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้น คุณหมอจึงแนะนำให้ตรวจสอบและทำความสะอาดบริเวณที่เสี่ยงต่อการสะสมความชื้นเป็นระยะๆ รวมทั้งใช้เครื่องลดความชื้น และจัดให้มีการระบายอากาศที่ดีเพื่อลดความชื้นในอากาศ ในเวลาเดียวกันควรทำความสะอาดบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อปกป้องสุขภาพของคนทั้งครอบครัว

ดูข่าวต้นฉบับ