REIC รายงานสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของคนต่างชาติ ไตรมาส 2 ปี 2567 จำนวน 3,342 หน่วย ลดลง 6.2% มูลค่า 14,874 ล้านบาท ลดลง 17.7%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานในครึ่งแรกปี 2567 ทางภาครัฐได้เห็นถึงโอกาสและแนวทางที่จะนำกำลังซื้อจากชาวต่างชาติเข้ามาทดแทนกำลังซื้อที่อ่อนแอของคนไทย และยังเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจในระดับมหภาคของประเทศ รวมถึงดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกด้วย
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของมาตรการที่จะส่งเสริมการเข้ามาทำงานของชาวต่างชาติที่มีศักยภาพ ทั้งในส่วนของอาคารชุดที่เน้นการเพิ่มสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติเป็น 75% ของพื้นที่กรรมสิทธิ์ รวมถึงความเป็นไปได้ในการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถเช่าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยระยะยาวได้ถึง 99 ปี
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 2 ปี 2567 พบว่า มีจำนวน 3,342 หน่วย ลดลง 6.2% มูลค่า 14,874 ล้านบาท ลดลง 17.7% โดยพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมีจำนวน 152,219 ตารางเมตร ลดลง 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ สัดส่วนของหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติต่อภาพรวม ได้ปรับตัวลดลงเหลือ 11.8% และ 21.1% ตามลำดับ โดยปรับลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีสัดส่วนหน่วยและมูลค่าการโอนฯ อยู่ที่ 13.6% และ 24.6% ตามลำดับ
หากพิจารณาลงไปในแต่ละพื้นที่จังหวัด พบว่า หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในจังหวัดชลบุรีมีสัดส่วนมากเป็นอันดับ 1 สัดส่วน 38.4% ขณะที่กรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 2 มีสัดส่วน 36.4% และหากนับรวมทั้ง 2 จังหวัดรวมกันมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันถึง 74.8% และมีมูลค่ารวมกันสูงถึง 80.3% ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ
ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่า ชลบุรีได้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งมีความแตกต่างจากช่วงปี 2565 ที่กรุงเทพมหานครเคยเป็นจังหวัดที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติมาเป็นอันดับ 1
จีนยังครองแชมป์ซื้อคอนโดฯไทยสูงสุด
ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) ผู้ซื้อสัญชาติจีนยังคงเป็นกลุ่มที่มีหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วน 39.5% และ 40.1% อันดับ 2 เป็นสัญชาติพม่า มีสัดส่วน 8.8% และ 9.9% และผู้ซื้ออันดับ 3 คือ สัญชาติรัสเซีย มีสัดส่วน 7.8% และ 5.7% ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ซื้อสัญชาติอินเดีย เป็นสัญชาติที่มีทั้งมูลค่าการโอนต่อหน่วยมากที่สุด และขนาดห้องใหญ่ที่สุด โดยมูลค่าการโอนต่อหน่วยเฉลี่ย 6 ล้านบาทต่อหน่วย และขนาดห้องเฉลี่ย 71.3 ตารางเมตร ส่วนชาวจีนซึ่งเป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด โดยมีมูลค่าการโอนเฉลี่ย 4.6 ล้านบาทต่อหน่วย และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 39.4 ตารางเมตร
ระดับราคาห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ
ในไตรมาส 2 ปี 2567 ห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติมากที่สุด อยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยมีการโอนจำนวน 1,737 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 52% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับราคาที่คนต่างชาติส่วนใหญ่นิยมโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน
รองลงมาคือ ระดับราคา 3.01 - 5 ล้านบาท มีจำนวน 810 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 24.2% ระดับราคา 5.01 - 7.5 ล้านบาท มีจำนวน 395 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 11.8% ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 244 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 7.3% และระดับราคา 7.51 - 10 ล้านบาท มีจำนวนน้อยที่สุด คือ 156 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 4.7% ตามลำดับ
จากการประมวลภาพของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั้งหมด ทำให้เราเห็นได้ว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ปริมาณทั้งในมิติของจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์เหล่านี้ เป็นสิ่งสะท้อนการซื้อขายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นว่าการซื้อขายห้องชุดของคนต่างชาติในช่วงที่ผ่านมาได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ลดลง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คอนโดมิเนียม แนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ภายใต้ข้อจำกัดในการพัฒนา
- บ้านล้านหลัง ขยับราคา จับตากำลังซื้อตลาดที่อยู่อาศัย กระตุ้นภาคอสังหาฯ
- เฮ!!เคาะมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ลดค่าโอน-จำนอง ลดหย่อนภาษีคนสร้างบ้าน ปล่อยสินเชื่อ 5 หมื่นล้าน
ติดตามเราได้ที่