‘ทนายตั้ม’ ยื่นเอกสาร 179 แผ่น ปม ‘ส่วย’ ให้ผู้นำฝ่ายค้าน ด้าน ‘ชัยธวัช’ บอกนายกฯ ควรเป็นคนขอข้อมูลนี้ก่อน
ที่อาคารรัฐสภา วันนี้ (3 เม.ย. 67) ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางเข้ายื่นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับฐานความผิดเรื่องการฟอกเงิน ให้กับ ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นเอกสารชุดเดียวที่ยื่นกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.)นำโดย พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษตร เพื่อให้ตรวจสอบทางวินัยของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แต่ครั้งนี้ มีรายชื่อตำรวจจำนวนหนึ่งและข้อมูลมายื่นเพิ่มเข้ามาด้วย รวมแล้วทั้งหมด 179 แผ่น
ทนายตั้ม กล่าวโดยสรุปว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ ผู้นำฝ่ายค้านฯ เป็นคนเดียวที่ติดต่อขอข้อมูลนี้ วันนี้เราไม่ต้องมองว่าเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่อยากให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีความกระตือรือร้น ในเรื่องปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งวันนี้ตนก็จะปรึกษากับนายชัยธวัชว่า นอกจากรับหนังสือแล้ว สามารถที่จะทำอะไรได้บ้าง เพื่อแก้ปัญหาเรื่องส่วย โดยเฉพาะการทุจริตคอรัปชั่นในวงราชการ ที่มีข้าราชการระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้อง เราสามารถจะแก้ไขไม่ให้เป็นไฟไหม้ฟางได้หรือไม่ และอยากให้มีการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสางปัญหาระบบต่างๆ ได้หรือไม่ ทนายตั้ม กล่าวว่า เท่าที่ดูตอนนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เริ่มเห็นความสำคัญเรื่องส่วย เรื่องของการทุจริตคอรัปชั่นแล้ว ซึ่งนายกฯ อยากชวนคนต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทย แต่ในประเทศไทยยังมีปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ตนกังวลว่า จะไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากต่างชาติ
ด้าน ชัยธวัช กล่าวว่า ขอบคุณทนายตั้มที่นำข้อมูลเอกสารที่สำคัญมามอบให้กับพวกเรา ในฐานะพรรคฝ่ายค้านซึ่งแน่นอนว่า เมื่อมีเรื่องราวกล่าวหาทุจริตประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะในวงการตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วย ที่มีข้อมูลว่า มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย ตนในฐานะฝ่ายค้านก็ต้องให้ความสำคัญ ติดตามหาข้อมูล และว่า จริงๆ แล้วคนที่ควรจะมาขอข้อมูลก่อน ควรจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนายกฯ ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนเรื่องนี้ ก็ควรที่จะได้รับข้อมูลชุดนี้ด้วย แต่เราเองในฐานะฝ่ายค้าน เราก็คาดหวังว่าคณะกรรมการที่ท่านนายกได้ตั้งขึ้น จะไม่เป็นกระบวนการมวยล้มต้มคนดู เพียงแค่อย่าศึกให้เรื่องจบและเงียบกันไป
“เรายืนยันมาตลอดว่าเรื่องส่วย โดยเฉพาะในแวดวงตำรวจเป็นเรื่องใหญ่มาก เมื่อไหร่ที่เราไม่สามารถแก้ระบบส่วย รวมถึงระบบตั๋วในสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ มันก็จะกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจของพี่น้องตำรวจ ที่ควรจะไปให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยสวัสดิภาพของพี่น้องประชาชน เป็นอันดับแรกมากกว่าที่จะวิ่งเต้นหาลำไพ่พิเศษ” ชัยธวัช กล่าว
เมื่อถามว่า จะนำข้อมูลที่ได้วันนี้ ไปพิจารณาอภิปรายทั่วไปเลยหรือไม่ ชัยธวัช ตอบว่า ขอดูข้อมูลก่อน