ไลฟ์สไตล์

How to ลืมแฟนเก่า - อุ๋ย นที เอกวิจิตร์

THINK TODAY
เผยแพร่ 08 ส.ค. 2561 เวลา 06.18 น. • อุ๋ย นที เอกวิจิตร์

"ทำยังไงให้ลืมแฟนเก่า"  เป็นคำถามยอดฮิตคำถามหนึ่งที่เคยเจอมาในชีวิต รวมทั้งตัวผมเองก็เคยอยากได้คำตอบเช่นเดียวกัน

คนที่เคยอกหักน่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ส่วนคนที่ไม่เคยอกหักไม่มีวันเข้าใจแน่ๆ  ว่ามันทุกข์ทรมานขนาดไหน 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

บางคนอาจจะบอกว่า แค่เรื่องแค่นี้อ่ะนะ มาบอกว่าทุกข์ทรมาน ช่างไร้สาระสิ้นดี ชีวิตคนเรามีเรื่องน่ากลุ้มใจกว่านี้ตั้งเยอะ เช่น เรื่องไม่มีจะกิน เรื่องปัญหาสุขภาพ เรื่องอุดมการณ์ เรื่องงาน และอีกสารพัดเรื่อง 

แต่ก็นะครับ คนเรามีจุดอ่อน จุดแข็ง แตกต่างกัน

เพราะเราให้ค่าให้ความสำคัญกับแต่ละเรื่องไม่เหมือนกัน ดังนั้น อย่ามาเปรียบเทียบกันเลยดีกว่าครับ ว่าเรื่องอะไร จริงมันเป็นแค่เปลือกหุ้มอยู่ มองที่สาเหตุหรือแก่นกันเลยดีกว่าครับ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผมมานั่งพิจารณาดูว่า ที่เราอยากลืมอดีตน่าจะเป็นเพราะเรารับความจริงที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้

ความจริงที่มาแสดงให้เราเห็นว่า ความสุข ความหอมหวาน ความรู้สึกดีๆ เหล่านั้น มันได้หมดไปแล้ว ไม่มีอีกแล้ว ไม่ยั่งยืนต่อเนื่องยาวนานอย่างที่ใจเราต้องการ

เรียกง่ายๆ ว่าไปติดกับดักของความสุขเข้าให้แล้ว ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายที่สุดก็เหมือน คนติดยาเสพติดนั่นแหละครับ เสี้ยนอยากได้ความรู้สึกที่ชอบแบบนั้นอีกครั้ง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ถ้าความสุขจากยาเสพติดต้องชดใช้ด้วยความทรมานจากอาการลงแดง

ความสุขจากความรักก็ต้องชดใช้ด้วยความทรมานใจจาการพลัดพรากเช่นเดียวกัน

จุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งของปัญหานี้คือ  อยากหายทุกข์เร็วๆ อยากลืมเร็วๆ 

บางคนใช้วิธีดื่ม อันนั้นก็ลืมได้ชั่วคราว แต่ก็มีราคาที่ต้องจ่ายเหมือนกัน จ่ายด้วยสุขภาพ และความเสี่ยงอื่นๆ อีกมากมายตามมา เสี่ยงตีน เสี่ยงโดนข่มขืน เสี่ยงตายจากอุบัติเหตุ ผมมองว่าเป็นการสร้างปัญหาใหม่เพื่อลืมปัญหาเก่า กลายเป็นว่ามี 2 ปัญหาเลยทีนี้

ถ้าเปรียบเทียบว่าความทุกข์คือกองไฟ เราอยากให้ไฟมันดับลงเร็วๆ พยายามเอาอะไรไปพัดให้มันดับ กลายเป็นไฟจะยิ่งโหมแรงขึ้น เปรียบคือ ทุกข์จากที่ไม่เป็นอย่างใจปารถนาแล้ว ยังทุกข์เพิ่มเพราะความ อยาก ให้เป็นปกติเร็วๆ อีกด้วย เหมือนไปเติมเชื้อไฟเพิ่ม 

ตามธรรมชาติกองไฟถ้าปล่อยให้ลุกไหม้แล้วไม่มีการเติมเชื้อเพิ่ม สุดท้ายแล้วก็จะดับลงได้เอง

ยามที่ใจเผลอคิดไปในอดีตก็เหมือนกับการเติมเชื้อไฟ สติที่รู้ตัวว่าเผลอไปแล้วกลับมาอยู่กับปัจจุบันคือการหยุดเติมเชื้อ แต่ธรรมชาติของจิตก็ต้องคิดเป็นธรรมดา คิดอยู่กับเรื่องที่เคยชิน เพราะฉะนั้นถ้าเราอดทน ยอมรับว่าเราจะต้องเจอความร้อนจากไฟที่เราจุดขึ้นมาเอง เราจะคอยระวังไม่เผลอไปเติมเชื้อเพิ่ม เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจว่าเมื่อไหร่ไฟจะดับสักที

เวลา ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้ไฟค่อยๆ มอดลง  มันอาจจะดับไม่หมด ความทรงจำจะยังคงมีอยู่ แต่กองไฟที่เล็กลง เราก็อยู่กับมันได้แบบไม่ทรมานเหมือนก่อน 

ต่อไปนี้เราน่าจะตั้งคำถามใหม่

จาก "ทำยังไงถึงจะลืม " เป็น "ถ้าไม่ลืม เราจะอยู่กับมันอย่างไรให้ทรมานน้อยที่สุด"

น่าจะเป็นไปได้มากกว่านะครับ

ความเห็น 31
  • คุณมองโลกได้ดีจริงๆคับขอบคุณทุกอบ่างขึ้นอยู่กับเวลาทั้งนั้นๆคับ
    08 ส.ค. 2561 เวลา 12.51 น.
  • @...
    บางครั้งในการที่ต้องให้เวลา และการที่ต้องยอมรับกับความเป็นจริงให้ได้ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ.
    08 ส.ค. 2561 เวลา 09.03 น.
  • 𝓁<𝒂𝓂𝑜𝓁
    หัวข้อเหมือนจะมีวิธี อ่านจนจบสรุปไม่มีวิธี ปล่อยมันไปอย่าไปคิดถึงอดีต คิดแต่ปัจจุบันอนาคต เมื่อไรนักวิทยาศาสตร์จะคิดเครื่องวีอา ที่ใส่แล้วคิดถึงอดีตภาพขึ้นมาแล้วกดลบ จะได้ไม่ต้องคิดถึงอดีตอีกนะ555
    08 ส.ค. 2561 เวลา 14.07 น.
  • สุจินต์
    ตัวตนเองรู้ดีกว่าใคร
    08 ส.ค. 2561 เวลา 08.03 น.
  • ขอบคุณคะ
    08 ส.ค. 2561 เวลา 08.26 น.
ดูทั้งหมด