หมอจุฬาฯ เล่าแม่ขับแท็กซี่ติดโควิด ลูก 2 คนต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยาหลำบาก
วันที่ 30 มี.ค. ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬางลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
โพสต์เล่าเรื่องราวในวอร์ดโควิด ความว่า เรื่องเล่าจากวอร์ดโควิด เคสหนักที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ห้องไอซียูต้องขยายจากที่เตรียมไว้ 4 เตียง ตอนนี้ต้องเตรียมเพิ่มขึ้นเพื่อรับผู้ป่วยได้ถึงเกือบ 20 คน เรากำลังเปลี่ยนตึกทั้งตึกเป็นไอซียูสำหรับเคส โควิด ที่อาการหนัก นอกเหนือไปจากจากวอร์ดปกติ 4 วอร์ดที่มีคนไข้โควิดแน่นอยู่แล้ว
เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
เมื่อวันก่อนมีเคสนึงใส่ท่อช่วยหายใจ เพราะปอดอักเสบรุนแรง ตอนเช้าไปราวน์กับเรสสิเดนท์ รู้ว่าคนไข้เป็นคนขับแท็กซี่ผู้หญิงอายุสี่สิบปี น่าจะติดจากการสัมผัสนักท่องเที่ยว ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเราไม่ค่อยเห็นผู้หญิงมาขับรถรับจ้าง เลยให้เรสสิเดนท์รีบโทรไปถามครอบครัวว่ามีปัญหาอะไรบ้างมั้ย
ได้ความว่าตั้งแต่คนไข้มาอยู่โรงพยาบาลก็หยุดงาน รายได้ทั้งหมดหายไป สามีขับรถรับจ้างได้เงินรายวัน ตอนนี้ต้องหยุดงานตั้งแต่มีการระบาดมีลูกเล็กๆสองคน ห้าขวบกับสองขวบ พอภรรยาติดโควิดก็ถูกไม่ให้อยู่ที่ห้องเช่าเพราะคนกลัวว่าติดโควิดมาจากภรรยา ต้องระเห็จออกมาอยู่บ้านที่เถ้าแก่ที่กำลังสร้างไม่เสร็จใช้เงินเก็บที่มีอยู่สามพันบาท ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ
พอรู้เรื่องเสร็จทุกคนช่วยกันทันที ตามพ่อลูกมา swab และให้นอนที่โรงพยาบาลรวมกันไปก่อน โชคดีที่ผลตรวจไม่เจอเชื้อโรคโควิดทั้ง 3 คน ที่ต้องรีบทำก็เพื่อออกใบยืนยันแล้วทางครอบครัวจะได้ไม่ถูกตีตราจากคนอื่น (จริงๆถ้าสังคมเข้าใจเราไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดตามครอบครัวของคนไข้มา swab เพราะถ้าเขากักตัว 14 วันไม่ออกไปไหนก็จะไม่ไปแพร่กระจายเชื้อให้ใคร) ช่วยลงทะเบียนช่วยเหลือ ระดมทุนมาช่วยในช่วง 3 เดือนถัดจากนี้ ส่วนภรรยาตอนนี้นอนอยู่ไอซียูทางทีมช่วยกันดูแลอย่างเต็มที่
เคสนี้เคสเดียวสะท้อนหลายๆมุมที่เราก็ยังต้องแก้ไขหรือมองข้าม สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือความเข้าใจเรื่องการติดต่อโรค การตีตราคนไข้และญาติของคนไข้ ยังมีเรื่องปัญหาสุขภาพที่มันผูกติดกับเศรษฐกิจและสังคม สิ่งที่ต้องการในตอนนี้คือทำให้การระบาดอยู่สั้นที่สุด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อเนื่องและวงกว้าง ช่วยกันทำ social distancing ให้มากที่สุด เมื่อโรคหยุดระบาดทุกสิ่งทุกอย่างจะค่อยๆฟื้นกลับมาใหม่ สร้างความเห็นอกเห็นใจกันในสังคมทั้งให้กับคนไข้และบุคคลากรที่กำลังช่วยดูแลคนไข้
ผมว่ากำลังใจมาที่บุคคลากรทางการแพทย์มีมากมายพอแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือช่วยกันเข้าใจโรคและเห็นใจคนไข้ด้วยครับ
PIYAYOSANANSATIDA789 ขอบคุณครับคุณหมอและบุคคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน
30 มี.ค. 2563 เวลา 10.59 น.
kunpichet tipkoson ดีใจครับร่วมมือกันทุกฝ่าย
ขอให้โรคร้ายผ่านพ้นไปเร็ววัน
ขอให้รักษาสุขภาพทุกท่านด้วยครับ
30 มี.ค. 2563 เวลา 10.57 น.
Varaporn น้ำใจประเสริฐเทวดาบนโลกมนุษย์
30 มี.ค. 2563 เวลา 10.26 น.
Pachanee Jantawan ทุกสาขาอาชีพ ลำบากกันทุกคน
30 มี.ค. 2563 เวลา 10.20 น.
mall ไม่ค่อยอยากโทษรัฐบาลนะ. ถามคำเลยว่า มึงทำให้กูมีความหวังอะไร ไ้อ้.....
30 มี.ค. 2563 เวลา 10.14 น.
ดูทั้งหมด