ความลับแห่งโยนีกำลังจะถูกเปิดเผยขึ้นที่นี่ ‘พิพิธภัณฑ์จิ๋ม’

วงการพิพิธภัณฑ์มักจะมีเนื้อหาที่หลากหลาย แปลกใหม่ และเข็มขัดสั้น (คาดไม่ถึง) มาเซอร์ไพรส์พวกเราอยู่เสมอ อย่างเช่นที่อังกฤษกำลังจะเปิดตัว Vagina  Museum หรือ พิพิธภัณฑ์จิ๋ม เร็วๆ นี้

พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวจะมีเนื้อหาความรู้หลัก เน้นๆ ให้กับกายวิภาคของผู้หญิง เจาะจงเลยคือโยนีหรือช่องคลอด อะแฮ่ม! น่าสนใจแล้วใช่มะ ปลายปีนี้ใครมีโอกาสไปเที่ยวอังกฤษ อย่าลืมแวะไปดูและเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์จิ๋มแห่งนี้ได้ สถานที่ตั้งอยู่ที่ตลาดแคมเดน กลางกรุงลอนดอน

พิพิธภัณฑ์จิ๋มเกิดจากการระดมทุนทั่วโลกมูลค่า 50,000 ปอนด์ (ประมาณ 1 ล้าน 9 แสนบาท) มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนและลบทัศนคติในแง่ลบ ล้างมลทินให้กับจิ๋ม กับสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพช่องคลอดของผู้หญิง

ฟลอเรนซ์ เช็คเตอร์ (Florence Schechter) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ เริ่มต้นโครงการนี้จากการทำพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์หญิงมาตั้งแต่ปี 2560 หลังพบว่าที่ไอซ์แลนด์มีพิพิธภัณฑ์จู๋ จัดแสดงเกี่ยวกับอวัยวะเพศชายที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ไม่มีเรื่องราวของจิ๋ม

"มันไม่มีอะไรต้องน่าอายหรือน่ารังเกียจเกี่ยวกับช่องคลอดหรืออวัยวะเพศหญิง ตรงกันข้าม นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับร่างกายที่ควรต้องรู้และเฉลิมฉลอง ปาร์ตี้ให้กับมันเสียด้วยซ้ำ” เธอกล่าว “การจัดการความรู้เรื่องช่องคลอดในรูปแบบพิพิธภัณฑ์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการกระจายสารพันเรื่องราวเกี่ยวกับอวัยวะเพศหญิง ว่ามันไม่มีอะไรน่าละอายหรือน่ารังเกียจ เพราะช่องคลอดนั้นน่าพิศวง! มีความหลากหลาย และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โลกนี้สวยงาม" เธอกล่าว

พิพิธภัณฑ์จิ๋มแห่งนี้จะจัดแสดงเนื้อหาทั้งนิทรรศการศิลปะ การละคร การประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยทุกกิจกรรมและเนื้อหามีศูนย์กลางอยู่ที่ ‘จิ๋ม’  

มีรายงานจากองค์กรการกุศลการวิจัยโรคมะเร็งทางนรีเวชแห่งสหราชอาณาจักรพบว่า 65% ของหญิงสาวชาวอังกฤษมีปัญหาในการใช้คำว่า ‘จิ๋ม’ และเกือบ 40% ของเด็กอายุ 16-25 ปีใช้ชื่อเรียกแทนจิ๋มว่า ‘ชิ้นส่วนของผู้หญิง’ กับหนึ่งในสี่ของผู้หญิงอายุ 25 ถึง 29 ปี ในอังกฤษรู้สึกอายเกินกว่าที่จะเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

“สิ่งนี้มีนัยยะสำคัญ บางทีที่ผู้หญิงไม่กล้าไปหาหมอปรึกษาเรื่องช่องคลอด ก็เพราะพวกเธอไม่สบายใจที่จะพูดถึงมัน” 

ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีโปรแกรมการเข้าถึงเพื่อให้เด็กรู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับจิ๋มตั้งแต่พวกเขาอายุยังน้อย และยังทำหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพ การศึกษาเรื่องเพศ และความสัมพันธ์แบบครบวงจร 

นอกจากนี้ยังจะทำงานร่วมกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เพื่อให้บริการและสนับสนุนชุมชนทรานส์อีกด้วย

ไทยเคยมีพิพิธภัณฑ์เซ็กซ์

ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีก่อน เคยมีข่าวฮือฮาเรื่องการจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ‘สุขภาวะทางเพศ’ หรือ ‘พิพิธภัณฑ์เซ็กซ์’ โดยกระทรวงสาธารณสุข สมัยท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นเจ้ากระทรวง 

ที่ฮือฮาเพราะการเปิดตัวครั้งนั้นถูกโปรโมทว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ทางเพศแห่งแรกในเอเชีย โดยองค์การพิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ จัดส่วนแสดงขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คลอง 5 ปทุมธานี ทุ่มงบประมาณเพื่อการนี้กว่า 5 ล้านบาท 

จุดประสงค์ก็เพื่อสร้างความเข้าใจ และให้คำตอบกับวัยรุ่นในเรื่องเพศ อันเนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องของสังคม ประเพณี วัฒนธรรม รวมทั้งความเชื่อบางอย่างในการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาที่นำไปสู่การกระตุ้นให้มีเพศสัมพันธ์ วัยรุ่นส่วนหนึ่งจึงหาความรู้ด้วยตัวเองหรือจากกลุ่มเพื่อน ทำให้มีความรู้และวิธีคิดไม่รอบด้าน เกิดความเข้าใจที่ผิด ส่งผลต่ออนาคตของตัวเขา ครอบครัว และสังคมรอบข้าง

ผลของการเข้าใจไม่ถูกต้อง ความรู้ไม่เท่าทันของวัยรุ่น ทำให้วัยรุ่นหญิงส่วนหนึ่งตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ ต้องหยุดหรือเลิกการศึกษากลางคัน ทั้งที่เป็นวัยที่ต้องเรียนรู้เพื่ออนาคต และยิ่งกว่านั้นวัยรุ่นทั้งหญิงและชายอาจติดเชื้อ HIV หรือ โรคเอดส์ ซึ่งยากต่อการรักษา 

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จึงจัดสร้าง ‘นิทรรศการ Healthy Sexuality-Story of Love-สุขภาวะทางเพศ’ หรือที่เรียกกันว่า ‘พิพิธภัณฑ์เซ็กซ์’ เพื่อให้การเรียนรู้เรื่องเพศรอบด้าน กับกลุ่มนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาวะทางเพศในแนวทางที่สร้างสรรค์ สามารถเรียนรู้ได้ตามอัธยาศัย 

เสียดายที่พิพิธภัณฑ์เซ็กซ์ไม่มีการสานต่อ เป็นเพียงนิทรรศการหมุนเวียนที่สร้างกระแสฮือฮา และมีกำหนดระยะเวลาจัดแสดงสั้นๆ อยู่ไม่ถึงปี 

ด้วยเพราะการให้ความรู้เรื่องเพศ หรือเพศศึกษายังเป็นเรื่องจำเป็นต่อการเรียนรู้ และมีความสำคัญมาก เพื่อให้กลุ่มวัยรุ่นไทยในวัยเจริญพันธุ์ก้าวผ่านช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิตได้อย่างรู้เท่าทัน 

วิหารแห่งวีนัส

ช่องคลอดในงานศิลปะเริ่มปรากฏและมีมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อ 35,000 ปีก่อน จนถึงยุคศิลปะร่วมสมัย ครอบคลุมงานทัศนศิลป์ทั้งแบบสองมิติ (เช่น ภาพวาด) และสามมิติ (เช่น รูปปั้น) ปรากฏหลักฐานดังเช่นงานแกะสลักรูปวีนัส ที่เห็นถึงสรีระ หน้าท้อง สะโพก หน้าอก ต้นขา และช่องคลอด 

และที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอแลนด์ ก็มีเซ็กซ์มิวเซียมชื่อ ‘วิหารแห่งวีนัส’ ซึ่งจัดแสดงทั้งเซ็กซ์ทอย การ์ตูนโป๊ ภาพถ่ายวิดีโอโป๊และนู้ด ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่า เซ็กซ์ก็เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ความรู้ของมนุษย์