ทั่วไป

มูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุฯ ยัน พร้อมทวงคืนที่ดิน 3,800ไร่

PPTV HD 36
อัพเดต 21 พ.ย. 2562 เวลา 02.08 น. • เผยแพร่ 21 พ.ย. 2562 เวลา 02.03 น.
จากกรณียิงกันในศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ถูกขยายผลไปถึงเรื่องที่ดิน 3,800 ไร่ โดยเมื่อวานนี้ (20พ.ย.) ฝั่งทายาทของเจ้าของที่ดั้งเดิม เดินทางมามอบเอกสารเพิ่มเติมให้พนักงานสอบสวน ขณะที่ผู้จัดการมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย เดินทางมาแสดงความบริสุทธ์ใจกับพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันว่าพร้อมเดินหน้าทวงที่ดินคืนหากมีความชัดเจนว่าเป็นที่ดินของมูลนิธิจริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> มูลนิธิอภิธรรมฯ-ทายาทที่ดิน 3,800 ไร่ เมืองจันท์รอดีเอสไอพิสูจน์กรรมสิทธิ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >> อดีตภรรยา'พล.ต.ต.'ยิงในศาลจันทบุรี หอบหลักฐานชิ้นสุดท้ายมอบตร.

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เป็นครั้งแรกในรอบปีที่ น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจ พบกับ นายมนัส พวงลำเจียก ผู้จัดการมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย พร้อมทีมทนายความ  โดยการพบกันวันนี้เป็นช่วงที่น.ส.เขมจิรา ยืนฟังการให้สัมภาษณ์ของนายมนัส และ นายชวลิน พึ่งบุญ ณ อยุธยา ทนายความของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย หลังจากที่ฝั่งของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันความบริสุทธ์ใจ

นายมนัส ยืนยันว่า มูลนิธิไม่เคยนิ่งเฉยกับเรื่องที่ดินที่พล.ต.ต.ธารินทร์ และ น.ส.เขมจิรา แจ้งว่า ที่ดิน 3800 ไร่ ที่จังหวัดจันทบุรี เป็นที่ดินที่พระกิตติวุฑโฒเรี่ยไร่เงินบริจาคในนามของมูลนิธิฯเพื่อซื้อต่อจากนายสมพล โกศลานนท์ บรรพบุรุษของน.ส.เขมจิรา แต่เพราะว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่ดินพิพาทเป็นของใครเนื่องจากมูลนิธิฯไม่มีเอกสารใดใดเป็นหลักฐาน จนกระทั้งปี 2550 ที่พล.ต.ต.ธารินทร์นำสำเนาเอกสารหลักฐานมามอบให้ จึงต้องรอการตรวจสอบจากตำรวจก่อน เนื่องจากตามเอกสารในปัจจุบันที่ดินมีชื่อของนายบุญช่วย เจริญสถาพร ซึ่งเป็นน้องของพระกิตติวุฑโฒเป็นผู้ถือครองที่ดินอยู่

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะที่ น.ส.เขมจิรา ซึ่งเดินทางมายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมให้พนักงานสอบสวน แสดงความเห็นต่อสื่อมวลชน ว่า รู้สึกแปลกใจที่มูลนิธิฯซึ่งเป็นคู่สัญญาซื้อขายที่ดินกับบรรพบุรุษของตนเอง ไม่เคยเร่งเดินหน้าทวงคืนที่ดินทั้งที่พล.ต.ต.ธารินทร์ เคยนำหลักฐานมากกว่า 100 หน้าส่งมอบให้ไปนานแล้ว รวมถึงมีหลายครั้งที่พบความผิดปกติของมูลนิธิฯ เช่น มูลนิธิเคยแจ้งความดำเนินคดีกับนายบุญช่วย คู่กรณี แต่ในคดีที่น.ส.เขมจิรากับนายบุญช่วยฟ้องร้องกัน คนของมูลนิธิกลับไปเป็นพยานให้นายบุญช่วย แทนที่จะมาเป็นพยานให้ตนเอง

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ระบุว่า ขณะนี้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว เนื่องจากต้องใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาร่วมด้วย โดยมีกองปราบปราม รับผิดชอบการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบตรวจสอบเรื่องที่ดิน นอกจากนี้ทาง ผบช.ก.ยังให้ตรวจสอบที่ดินในพื้นที่ จ.สงขลา 600 ไร่ และ จ.ชลบุรี อีก 1,700 ไร่ ของมูลนิธิฯ ที่ตกไปอยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอกควบคู่ไปด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 27
  • นี่.เอี่ยมนะ 🤗
    มูลนิธิ อะไรก็แล้วแต่ จะเอาที่ดินมากมายขนาดนี้ไปทำอะไรหรือครับ มีสัก20-30ไร่ก็ถือว่าเยอัแล้วครับ เอาคืนกรมอุทยานหรือให้เป็นป่าต้นน้ำไปเถอะครับ มีแล้วใช้ประโยชน์อะไรกับที่ขนาดนั้นครับ
    21 พ.ย. 2562 เวลา 12.00 น.
  • ต๋อม
    ที่วัดใครจะมาเอาไปไม่ได้ทุกกรณี
    21 พ.ย. 2562 เวลา 06.06 น.
  • kai
    สรุปเรื่องนี้ฎีกาแล้วยังอ่ะ เริ่มสบสน
    21 พ.ย. 2562 เวลา 04.49 น.
  • Direk J 789
    มูลนิธิคือแหล่งรวมคนทุกประเภท
    21 พ.ย. 2562 เวลา 04.35 น.
  • ฤทธิรงค์
    ถ้าไม่เกิดการยิงกันขึ้นจนเรื่องจะฮุบที่ดินแดงขึ้น ก็ยังคงเงียบๆ รอส่วนแบ่ง
    21 พ.ย. 2562 เวลา 04.27 น.
ดูทั้งหมด