9 ธ.ค.62 - รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาการใช้ศึกษาผลกระทบจากประกาศคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมี 10 เสียง ส.ส.ฝ่ายค้านมาช่วยเป็นองค์ประชุมแล้วนั้น แต่ในส่วนของ 6 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงมติเห็นด้วยให้ตั้ง กมธ.ดังกล่าว ยังคงลงมติยืนยันตามเดิม 4 ราย ประกอบด้วย
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง, นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ขณะที่ นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา และนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม แต่ไม่ออกเสียงลงมติ สร้างความไม่พอใจให้กับแกนนำระดับสูงของรัฐบาลเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้มีการกำชับกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เพื่อให้ควบคุมการลงมติของลูกพรรค ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และในช่วงงานเลี้ยงสังสรรค์พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.แล้ว และมีการระบุด้วยว่าหากไม่สามารถควบคุมองค์ประชุมสภาฯและควบคุม ส.ส.รัฐบาลได้อาจจำเป็นต้องยุบสภา แต่ผลปรากฏว่าทางพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่สามารถควบคุม ส.ส.ในสังกัดได้ รวมถึงไม่มีทีท่าว่าจะมีมาตรการลงโทษใดๆออกมา
อีกทั้งยังปล่อยให้ ส.ส.และผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นโจมตีรัฐบาลบ่อยครั้ง ที่สำคัญการทำงานของรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมา ก็ไม่เข้าขาและมีปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจ กรณีการแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร จึงเริ่มมีความเห็นพ้องกันของแกนนำระดับสูงในรัฐบาล ในการที่จะปรับพรรคประชาธิปัตย์ออกจากรัฐบาลในการปรับ ครม.ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2563 หรือภายหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
รายงานระบุว่า เชื่อว่าถ้าปรับพรรคประชาธิปัตย์ออกจากรัฐบาล จะยังมี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่ไม่ต่ำกว่า 30 คน ยังอยู่ร่วมรัฐบาล โดย ส.ส.กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใกล้ชิดกับ นายสุเทพ เทือกสุวรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ที่สนับสนุนให้ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่ต้น
รายงานยังระบุอีกว่า ส่วนการแก้ปัญหาไม่ให้กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั้น เสียงที่อาจจะหายไป 20-30 เสียง จะทดแทนด้วยเสียงของ ส.ส.บางส่วน ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชาติ และพรรคเพื่อชาติ รวมแล้วราว 10 เสียง จึงมีการประสานระหว่างแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ไปยังผู้บริหารระดับสูงของพรรคเพื่อไทย ที่มีความคุ้นเคยกัน เพื่อทาบทามให้นำ ส.ส.จำนวนหนึ่งราว 20-30 เสียง ทั้งที่มีการดูแล หรือฝากเลี้ยงไว้อยู่แล้ว รวมกับบางส่วนที่ไม่กังวลกระแสต่อต้านในพื้นที่ ให้เข้ามาแทนที่เสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ขาดหายไป โดยมีการเสนอตำแหน่งรัฐมนตรี และตำแหน่งอื่นในฝ่ายบริหารให้ตามสัดส่วนจำนวน ส.ส.ที่เข้ามาร่วมกับรัฐบาลด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยกันว่า ในอนาคตอาจจะดึง ส.ส.เพื่อไทย เข้ามาช่วยงานรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น หากยังประสบปัญหาความไม่เข้าขากันของพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งพรรคภูมิใจไทยเอง
มีรายงานด้วยว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยได้นำประเด็นดังกล่าวไปหารือ และขอความเห็นชอบจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เกาะฮ่องกง เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน.
pop ปชป นุ่มนิ่มไป หน้าหล่อสะอาดเนียบ แต่ไม่มีพลัง ต้องปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ ให้เปลี่ยนชื่อพรรคเป็น พรรคความคิดใหม่
09 ธ.ค. 2562 เวลา 05.21 น.
WITTAYA ถ้าเป็นจริง สมน้ำหน้า ปชป. มีสมาชิกปากหมากัดไม่เลือก ต้องพาไปปล่อย ให้อดทั้งพรรคสมน้ำหน้า
อย่างลืมนะ. เด็กไอ้เทพเพ. ที่ออกมาป่วน
09 ธ.ค. 2562 เวลา 04.54 น.
Not ไม่เลือกครับ ปชป.
09 ธ.ค. 2562 เวลา 04.41 น.
Prawat จะได้เอาไวพจน์มาช่วยแหล่
09 ธ.ค. 2562 เวลา 03.54 น.
Prawat แน่จริงเขี่ยออกให้หมด จะได้รู้รส
09 ธ.ค. 2562 เวลา 03.51 น.
ดูทั้งหมด