“ขนส่งมวลชนไทย” เมื่อไหร่จะเชื่อมกันหมด? ไม่มองที่‘พื้นฐาน’ แล้วเมื่อไหร่จะทั่วถึง!
ทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน อ่านข่าว หรือฟังนโยบายของพรรคการเมืองที่ระดมหาเสียงในช่วงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เรื่องการแก้ไขปัญหาจราจร เป็นวาระระดับ ‘ชาติ’ ที่กินเวลายาวนานเหมือนไม่มีสิ้นสุด สิ่งที่เราได้ยินกันบ่อยที่สุด คือการ ‘สร้าง’ ระบบขนส่งมวลชนระดับ ‘เมกะโปรเจกต์’ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้านานาสถานี, รถไฟรางคู่, รถไฟความเร็วสูง, ไปจนถึงระบบไฮเปอร์ลูป นวัตกรรมแห่งอนาคตที่ต้องใช้ระยะวลาในการศึกษาและพัฒนาอีกหลายสิบปี กว่าจะนำมาใช้เพื่อการโดยสารได้จริง ๆ ฯลฯ
โปรเจกต์ต่าง ๆ เปรียบเสมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ เป็น ‘เส้นเลือดใหญ่’ ของการโดยสารที่แน่นอนว่าไม่มีใครปฏิเสธในเรื่องประโยชน์มหาศาลเมื่อทำได้สำเร็จ หากแต่บางครั้งเราก็หลงลืมไปว่า ‘เส้นเลือดฝอย’ หรือระบบขนส่งมวลชนขนาดเล็ก ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน และควรจะต้องได้รับการพัฒนาเป็นอันดับแรก เพื่อรองรับผู้โดยสาร ‘ทุกชนชั้น’ ที่กระจัดกระจายอยู่ตามซอกมุมของเมืองใหญ่และเล็กให้ได้อย่างทั่วถึง
ปัญหาที่ชัดเจนมากที่สุดคือ เมื่อมองลงมาที่ท้องถนน ซึ่งเป็นศูนย์รวมการเดินทางที่ใหญ่ที่สุด เรามีรถยนต์ส่วนบุคคลมากถึง 4 ล้านคัน และพุ่งสูงถึง 7 ล้านคัน หากนับรวมถึงรถในหมวดอื่น ๆ ที่วิ่งอยู่บนท้องถนนทั้งหมด ประกอบกับรถเมล์ที่ให้บริการอีกวันละ 1.1 ล้านเที่ยวต่อวัน
จากตัวเลขที่เกิดขึ้น ควรจะเป็นทิศทางที่ดี เพราะแสดงให้เห็นถึงจำนวนยานยนต์จำนวนมากที่พร้อมใช้บริการ หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทั้งหมดไม่ได้วิ่งอย่างสบายตามที่ควรจะเป็น หากแต่ไปจอดนิ่งติดกันอยู่บนถนน โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน และบริเวณ ‘ใต้’ สถานีรถไฟฟ้า ที่ควรจะเป็นพื้นที่ปลอดโปร่งเพราะ "รถไฟฟ้า" ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดมิใช่หรือ
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือการกล่าว ‘โทษ’ กันไปมาไม่รู้จบ คนใช้รถส่วนบุคคลก็โทษคนใช้รถเมล์ว่าทำให้รถติด คนใช้รถเมล์หรือบริการสาธารณะอื่น ๆ ก็โทษคนใช้รถยนต์ส่วนบุคคลว่ามีจำนวนมากเกินไป และมาแย่งพื้นที่บนถนนไปหมด
เมื่อมองถึงปัญหาจริง ๆ เราจะเห็นว่า ไม่มีใครที่เป็น ‘ต้นเหตุ’ ของปัญหาทั้งหมดเสียทีเดียว เพราะจริง ๆ ปัญหาดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ ‘การวางผังเมือง’ ขั้นพื้นฐาน ที่ออกแบบมาให้ถนนหนทางในประเทศของเรา (โดยเฉพาะกรุงเทพ) มีความสลับซ้อน เต็มไปด้วยถนน และตรอกซอกซอยที่ยากต่อการเดินทางเต็มไปหมด
แต่ต้องบอกก่อนว่า ปัญหาเรื่องผังเมือง เป็นปัญหาใหญ่ที่กล่าวโทษคนออกแบบผังเมืองแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะจากบริบทของสภาพบ้านเมืองในสมัยก่อน ที่เต็มไปด้วยคูคลอง ที่ลัดเลาะต่อถึงกัน เมื่อวันหนึ่งบ้านเมืองเจริญขึ้น ต้องสร้างสาธารณูปโภคมากมายเพื่อรองรับการเติบโตของเมืองแบบก้าวกระโดด การถมคลอง ตัดถนน สร้างตอกซอกซอยต่าง ๆ จึง ‘อาจ’ เป็นเรื่องจำเป็นและเหมาะกับความเจริญทางเทคโนโลยีในสมัยนั้นมากที่สุด (เพราะยังสร้างรถไฟฟ้า หรือระบบขนส่งมวลชนที่แก้ปัญหาได้ดีกว่านั้นไม่ได้)
และหากจะพูดถึงปัญหาของการผังเมืองจริง ๆ อาจจะต้องยกประเด็นนี้ไปพูดเป็นอีกบทความหนึ่งโดยเฉพาะ เพราะเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินกว่าจะทำความเข้าใจและแก้ปัญหาได้ในเวลาสั้น ๆ ยังไม่นับปัญหาการสร้างรถไฟฟ้า ที่ควรช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นการสร้างเพื่อหวัง ‘เพิ่ม’ ราคาที่ดินของกลุ่มทุนที่หวังสร้างรายได้จากการสร้างสถานีรถไฟฟ้าที่จะต้องพูดกันอีกยาว
เพราะฉะนั้น เมื่อเราแก้ปัญหาที่ระดับนั้นไม่ได้ การ ‘เตรียม’ ระบบชนส่งมวลชนพื้นฐานที่กล่าวไปข้างต้น จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่า หากมีผู้ที่มองเห็นความสำคัญ และเริ่มที่จะลงมือทำจริง ๆ
และสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ง่ายดีที่สุด ก็คือสิ่งที่หลายคนมองข้าม และมองว่าเป็นปัญหามากที่สุดอย่างรถเมล์ รถตู้ และรถ 2 แถว ที่เป็นเหมือนเส้นเลือดฝอย พาผู้คนเดินทางไปยังจุดต่าง ๆ มาหลายสิบปี
ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะคนขับรถยนต์ส่วนตัว) มักจะมองว่ารถโดยสารเหล่านี้คือต้นเหตุของปัญหารถติด ดูได้จากกรณี รถโดยสาร BRT ที่สร้างเลนเฉพาะจากรถไฟฟ้าไปยังจุดต่าง ๆ ที่ถูกคัดค้านเป็นอย่างมาก ว่ามาแย่งพื้นที่การจราจรที่มีน้อยอยู่แล้วไปได้อย่างไร สุดท้าย เมื่อโครงการไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องยกเลิกไปอย่างน่าเสียดาย
ทั้งที่ในความเป็นจริง "Bus Lane" คือวิธีการแก้ปัญหาการจราจรระดับสากลที่หลายประเทศให้ความสำคัญ ยกตัวอย่าง ของประเทศเกาหลีใต้ ที่มีระบบการขนส่งมวลชนขนาดใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ และเคยประสบปัญหาการจราจรเช่นเดียวกันมาก่อน รัฐบาลตัดสินใจ มีการสร้าง Bus Lane อย่างเป็นระบบ
รวมทั้งพัฒนาระบบของรถเมล์ ให้สามารถใช้ตั๋วโดยสารใบเดียวกัน หลังเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้เลย เป็นการสนับสนุนให้คนที่รู้สึกว่า ไม่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว พวกเขาก็สามารถเดินทางจากระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพได้เช่นกัน
และอย่าลืมว่า หลายคน ไม่ได้ต้องการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลด้วยซ้ำ หากแต่การจราจรและระบบขนส่งที่ไม่สามารถพาเขาไปยังที่ทำงาน หรือกลับบ้านได้อย่างสะดวกสบาย บังคับให้เขาต้องไปออกรถ (ทั้ง ๆ ที่รายได้ก็ไม่มาก) เพื่อใช้เป็นพาหนะในการเดินทางไปทำงาน และเข้าสู่สายพาน ‘การผลิตงาน’ ในระบบเศรษฐกิจต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หรือแม้กระทั่งรถตู้ หรือรถสองแถว (ที่ได้รับการพัฒนาระบบ อย่างมีมาตรฐาน) ที่ควรจะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า หรือจุดเชื่อมต่อสำคัญมากที่สุด ก็มักจะถูกผลักออกไปให้ไกลจากจุดเชื่อมต่อเหล่านั้น เพราะมองว่าการเอาพื้นที่ทำเลทองบริเวณนั้นไปสร้างเป็นที่อยู่อาศัย สร้างห้างสรรพสินค้า ฯลฯ นั้นสร้างประโยชน์ได้มากกว่าการให้รถเหล่านี้มากินพื้นที่จอดรอผู้โดยสารในแต่ละวัน
สุดท้าย นอกจากนโยบายการพัฒนาระบบพื้นฐานดังกล่าวที่ต้องเร่งพัฒนาอย่างเร่งด่วน อีกสิ่งหนึ่งที่ควรได้รับการแก้ไขไปพร้อม ๆ กันคือความสำนึกและตระหนักรู้ ว่าบนท้องถนน (และทุกที่บนโลกใบนี้) ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน การขับรถหรู ไม่ได้ทำให้คนนั้นมีคุณค่ามากกว่าคนที่เบียดเสียดกันอยู่บนรถเมล์ร้อน
เพราะถ้าจะพูดให้ตรงและแรงไปกว่านั้น คนที่นั่งตากแอร์เย็นฉ่ำอยู่ในรถส่วนตัว ควรจะต้องขอบคุณคนบนรถเมล์ รถสองแถว และรถสาธารณะอื่น ๆ มากกว่าด้วยซ้ำ ในฐานะที่เขาช่วยลดภาระบนท้องถนนให้เป็นอย่างมาก ระหว่างรถยนต์คันหนึ่งขนผู้โดยสารได้ประมาณ 5 คน แต่รถเมล์เพียงคันเดียว สามารถจุคนได้เต็มที่มากถึง 60 คน จริง ๆ ถ้ามองในแง่นี้ก็พอจะบอกได้ไม่ยากด้วยซ้ำว่า ใครที่น่าเห็นใจ และควรถูกมองเห็นความ ‘สำคัญ’ มากกว่ากัน
การเชื่อมต่อกันนี้ ทุกคนย่อมแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุด ใช้เวลาน้อยที่สุด โดยมีค่าใช้จ่ายต่อหัวตามเงื่อนไขส่วนที่ตนยอมรับไหวนั่นเอง
อ้างอิง
https://www.tcijthai.com/news/2013/02/scoop/3159
https://mgronline.com/daily/detail/9550000019828
https://waymagazine.org/interview_chadchart/
https://thematter.co/pulse/connectivity/15662
ภาพประกอบ
https://techfeedthai.com/2019/01/25/ขนส่งมวลชนไทย-ทำไมต้องข/
https://news.mthai.com/general-news/692977.html
https://unimon.co.th/about/
-Nut- ปัญหาคือ สันดารคนไทย รักสบาย ลำบากไม่เอา ถ้ารถสาธารณะไม่จอดหน้าบ้าน มันก็ไม่ใช้กันหรอก
26 มี.ค. 2562 เวลา 01.06 น.
Lue's💫 ปัญหาคือระบบสัมปทาน มันคนละเจ้า จริงๆบริการสาธารณะ ไม่ควรใช้ระบบสัมปทาน
26 มี.ค. 2562 เวลา 02.03 น.
Oh เหมือนรัฐบาลก็พยายามทำอยุ่นี่ไง จะให้สร้างเสร็จทั้งหมดภายในวันเดียวเหรอ รอหน่อยๆ ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว
26 มี.ค. 2562 เวลา 01.56 น.
คนคิดใช้บัตรเดียวไปได้ทุกสาย ก็กลับไทยแล้ว เคยคิดเหมือนกัน ทำมัยรพไฟฟ้าถึงไม่ใช้บัตรเดียว รถไฟฟ้ามีหลายสี คงต้องพกเป็นสิบบัตร
26 มี.ค. 2562 เวลา 01.38 น.
BOM อยู่มา 5 ปีไม่ได้แก้อะไรเลย ทุกอย่างทำตามแผนเก่า
26 มี.ค. 2562 เวลา 01.04 น.
ดูทั้งหมด