10 FIGHT 10 | ศึกสายบวก “แอนดรูว์ กรเศก” ชนะน็อก “ดิว ภัทรพล” ส่งทีมขาวนำ 13:5

“แอนดรูว์ กรเศก” (ทีมขาว) ชนะน็อก “ดิว ภัทรพล” (ทีมดำ) ซึ่งลดน้ำหนักถึง 15 กก. ใน 3 เดือน ก่อนหมดแรงแพ้ไปในยกที่ 3 ส่งผลให้ทีมขาวมีแต้มนำลิ่ว 13:5

เรียกได้ว่าเป็นรายการที่ผู้ชมทั่วประเทศต่างเฝ้ารอคอยนับคืนวันให้ถึงวันจันทร์ เวลา 20.15 น. กันเร็วๆ เลยทีเดียว สำหรับ 10 FIGHT 10 Presented by GS Battery รายการมวยรายการแรกของประเทศ ที่นำดาราชายระดับแถวหน้าของวงการมาชกมวยกันจริงๆ เจ็บกันจริงๆ ซึ่งในวันนี้ (22 ก.ค. 62) ได้เดินทางมาถึงคู่ชกคู่ที่ 7 แล้ว

โดยเป็นการเปิดศึกสายบวกระหว่าง “ดิว - ภัทรพล กันตพจน์” (ทีมดำ) หรือที่รู้จักกันในนาม"ดิว เดอะสตาร์ 4" ภายใต้การนำทีมของ โค้ชอองตวน ปินโต กับ “แอนดรูว์ - กรเศก โคว์นิน” (ทีมขาว) ภายใต้การนำทีมของ โค้ชแมทธิว ดีน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน “โดม เพชรธำรงชัย” (ทีมดำ) เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน “ธามไท” (ทีมขาว) ไปได้ ทำให้ทีมดำทำคะแนนตีตื้นทีมขาวขึ้นมาเป็น 5:8 แต้ม แต่ในครั้งนี้ ดิว - ภัทรพล (ทีมดำ) น้ำหนักเกินพิกัดไปมาก ทำให้ถูกหักคะแนนไปถึง 2 แต้ม กลายเป็นทีมขาวมีคะแนนนำทีมดำไปก่อนโดยที่ยังไม่ต้องทำอะไรถึง 10:5 แต้มแล้ว

“ดิว - ภัทรพล กันตพจน์” (ทีมดำ)

สำหรับ “ดิว - ภัทรพล กันตพจน์” (ทีมดำ) อายุ 32  ปี ส่วนสูง 181 ซม. ช่วงแขน 26 นิ้ว เขามาในฉายา เสือโคร่งนักสู้สายโหดขย้ำแหลก ไม่กลัวใครหน้าไหน ! โดยเร่งลดน้ำหนักลงมาจาก 96 กก. ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นนักมวยที่มีน้ำหนักมากที่สุดของรายการนี้เลยทีเดียว แต่ตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เขาทุ่มเทให้กับการฟิตซ้อมและเร่งลดน้ำหนักไปพร้อมกัน จนเหลือน้ำหนักก่อนขึ้นชกอยู่ที่ 81 กก. เรียกได้ว่าลดน้ำหนักลงมาถึง 15 กก. ในเวลาเพียงแค่ 3 เดือน ซึ่งเขายอมถูกหักคะแนนถึง 2 แต้ม ให้ทีมขาว ค่อยมาวัดกันบนสังเวียน สำหรับในอาชีพนักแสดง หนุ่มดิวได้รับบทตัวร้ายบ่อยครั้ง ทำให้ได้รับการฝึกฝนเรื่องแอ็กชั่นมาพอสมควร แต่เจ้าตัวยอมรับว่าเมื่อต้องมาฝึกมวยอย่างจริงจัง ถือว่าเป็นเรื่องที่แตกต่างจากการแสดงอย่างสิ้นเชิง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ฟิตและพร้อมดวลหมัดเต็มที่ พร้อมอ้อนแฟนๆ เป็นภาษาเหนือ ขอให้ช่วยเชียร์เขาด้วย

“แอนด์ดรูว์ กรเศก โคนิน” (ทีมขาว)

ด้านคู่ต่อสู้ “แอนด์ดรูว์ กรเศก โคนิน” (ทีมขาว) อายุ 34 ปี ส่วนสูง 183 ซม. ช่วงแขน 23.5 นิ้ว น้ำหนักก่อนขึ้นชก 71.5 กก. มาในฉายา มังกร ดุดัน ห้าวหาญ หมัดพิฆาตคู่ต่อสู้ ! เจ้าตัวก็ฟิตและพร้อมบวกมาก ซึ่งส่วนตัวเขาเป็นคนที่ชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีมและกีฬาแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้อยากจะทำเรื่องท้าทายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการชกมวยก็เป็นหนึ่งในนั้น เจ้าตัวยอมรับว่ากีฬาชกมวยเป็นเรื่องที่ฝึกหัดได้ยากกว่า และซ้อมหนักกว่า แต่ก็เชื่อมั่นในเซนส์กีฬาของตัวเอง ว่าสามารถพัฒนาเพื่อการชกจริงบนเวทีได้ โดยแอนด์ดรูว์ได้กล่าวก่อนขึ้นชกว่า “ใจผมสู้อยู่แล้ว แต่ว่าด้วยน้ำหนักที่เขาแบกมาเจอผมเนี่ย มันก็ค่อนข้างที่เราจะต้องเตรียมตัวเพื่อระวัง เพราะหมัดเขาน่าจะหนักพอสมควร”

โดยก่อนเปิดศึกดวลหมัด ฟากกองเชียร์ทีมขาวของหนุ่มแอนด์ดรูว์ ก็ได้ยกทัพรถแข่งมาเชียร์กันถึงสตูดิโอเวิร์คพอยท์กันเลยทีเดียว

แม้ว่าทั้งคู่จะไม่เคยชกมวยมาก่อน และทำให้ต้องฝึกพื้นฐานใหม่หมดทุกอย่าง แต่เรื่องร่างกายนั้นถือว่าทั้งคู่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ดังนั้น ไฟต์นี้จึงอยู่ที่การเรียนรู้พื้นฐานการชกว่า ใครจะซึมซับและเข้าใจศาสตร์ของมวยได้ดีกว่ากัน ซึ่งหากใครได้ติดตามชมการชกของคู่นี้คงได้เห็นแล้วว่า ทั้งสองได้พิสูจน์ให้เห็นว่า “ใจ” ของพวกเขานั้นสู้ไม่ถอยจริงๆ

เริ่มกันที่ยกแรก ทั้งคู่ยังมีอาการตื่นเต้น แต่เพียงชั่วครู่ทั้งคู่ก็ตั้งสติได้ ดิวเปิดฉากปล่อยหมัดขวาเข้าไปเต็มๆ ฟากแอนดรูว์ก็ออกหมัดสวนแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทางด้านดิวเสียหลักล้มไปนิดหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นมาสู้ต่อ ก่อนระฆังจะหมดยก

ยกที่สอง แอนด์ดรูว์เดินเข้าหา แต่ยังออกหมัดไม่ถูกเท่าไหร่ ด้านดิวคอยออกหมัดแย็บ ทั้งคู่ต่อยไปคิดไป แต่ดูเนือยลงไปทั้งคู่ ก่อนที่แอนด์ดรูว์จะปล่อยหมัดซ้ายใส่ลำตัวของดิวไม่ยั้ง โดยดิวมีอาการล้าให้เห็น เรียกได้ว่าแอนด์ดรูว์มาดีในยกนี้ ออกหมัดซ้ายยิงตลอด

ลุ้นกันต่อในยกที่สาม ไม่มีอะไรจะเสียสำหรับดิว ใส่ไม่ยั้ง สวนกันไปสวนกันมาแบบไม่มีใครยอมใคร ด้านแอนด์ดรูว์ชกลำตัวดิวจนดิวถูกนับ 8 ทว่าแอนด์ดรูว์นั้นไม่ได้ออกหมัดแรงเท่าไหร่ ก่อนที่ดิวจะเหนื่อยจนหมดแรง กรรมการเห็นท่าไม่ดีจึงยุติการแข่งขัน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะดิวนั้นหลังจากกรรมการยุติการแข่งขันชั่วครู่ ดิวก็เป็นลม เพราะหายใจไม่ทัน และถูกหามออกนอกสังเวียน โดยทางทีมงานได้เตรียมทีมแพทย์และรถพยาบาลไว้พร้อมแล้ว โดยมีรายงานว่าอาการหนุ่มดิวดีขึ้นแล้ว ซึ่งหัวใจของเขานั้นน่านับถืออย่างยิ่ง สู้จนสุดหัวใจจริงๆ เพราะการลดน้ำหนักลงมาอย่างรวดเร็วถึง 15 กก. ในเวลา 3 เดือนนั้นเป็นเรื่องที่ยากและต้องใช้ความอดทน มีวินัยอย่างมาก

และแล้วผลคะแนนก็ออกมา “แอนดรูว์ กรเศก” (ทีมขาว) เอาชนะน็อก “ดิว ภัทรพล” (ทีมดำ) ไปได้ ทำให้ทีมขาวได้แต้มเพิ่มมาอีก 3 แต้ม คะแนนนำลิ่วเป็น 13:5 แต้ม โดยหลังจากประกาศผลอย่างเป็นทางการ "แอนด์ดรูว์" แม้จะเป็นฝ่ายชนะ แต่ก็ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ภูมิใจเท่าไหร่ และเป็นห่วงอาการ "ดิว ภัทรพล" พร้อมขอโทษแฟนๆ เรื่องการชกของตนที่วันนี้ชกไม่ดีเท่าที่ควร

ล่าสุด มีรายงานว่า อาการของ "ดิว" ดีขึ้นแล้ว โดยคุณหมอให้นอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล 1 คืน และในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค. 62) จะย้ายโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง หนุ่มดิวฝากถึงแฟนๆ ว่าขอขอบคุณทุกกำลังใจ และไม่ต้องเป็นห่วง โดยภายหลังจากจบรายการ หนุ่ม "แอนด์ดรูว์" ก็รุดไปเยี่ยม "ดิว" ถึงโรงพยาบาลทันที

สำหรับเกณฑ์การให้คะแนน ทีมที่ชนะคะแนน จะได้ 1 แต้ม หากชนะน็อกได้ 3 แต้ม ถ้าเสมอ ไม่ได้คะแนน และสุดท้าย หากทีมใดคว้าชัยชนะ จะได้รับรางวัลเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท จาก GS BATTERY และทีมแพ้จะได้รางวัลเงินสด 500,000 บาท

ทั้งนี้ ในสัปดาห์แรกของการแข่งขัน (10 มิ.ย.) “บีม ศรัณยู” (ทีมดำ) ชนะน็อก “เป้ อารักษ์” (ทีมขาว) ทำให้ทีมดำมีคะแนนนำทีมขาวไปก่อน 3:0 สัปดาห์ถัดมา (17 มิ.ย.) “แมน พัฒนพล” (ทีมขาว) ชนะน็อก “เติ้ล ธนพล” (ทีมดำ) ทำให้ทีมขาวพลิกขึ้นนำ 4:3 เนื่องจากชนะน็อกได้ 3 แต้ม และบวกอีก 1 แต้ม เพราะน้ำหนักน้อยกว่า ต่อมาคู่ชกคู่ที่ 3 “เจสัน ยัง” (ทีมขาว) แพ้คะแนน “หลุยส์ พงษ์พันธ์” (ทีมดำ) คะแนนของทั้งสองทีมจึงเสมอกันที่ 4:4 แต้ม สัปดาห์ที่ 4 “ซัน ประชากร” (ทีมขาว) เอาชนะคะแนน “บอย พิษณุ” ได้อีก ส่งผลให้ทีมขาวมีคะแนนนำทีมดำอยู่ 5:4 แต้ม ส่วนคู่ที่ 5 “ชิน ชินวุฒ” (ทีมขาว) ชนะคะแนน “ฮั่น อิสริยะ” (ทีมดำ) และบวกแต้มเพิ่ม 1 แต้ม เพราะน้ำหนักน้อยกว่า 10 กก. ทีมขาวจึงนำทีมดำไปอีกเป็น 7:4 แต้ม ก่อนที่ทีมดำจะตีตื้นขึ้นมาเป็น 5:8 แต้ม เมื่อ “โดม เพชรธำรงชัย” (ทีมดำ) เอาชนะคะแนน “ธามไท” (ทีมขาว) ไปได้ แต่โดมถูกหักที่น้ำหนักเกินพิกัดไป 1 แต้ม และล่าสุดกับคู่ชกคู่ที่ 7 “แอนด์ดรูว์ กรเศก” (ทีมขาว) ชนะน็อก “ดิว ภัทรพล” (ทีมดำ) และดิวถูกหักเรื่องน้ำหนักตัวไป 2 คะแนน ทำให้ทีมขาวทำแต้มขึ้นนำทีมดำเป็น 13:5 แต้มแล้ว

ห้ามพลาด ! สัปดาห์หน้า วันจันทร์ที่ 29 ก.ค. 62 เตรียมพบกับ “กวินท์.ดี” (ทีมดำ) ปะทะ “ไต้ฝุ่น กนกฉัตร” (ทีมขาว) ในศึก “10 Fight 10 Presented by GS BATTERY” ได้ในเวลา 20.15 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 เท่านั้น !

ถ่ายภาพโดย: นลิน อรุโรทยานนท์