ไฟป่า Camp Fire ที่กำลังเผาผลาญพื้นที่ป่าและชุมชนในเมืองพาราไดซ์ ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียขึ้นแท่นไฟป่าที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมลรัฐ หลังพบเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเพิ่มอีก 13 คน รวมเป็น 42 คน ซึ่งมากกว่าเหตุการณ์ไฟป่าที่อุทยาน Griffith Park ในลอสแอนเจลิสเมื่อปี 1933 ที่มีผู้เสียชีวิต 31 คน
ทางการระบุว่ามีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 228 คน ขณะที่สิ่งปลูกสร้างถูกเผาทำลายเสียหายเกือบ 7,200 แห่ง หลังไฟลุกลามกินพื้นที่กว่า 109,000 เอเคอร์โดยที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้เพียง 25%
โจดี โจนส์ นายกเทศมนตรีเมืองพาราไดซ์ เล่าเหตุการณ์ที่ครอบครัวของเธออพยพหนีไฟป่ากับ CNN ว่า “มันน่ากลัวมากค่ะ พวกเขาใช้เวลานานมากกว่าจะหนีออกมาได้ เพราะมีไฟอยู่ทั้งสองฝั่งของรถ คุณจะรู้สึกถึงความร้อนจากเปลวเพลิงที่ทะลุถึงข้างในรถ”
ส่วนสถานการณ์ไฟป่า Woolsey Fire ที่เกิดขึ้นทางใต้ของรัฐยังคงน่าวิตกเช่นกัน เนื่องจากกระแสลมแรงทำให้ไฟป่าขยายวงกว้างจนยากจะควบคุม ขณะที่มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่า Woolsey Fire แล้ว 2 คน
สำหรับไฟป่าอีกจุดที่เรียกว่า Hill Fire ซึ่งเผาผลาญพื้นที่ 4,530 เอเคอร์ในบริเวณใกล้กับ Woolsey Fire นั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงส่วนใหญ่ได้แล้ว
นอกจากผู้เสียชีวิตรวม 44 คนแล้ว มีประชาชนราว 250,000 คนในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ต้องอพยพหนีไฟป่าครั้งใหญ่ ส่วนในบางพื้นที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปฟื้นฟูและทำความสะอาดจุดที่สามารถดับไฟได้แล้ว ขณะที่ประชาชนบางส่วนเดินทางกลับที่อยู่อาศัยและพบกับซากบ้านเรือนและรถที่ถูกเผาจนวอด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
🐰BunnYYing🐳 สงสารสัตว์เพราะน้ำมือของมนุษย์
13 พ.ย. 2561 เวลา 07.44 น.
อืม ทำไมระดับ สหรัฐ ทำไมไม่ทำบ่อน้ำ เป็นแนวกันไฟหว่า............?..ไฟ ไม่มีจุดเบรค เป็น Case study ว่า แนวสุดท้ายของบ่า ควรมีบึง กันไฟ หรือเปล่า....... คิดบ้างนะ เมืองไทย
13 พ.ย. 2561 เวลา 08.58 น.
กรรมสนองอเมริกาครับ
13 พ.ย. 2561 เวลา 08.17 น.
ดูทั้งหมด