25 ก.พ.2563 นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ผลกระทบทั้งในและต่างประเทศที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมทั้งหมดนั้น บริษัทยังคงติดตามอย่างต่อเนื่อง และยอมรับว่าทีความเปราะบางค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่คาดอัตราการขยายตัวจะอยู่ที่ 2% ลดลงจากปีก่อนโต 2.4% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในภาคการท่องเที่ยว สถานการณ์ภัยแล้ง ความล่าช้าของกระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณ ภาวะการค้าระหว่างประเทศยังคงอ่อนแอ ความขัดแย้งของพรรคการเมืองที่กระทบต่อความเชื่อมั่น
“ส่วนตัวมองภายในไตรมาส 1-2 ของปีนี้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัศโควิด 19 น่าจะคลี่คลายผลกระทบที่มีต่อภาคการท่องเที่ยวจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวให้ซึมยาวนานเกินไป ส่วนปัญหาภัยแล้งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากบริษัทในกลุ่มปตท. มีแผนบริหารจัดการน้ำรับมือปัญหาได้ดี รวมทั้งศึกษาแนวทางการนำน้ำเค็มมาผลิตเป็นน้ำจืดใช้ และประเมินในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค.ของทุกปีที่จะเข้าช่วงฤดูฝน สถานการณ์ภัยแล้งก็จะคลี่คลายลงได้”นายชาญศิลป์ กล่าว
นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศทั้งเศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมาย 6% เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ เศรษฐกิจสหรัฐที่ยังมีความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าสหรัฐ แม้ล่าสุดปัญหากับจีนจะผ่อนคลายลงหลังการลงนามข้อตกลงการค้าระยะที่ 1 แล้ว และการกลับเข้าสู่การดำเนินนโยบายการคลังแบบเป็นกลาง และเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีความแน่นอนทางการเมืองในอิตาลีและสเปน รวมถึงการเจรจาข้อตกลงสัมพันธ์ในอนาคตกับสหราชอาณาจักร
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2562 บริษัทและบริษัทในกลุ่มปตท. มีกำไรสุทธิ 92,951 ล้านบาทลดลง 22.3% จากปีก่อนอยู่ที่ 119,647 ล้านบาท เนื่องจากกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย(EBITDA) ที่เพิ่มขึ้นของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ จีพีเอสซี และ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ ปตท.สผ. แม้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทในปี 2562 ที่แข็งค่ามากกว่าปี 2561 และผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ที่ลดลง รวมถึงค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จะลดลงตามผลการดำเนินงาน
ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 2,219,739 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 5% ที่มีรายได้ 2,336,155 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และธุรกิจน้ำมันที่ลดลงจากราคาขาย รวมถึงเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่ารายได้ของบริษัทนั้นจะขึ้นลงตามราคาน้ำมันดิบของโลกซึ่งการที่มีรายได้ลดลงไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร ทั้งนี้ต้องยอมรับว่ายอดขายนั้นมีความสำคัญแต่กำไรสำคัญกว่าซึ่ง ปตท.รวมถึงบริษัทในเครือยังมีความยั่งยืนในจุดนี้อยู่
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการปรับสูตรหน้าโรงกลั่นตามแนวนโยบายของกระทรวงพลังงานยังไม่แล้วเสร็จ โดยกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด และต้องรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ตั้งอยู่บนหลักการดำเนินงานที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งผลกระทบต่อค่าการกลั่นที่มีความเป็นไปได้ที่จะลดลงหรือไม่ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ขณะนี้ยืนยันยังไม่มีข้อสรุปเรื่องนี้ที่แน่ชัดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมามีมติอนุมัติการทบทวนแผนลงทุนสำหรับปตท.และบริษัทในกลุ่มปตท. ระยะ 5 ปี(2563-2567) รวมทั้งสิ้น 180,814 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในปี 2563 วงเงิน 69,310 ล้านบาท ปี 2564 วงเงิน 41,415 ล้านบาท ปี 2565 วงเงิน 30,484 ล้านบาท ปี 2566 วงเงิน 20,545 ล้านบาท และปี 2567 วงเงิน 19,060 ล้านบาท
โดย 52% ของเงินลงทุนทั้งหมดจะเป็นการร่วมทุนและลงทุนในธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย การขยายธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก โครงการมาบตาพุดเฟส 3 วงเงิน 93,181 ล้านบาท สัดส่วน 18% เป็นการลงทุนโครงการท่อก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 วงเงิน 31,725 ล้านบาท สัดส่วน 16% ใช้ลงทุนในโครงการแอลเอ็นจี(ก๊าซธรรมชาติเหลว) เทอร์มินอล 2 วงเงิน 29,054 ล้านบาท ส่วน 8% ใช้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อาทิ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซีไอ) การร่วมลงทุนหรือซื้อกิจการธุรกิจใหม่ๆ ด้านพลังงาน เช่น ระบบกักเก็บ แบตเตอรี่ วงเงิน 15,182 ล้านบาท และ 6% ใช้ลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เช่น ปรับปรุงธุรกิจโรงแยกก๊าซ วงเงิน 11,672 ล้านบาท
สจ.. ขนไม่ร่วงหรอกประชาชนเขาทนมานานเขายังไม่บ่นเลยใช้น้ำมันแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้านที่มาซื้อน้ำมันสำเร็จรูปจากไทยไปขายซะอีก
24 ก.พ. 2563 เวลา 21.52 น.
หนุ่ม เมืองพล ขนาดป.ต.ทยังบ่นแล้วประชาชนล่ะจะขนาดไหนกำไรลดยังดีที่มีกำไรแต่ประชาชนขาดทุนแม้แต่กำไรชีวิตยังอยู่ได้เลย
25 ก.พ. 2563 เวลา 00.16 น.
bigsu covid19 มันเพิ่งเริ่ม มค ปี63 ส่วนปี62ไวรัสยังไม่ระบาดนะ มั่วจัง
24 ก.พ. 2563 เวลา 21.36 น.
โอ่ง กำไรขนาดนี้
24 ก.พ. 2563 เวลา 21.31 น.
กฤษ SNP ครับ ฟันกำไรไว้เยอะ น้ำมันในไทยแพงมาก ใครจะเชื่อ มองแต่กำไรแต่ผูกขาดในไทย
25 ก.พ. 2563 เวลา 01.18 น.
ดูทั้งหมด