เดือด! ผอ.ตี ด.ช.10 ขวบ ตัวช้ำ-หัวแตก แถมขู่กินตับ จนไม่กล้ามาเรียน 3 วัน

เดือด! ผอ.ใช้ไม้เรียวตี ด.ช.10 ขวบ ตัวช้ำ-หัวแตก แถมขู่เอาตับมาแกล้มเหล้า จนไม่กล้ามาเรียน 3 วัน ผู้ปกครองสุดทนแจ้งความ เจ้าตัวรับทำจริง พร้อมหาข้อยุติ

ครูตีเด็ก วันที่ 17 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา นายพล (นามสมมติ) อายุ 83 ปี ได้พา ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ ซึ่งเป็นหลานชาย กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.สนม จ.สุรินทร์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม สารวัตร (สอบสวน) สภ.สนม จ.สุรินทร์ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ หลัง ด.ช.เอ ถูก ผอ.โรงเรียน เรียกไปที่ห้องและใช้ไม้ระแนงตีหลายครั้งถูกที่ด้านหลังศีรษะ แขน จนเป็นรอยช้ำที่ศีรษะ แตกยาว 10 เซนติเมตร

ล่าสุดวันนี้ (17 ก.พ.) ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาคณะกรรมการโรงเรียน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นได้เข้าไปพูดคุยโดยมี ผอ.โรงเรียนเข้าร่วมฟังด้วย โดยเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความจริงตามที่ผู้ร้องเรียนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สนม

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

ด้าน นายพล ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ตนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สนม เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่ตนได้ทราบจากหลานว่าถูก ผอ.ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ประกอบกับศีรษะมีร่องรอยบาดแผลที่ถูก ผอ.ใช้ไม้ระแนงตีจนบอบซ้ำไปทั้งตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าที่จะเกิดขึ้นในยุคนี้ ซึ่งเป็นแบบนี้แล้วตนคงจะต้องหาที่เรียนให้กับหลานใหม่

ขณะที่ ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า ตนยอมรับที่ได้ลงไม้ลงมือไปตีเด็ก เพราะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของ ด.ช.เอ ที่มาโรงเรียนแต่ละครั้งชอบมาหาเรื่องให้กับเพื่อนๆ ในห้องเรียนซึ่งวันหนึ่งๆ จะมีเรื่องถึง 3 ครั้ง บางครั้งตนโมโหถึงต้องบอกไปว่าดื้อๆ แบบนี้ต้องตีให้ตาย พร้อมกับนำตับไปแกล้มเหล้า ซึ่งตนได้พูดออกไปจริง จนกระทั่งเด็กไม่กล้ามาโรงเรียนถึง 3 วันเลยทีเดียว

ทางด้าน นางณัสุรีย์ อนุศาสนัน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ประกอบกับเด็กที่กำลังเรียนยังดื้อ แต่เราควรหาทางออกให้ดีกว่านี้ ถ้าหากว่าเขาต้องการเรียนด้านการกีฬาก็ควรจะนำเข้าไปศึกษากับโรงเรียนที่เขาถนัดในวิชาที่เขาชอบ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นทางผู้ปกครองควรเข้าใจกับปัญหาของลูกหลานของตนเอง และเอาใจใส่ในการเรียนมากกว่านี้ แต่ที่ตนพร้อมคณะที่เดินทางมาวันนี้ก็อยากให้ทั้งฝ่ายผู้ปกครองและครูได้ทำความเข้าใจกัน และให้อภัยกัน ส่วนเรื่องของคดีนั้นก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเป็นขั้นตอนของกฏหมาย

ส่วนป้าของ ด.ช.เอ ซึ่งเป็นผู้โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว ได้กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะหลานนั้นพ่อและแม่แยกทางกันมานาน ทำให้ตนและลุงป้าน้าอาเป็นคนดูแลลูกหลาน ที่ตนโพสต์ออกไปนั้นเป็นความจริง เพราะไม่รู้จะไปอธิบายกับใคร ครอบครัวของเรามันจน ใครจะมองอย่างไรก็ได้ แต่ตนไม่เห็นด้วยกับการที่ ผอ.ใช้ความรุนแรงถึงขนาดนี้ ถือว่าแรงมาก ซึ่งตนได้เดินทางไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.สนม แล้ว คาดว่าพนักงานสอบสวนคงต้องเรียก ผอ.โรงเรียน เข้าไปพบเร็วๆ นี้