ทั่วไป

คำแนะนำ ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า ผู้ที่ทำอาชีพเสี่ยง และสถานที่ประกอบต่าง ๆ

MThai.com
เผยแพร่ 26 ก.พ. 2563 เวลา 11.35 น.
คำแนะนำ ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา, ร้านอาหาร

เพื่อให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสโคโรน่า ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนให้ตระหนักถึงวิธีการป้องกัน เพื่อความปลอดภัยทั้งของตนเองและคนในครอบครัว ในบทความนี้ขอแนะนำ วิธี ป้องกัน เชื้อไวรัสโคโรน่า สำหรับผู้ที่ทำอาชีพเสี่ยงติดเชื้อ และผู้ประกอบการ ที่ต้องเจอกับกลุ่มคนหมู่มาก อาทิ สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา, ร้านอาหาร, มัคคุเทศน์, โรงแรม, ขนส่งสาธารณะ เป็นต้น

คำแนะนำ ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า ผู้ที่ทำอาชีพเสี่ยง และสถานที่ประกอบการ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

  • ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันไวรัสโคโรน่า อาทิ สวมหน้ากากอนามัย การล้างมือที่ถูกต้อง และควรเน้นย้ำไปเลยว่าถ้ารู้สึกว่าป่วยให้งดมาร่วมพิธีกรรม
  • ทำความสะอาดบริเวณที่มีคนสัมผัสบ่อย เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ไม้ตีระฆัง กระบอกเซียมซี ห้องน้ำ (ด้วยน้ำผงซักฟอก / น้ำยาทำความสะอาด / แอลกอฮอล์เข้มข้น 70% ขึ้นไป )
  • กระจายมุมจัดพิธีกรรม เพื่อลดความแออัด
  • ควรมีจุดปฐมพยาบาล เพื่อดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น

ร้านอาหาร

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
  • พนักงานทุกคน สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือขณะทำงานทุกครั้ง
  • ล้างมือทุกครั้งหลังจากที่ไปจับอุปกรณ์ สิ่งของเครื่องใช้ที่มีคนสัมผัสเยอะ ๆ
  • ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาหาร โต๊ะอาหาร อาทิ ที่จับประตูห้องน้ำ (ด้วยน้ำผงซักฟอก / น้ำยาทำความสะอาด / แอลกอฮอล์เข้มข้น 70% ขึ้นไป ) วันละอย่างน้อย 1– 2 ครั้ง
  • จัดวางเจลล้างมือแอลกอฮอล์หรือสบู่ ตามจุดต่าง ๆ ในร้าน อาทิ ทางเข้าร้าน, ห้องน้ำ บริเวณเคาเตอร์คิดเงิน
  • ขยะอย่างกระดาษทิชชู่เช็ดปาก ต้องสวมถึงมือหรือใช้เหล็กคคีบด้ามยาวนำมาใส่ถุงขยะปิดปากให้มิดชิด และล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง

ผู้ประกอบการโรงแรม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
  • ให้เจ้าหน้าที่แผนกต้อนรับ สอบถามประวัติการเดินทางและสังเกตอาการของแขกที่เข้าพัก หากเคยไปพื้นที่เสี่ยงและมีอาการเข้าค่ายให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
  • จัดเตรียมหน้ากากอนามัย และติดตั้งเครื่องจ่ายแอลกอฮอล์เจลล้างมือไว้ในบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ล็อบบี้ ห้องอาหาร ห้องออกกำลังกาย ประตูทางเข้าออก หรือหน้าลิฟท์
  • ให้พนักงานทำความสะอาดสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือยางขณะปฏิบัติงาน ทำความสะอาดสิ่งของที่ใช้งานบ่อยๆ เช่น รีโมท สวิตช์ไฟ แก้วน้ำดื่ม โทรศัพท์ หัวเตียง และมือจับประตู เป็นต้น ด้วยผงซักฟอก แอลกอฮอล์เข้มข้น 70%
  • หากโรงแรมมีผู้ป่วยเข้าพัก ต้องให้พนักงานทำความสะอาดสวมชุดป้องกันตนเอง โดยใส่หมวก คลุมผม แว่นใสกันลมขนาดใหญ่ หน้ากากอนามัย ผ้าพลาสติกกันเปื้อน ถุงมือยางชนิดยาว และรองเท้าบู๊ท เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวห้องพัก โดยใช้น้ำยาฟอกขาวที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรด์ 6% (เช่น ไฮเตอร์ขวดสีฟ้า ไฮยีนขวดสีขาว) ผสมน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 ราดทิ้งไว้ 30 นาที ในบริเวณที่อาจมีน้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วยตกค้างอยู่

พนักงานโรงแรม

  • ควรสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ
  • ระมัดระวังการสัมผัสใกล้ชิดขณะปฏิบัติหน้าที่
  • อย่านำมือมาสัมผัส ตา จมูก ปาก รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หากมีอาการป่วย ควรรีบไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ พร้อมแจ้งประวัติ

คนขับแท็กซี่ หรือรถโดยสาร

  • ทำความสะอาดรถด้วยแอลกอฮอล์เข้มข้นอย่างน้อย 70% หลังมีการให้บริการ เน้นพื้นผิวที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ เช่น ที่จับประตู ที่จับเหนือหัวแฮนด์มอเตอร์ไซค์เบาะนั่ง ที่เท้าแขน เป็นต้น
  • ผู้ขับขี่ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และควรล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือน้ำสบู่บ่อย ๆ
  • หากพบว่าตัวเอง หรือผู้โดยสารมีออาการเสี่ยง แนะนำให้ไปพบแพทย์ทันที

มัคคุเทศก์

  • สังเกตอาการทางสุขภาพของลูกทัวร์ทุกคน
  • สวมหน้ากากอนามัยทั้งตัวไกด์และลูกทัวร์
  • หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล
  • ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

พนักงานนวดแผนไทย นวดสปา

  • สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการ
  • ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอทั้งก่อนและหลังปฏิบัติงานทุกครั้งด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล
  • ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก
  • ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ หลอด ช้อน ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้า
  • ทำความสะอาดจุดที่มีผู้สัมผัสบ่อย ๆ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได เก้าอี้นวด เบาะนวด อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้งหรือทุกครั้งหลังมีผู้ใช้บริการ
  • ซักทำความสะอาด หรือเปลี่ยนอุปกรณ์สิ่งของทุกครั้งหลังใช้ เช่น ผ้าขนหนู ปลอกหมอน ผ้าปูเตียง เสื้อผ้า เป็นต้น
  • สังเกตอาการลูกค้า ถ้าพบว่ามีอาการเสี่ยงให้ไปพบแพทย์ทันที
  • ทิ้งขยะที่ติดเชื้อต้องปิดปากถุงให้มิดชิด และล้างมือทุกครั้ง

ค่ายทหาร – บุคลากรที่กลับมาจากพื้นที่ระบาด

  • สำหรับบุคลากรให้หยุดรับการฝึก/ปฏิบัติงาน สังเกตอาการ ภายใน 14 วัน
  • ระหว่างที่พักอยู่บ้าน แยกห้องนอน ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น งดออกไปในที่ชุมชนสาธารณะ
  • ถ้ามีอาการไข้ร่วมกับไอ จาม มีน้้ามูก เจ็บคอหอบเหนื่อย ให้ใส่หน้ากากอนามัย และไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทางด้วย
  • ด้านหน่วยงานค่ายทหาร ควรมีแอลกอฮอล์เจลวางตามจุดต่าง ๆ เช่น ในโรงอาหาร ในโรงครัว ห้องน้้า เป็นต้น และจัดเตรียมห้องพยาบาลส้าหรับแยกบุคคลที่มีอาการป่วย

สถานที่ทำงาน ออฟฟิศต่าง ๆ

  • รณรงค์ให้พนักงาน ล้างมือทุกครั้งหลังหยิบจับอุปกรณ์ และจุดต่าง ๆ ในออฟฟิศ เช่น ที่จับประตูห้องน้ำ, เครื่องสแกนนิ้วมือเวลาเข้า-ออกงาน และก่อนที่จะทานอาหาร เป็นต้น
  • ให้พนักงานทำความสะอาดอุปกรณ์ อย่างคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน ด้วยแอลกอฮอล์เข้มข้น 70% ขึ้นไป เพื่อฆ่าเชื้อโรค
  • ออฟฟิศควรจัดวางแอลกอฮอล์เจลล้างมือตามจุดต่าง ๆ รวมไปจนถึงแจกหน้ากากอนามัยให้แก่พนักงาน
  • พนักงานทุกคนสังเกตตนเองและเพื่อนร่วมงานหากพบใครมีอาการเสี่ยงควรให้ใส่หน้ากากอนามัยและรีบไปพบแพทย์
  • กรณีสถานที่ทำงานที่มีคนทำงานเยอะ ๆ อย่าง โรงงาน ควรเพิ่มจุดคัดกรองตรวจเชื้อหากพบใครมีอาการเสี่ยงควรให้หยุดพักงานเพื่อสังเกตอาการและไปพบแพทย์

การจัดประชุมสัมมนา

  • มีจุดคัดกรองตรวจเชื้อทุกวัน ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม
  • หากพบมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ให้ผู้นั้นงดเข้าร่วมกิจกรรมจนกว่าจะหายป่วย (ควรให้ไปพบแพทย์)
  • เจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้จัดวางในจุดต่าง ๆ ให้เพียงพอ
  • แจกหน้ากากอนามัยและให้สวมตลอดเวลาที่เข้าร่วมกิจกรรม
  • ให้คำแนะนำผู้ร่วมสัมมนา ล้างมือก่อนและหลังร่วมกิจกรรมทุกครั้ง
  • ลดความแออัดของผู้คนที่ทำกิจกรรม ด้วยการจัดพื้นที่ให้กว้างขวางเพียงพอ
  • ให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใส่หน้ากากอนามัย และการล้างมือ
ดูข่าวต้นฉบับ