ทั่วไป

ศาลเลื่อนฟังอุทธรณ์ คดีอัลไพน์ หลัง"ยงยุทธ"ให้ทนายนำใบรับรองแพทย์แสดงมึนหัวยื่น

MATICHON ONLINE
อัพเดต 17 ม.ค. 2562 เวลา 04.35 น. • เผยแพร่ 17 ม.ค. 2562 เวลา 04.01 น.
แฟ้มภาพ

*“ยงยุทธ วิชัยดิษฐ”ส่งทนายขอศาลเลื่อนอ่านอุทธรณ์ ผิด ม.157 โอนที่ดินอัลไพน์ธรณีสงฆ์เอื้อเอกชน นำใบรับรองเเพทย์เเสดงมึนหัว ศาลกำชับนัดหน้าพาตัวมาศาลฟังอุทธรณ์นัดหน้า 28 ก.พ.นี้ *

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 มกราคม ที่ห้องพิจารณา 4 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤมิชอบกลางศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อท.38/2559 ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ” อดีตหัวหน้าเพื่อไทย และ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา157

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

กรณี “นายยงยุทธ” จำเลย ขณะดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ในการพิจารณาอุทธรณ์และสั่งเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน โดยมีเจตนาช่วยเหลือ บริษัทอัลไพน์เรียลเอสเตท จำกัด, บริษัท กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด และผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในเวลาต่อมา ให้ได้รับประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฏหมาย

โดยคดีนี้ “ศาลอาญาคดีทุจริตฯกลาง” ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2559 เห็นว่า การที่จำเลยพิจารณาอุทธรณ์ และมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินซึ่งให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนาม ‘สนามกอล์ฟอัลไพน์’ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ จากการที่ นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ที่ถึงแก่ความตายแล้ว ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดิน 2 แปลง ดังกล่าวให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหาร นั้น จำเลยออกคำสั่งโดยมิชอบ โดยจงใจละเลยข้อเท็จจริงต่างๆ และยังจงใจตีความกฎหมายให้ผิดเพี้ยนไปจากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2482 ที่ระบุให้กระทรวงถือปฏิบัติตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ดังนั้นคำสั่งของจำเลยจึงเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบ ถือเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแก่ผู้อื่น และก่อให้เกิดความเสียหายแก่วัดธรรมิการามวรวิหาร ทั้งยังทำลายศรัทธาของผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เช่นนางเนื่อม จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง พิพากษาจำคุก 2 ปี

คดีนี้นายยงยุทธจำเลยได้ประกันระหว่างอุทธรณ์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลานัด ทนายความของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษา พร้อมแสดงใบรับรองแพทย์ จาก รพ.ธนบุรี เนื่องจากนายยงยุทธ มีอาการป่วย วิงเวียนมึนศีรษะ และเข้ารับการรักษาที่ ร.พ.ธนบุรี จึงไม่อาจมาฟังคำพิพากษาได้

ศาลพิจารณาแล้วกรณีมีเหตุจำเป็น จึงให้เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปเป็นวันที่ 28 ก.พ. นี้ เวลา 10.00 น. พร้อมกำชับให้ทนายความนำจำเลย มาฟังคำพิพากษาในวันดังกล่าวด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้สืบเนื่องจากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย (อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย) ต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 สืบเนื่องจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กรณีเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนาม ‘สนามกอล์ฟอัลไพน์’ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมิชอบ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 6-3 เสียง ชี้มูลความผิดนายยงยุทธ กรณีมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนาม ‘สนามกอล์ฟอัลไพน์’ ที่แบ่งแยกจากโฉนดที่ดิน 2 แปลง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยเห็นว่า มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา

สำหรับต้นเหตุของคดีนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยกเหตุอันควรสงสัยกล่าวหานายเสนาะ เทียนทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย พร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน จ.ปทุมธานี สาขาธัญบุรี ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีจดทะเบียนโอนมรดก และโอนขายที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหารโดยมิชอบ จำนวน 732 ไร่ และละเว้นไม่ดำเนินการเพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนที่ดิน

โดยเมื่อปี 2553 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายเสนาะไปแล้ว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 148 แต่ความผิดตามมาตรา 157 ขาดอายุความตั้งแต่ปี 2548 จึงส่งแค่ผิดตามมาตรา 148 ให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการต่อไป ต่อมา อสส. ส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างไรก็ดีท้ายสุดศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษายกฟ้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 69
  • อะไรก็ช่างแต่ไอ้ที่ช้วยกันโกงที่วัดนี่นะมันไม่น่าให้อภัยเลยมี่แต่พวกเหี้ยเท่านั้นที่กล้าทำเลวจริงๆนะพวกมึง
    17 ม.ค. 2562 เวลา 08.01 น.
  • pong
    ขี้ข้าทักษิณเบอร์ต้นๆ เห็นคุกเลยมึนหัว555
    17 ม.ค. 2562 เวลา 07.59 น.
  • คนใกล้ตายทั้งนั้นเห็น. รับโทษก่อนเถอะ. อย่าหลีกลี้หนีเลย
    17 ม.ค. 2562 เวลา 07.45 น.
  • chumporn
    วันอื่นไม่เป็นไร แต่พอจะขึ้นศาลจะเป็นจะตายเอา คนพวกนี้แปลกดี ถึงเวลาอาจจะไปตายเมืองนอกก็ได้
    17 ม.ค. 2562 เวลา 07.36 น.
  • Somkiat 💕❤️💕
    สุดท้ายกรรมก็ตามสนองรออีกไม่นานก็จบแน่คงหนีไม่พันกรรมที่ทําไว้ ส่วนนายลอยตัวนี่แหละขี้ข้าเค้าเหมือนกันทุกคน?
    17 ม.ค. 2562 เวลา 07.29 น.
ดูทั้งหมด