“อนาคตใหม่” อ้าง “ธนาธร” ให้พรรคยืม 250 ล้าน – “ศรีสุวรรณ”จี้กกต.สอบให้พรรคยืมเงิน

โดยในเนื้อหาที่นายธนาธรกล่าวกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทย ระบุว่า "พรรค (อนาคตใหม่) เป็นหนี้ผมอยู่ ผมให้เงินพรรคยืมอยู่ 110 ล้านบาท เพราะไม่สามารถระดมทุนได้ทันเวลา พรรคเพิ่งมีตัวตนในทางกฎหมาย เมื่อ วันที่ 3 ต.ค. 61 แต่พรรคต้องการความโปร่งใส ไม่ทำเหมือนพรรคอื่น ผมต้องการที่จะเปิดเผยตรงไปตรงมา และก็แจ้งเรื่องเงินก้อนนี้ รวมถึงวิธีการใช้เงิน ตอนนี้ในบัญชีของพรรค ผมเป็นเจ้าหนี้การค้า (Account Payable)ร้อยกว่าล้าน ผมจำตัวเลขที่แน่ชัดไม่ได้ แต่น่าจะประมาณ 105 หรือ 110 ล้านบาทไทย ผมให้พรรคยืมเงิน

"สิ่งสำคัญตอนนี้คือ การทำให้การเงินของพรรคยั่งยืนต่อไปได้ พรรคยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ และสามารถที่จะคืนเงิน 110 ล้านบาทนี้ให้กับผม มันก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่า จะเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายหรือเปล่า ถ้าคนต่างชาติจะมาซื้อของที่ระลึกของเรา แต่ถ้าคุณเป็นคนไทย กรุณาให้การสนับสนุนเราด้วย"

ด้านน.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาชี้แจงกรณีกรณีนี้ผ่านรายการทางทีวีช่องหนึ่ง โดยระบุจำนวนเงิน250 ล้านบาท พร้อมมีการเก็บดอกเบี้ยนั้น เป็นเพียงการคาดการณ์จำนวนเงินเท่านั้น แต่เมื่อถึงช่วงเลือกตั้งจริง ปรากฎว่า เงินที่ใช้ก็ไม่ได้ถึงจำนวนดังกล่าว และเรื่องการใช้งบประมาณต่างๆ นั้น ผู้ที่มีข้อสงสัย ก็สามารถตรวจสอบได้ ในเว็บไซต์ของพรรคอนาคตใหม่ได้อยู่แล้ว จึงไม่ได้กังวลต่อประเด็นนี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบหน้าเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา กลับไม่รายละเอียด

ในกรณีนี้มีคนเคลื่อนไหวเพื่อให้สอบนาย ธนาธร

คนแรกคือนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายธนาธร ออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่า เงินนั้นเป็นเงินหมวดอะไร ตามข้อกฎหมายของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เพราะเท่าที่ตรวจสอบพบว่า กฏหมายกำหนดที่มา รายได้พรรคการเมืองไว้ใน หมวด 5 มาตรา 62 ว่า รายได้ของพรรคการเมือง อาจมีรายได้ ดังต่อไปนี้

(1) เงินทุนประเดิมตาม มาตรา 9 วรรคสอง (2) เงินค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรค การเมืองตามที่กำหนดในข้อบังคับ (3) เงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้า หรือบริการของพรรค การเมือง (4) เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรค การเมือง (5) เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์ อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค (6) เงินอุดหนุนจากกองทุน (7) ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ของพรรคการเมืองและหากมีการระดมทุนจบแล้วต้องประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป พร้อมทั้งแจ้งให้นายทะเบียนทราบด้วย นำหลักฐานไปแสดง ในงบการเงินประจำปีของพรรคให้ครบถ้วน

หากมีการบริจาคเงิน จะเกิน10 ล้านบาท ต่อปีไม่ได้ หากหลายพรรคก็ไม่เกินปีละ 5 ล้านบาท และต้องแจ้งให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมใหญ่คราวต่อไป (นิติบุคคล)

แม้ว่าจะอ้างว่าให้พรรคยืม ก็ไม่มีระเบียบข้อไหนให้พรรค การเมืองยืมเงินใคร ดังนั้น นายธนาธร ตอบให้ได้ว่าอยู่ในหมวดไหน ระดมทุน หรือบริจาค และมีใบเสร็จมายืนยันหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ การให้ยืมนั้นทำไม่ได้อย่างแน่นอน จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย

อีกคนคือนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย บอกว่าตกลงตัวเลขมันเท่าไหร่กันแน่การยืมเงินมันทำได้หรือ ขัดต่อ ม. 66 ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง หรือไม่ ซึ่งจะไปยื่นเรื่องยื่นเรื่องดังกล่าวให้ กกต. ตรวจสอบในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้