ไลฟ์สไตล์

สติมา ปัญญาเกิด แต่ถ้าไม่มีสติ จะเกิดอะไร

LINE TODAY
เผยแพร่ 13 ธ.ค. 2560 เวลา 10.25 น. • Pimpayod

หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “สติมา ปัญญาเกิด” กันมาบ้าง 

คำว่า “สติ” ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิต แปลว่า ความรู้สึก, ความรู้สึกตัว, เช่น ได้สติ ฟื้นคืนสติ สิ้นสติ, ความรู้สึกผิดชอบ เช่น มีสติ ไร้สติ, ความระลึกได้ เช่น ตั้งสติ กำหนดสติ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ส่วนในวิกิพีเดีย “สติ” แปลว่า ความระลึกได้ ความนึกขึ้นได้ ความไม่เผลอ ฉุกคิดขึ้นได้ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ความไม่ประมาท

ในทางพระพุทธศาสนามีการเจริญสติ ซึ่งก็คือการอยู่กับปัจจุบันไม่คิดเรื่องอื่นใด และรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการโฟกัสอยู่ที่การกระทำทั้งกายและใจของตนเอง โดยการเจริญสติแตกต่างจากการทำสมาธิตรงที่สามารถกระทำได้ทุกอิริยาบถ จะนั่ง ยืน เดิน หรือนอน ก็เจริญสติได้ทั้งนั้น แค่ระลึกไว้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ณ ขณะนั้น เช่น เวลาเดินก็ระลึกรู้ตัวอยู่ว่าเดิน หรือเวลาทำก็ระลึกรู้ว่ากำลังทำสิ่งนั้น ๆ อยู่

เมื่อมี “สติ” ก็ทำให้เกิด “ปัญญา” สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรควร-ไม่ควร เรียกว่ามีความตระหนักรับรู้อยู่ทุกขณะว่ากำลังทำอะไร คิดอะไร และเมื่อรู้แล้ว “สติ” ก็จะเป็นเครื่องมือที่ดีที่ให้ทำทุกอย่างได้อย่างแน่วแน่มากขึ้น เช่น พอมีสติก็ทำให้เกิดความละเอียดรอบคอบในการทำงาน ไม่สะเพร่า ไม่ชะล่าใจว่าสิ่งนั้น ๆ เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่เป็นไร สุดท้ายก็ทำให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ถ้าไม่มีสติ อะไรจะเกิดขึ้น

หากไม่มีสติ ก็แปลว่าไม่มีการรับรู้กับสิ่งที่ตนทำอยู่ ไม่มีความรู้สึกผิดชอบหรือรู้สึกตัว และอาจดำรงตนอยู่ในความประมาทก็เป็นได้ และบางครั้ง บางเหตุการณ์ ความไม่มีสติอาจทำให้ถึงตายได้เลย เช่น เมื่อจมน้ำแม้ว่ายน้ำไม่เป็น หากมีสติก็อาจมีชีวิตรอดได้ แต่ถ้าไม่มีสติ มัวแต่ตื่นกลัวก็ยากที่จะเอาตัวรอดไปจากสถานการณ์นั้นได้

แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีสติหรือตั้งสติกันได้ง่าย ๆ ของแบบนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างเป็นประจำและสม่ำเสมอ เพราะคนเราส่วนใหญ่มักจะตื่นตระหนกกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันอยู่แล้ว ถ้าไม่ฝึกจิต ฝึกควบคุมสติมาก่อน น้อยคนนักที่จะตั้งสติเอาไว้ได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

วิธีฝึกจิตให้มีสติแตกต่างจากการทำสมาธิที่ต้องสูดลมหายใจเข้า-ออกลึก ๆ กำหนดลมหายใจ ปล่อยวางให้ว่างเปล่า แต่การฝึกให้มีสตินั้น เป็นการทำให้จิตอยู่กับเนื้อกับตัว เป็นการกำหนดรู้ว่าจิตกำลังคิดอะไรอยู่ จดจ่อกับสิ่งที่คิดหรือทำอยู่เท่านั้น ไม่ล่องลอย คิดเรื่อยเปื่อยนอกลู่นอกทาง ถ้ายังไม่รู้ว่าจิตคิดอะไร จิตก็จะไม่อยู่กับตัว สติก็ไม่มี วิธีนี้จะทำให้เรามีสติไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบ

อย่างที่บอกว่าการมี “สติ” เป็นเรื่องต้องฝึกฝน อย่าคิดว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่มองข้ามไปได้ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์คับขันขึ้นจริง ๆ “สติ” เป็นสิ่งที่ทำสำคัญมาก และเป็นสิ่งที่ทำให้คุณหลุดพ้นจากหายนะได้ง่าย ๆ ด้วยเหมือนกัน

ความเห็น 25
  • ณัฏฐากร
    เป็นหลักสำคัญในการปฏิบัติทั้งในทางโลกและทางธรรม
    13 ธ.ค. 2560 เวลา 12.28 น.
  • Y0S
    แล้วสมมุต ถ้ามีโจรมาดักปล้นเราแล้วเรามีสติ และมีวรยุทรบังเอิญพรั้งมือทำโจรตายด้วยมือเปล่า เราต้องติดคุกไหม
    13 ธ.ค. 2560 เวลา 15.33 น.
  • ยุ
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิด้วยนะคะที่แนะนำสิ่งดีๆๆนำมาปรับปรุงชีวิตการดำรงชีวิตมาใช้อย่างมาสติการมีสติมีชัยไปกว่าครึ่งหรือมากกว่าครึ่งสาธุขอบคุณมากๆๆค่ะ
    13 ธ.ค. 2560 เวลา 18.50 น.
  • สาธุค่ะ
    13 ธ.ค. 2560 เวลา 15.00 น.
  • wilawan
    ชอบคะ
    13 ธ.ค. 2560 เวลา 16.55 น.
ดูทั้งหมด