ไลฟ์สไตล์

ภูกระดึง ยิ่งใหญ่ในสิ่งเล็ก

THE STANDARD
อัพเดต 17 ก.พ. 2563 เวลา 10.22 น. • เผยแพร่ 17 ก.พ. 2563 เวลา 10.21 น. • thestandard.co
ภูกระดึง ยิ่งใหญ่ในสิ่งเล็ก

เรื่องภูกระดึงที่ถูกดองเค็มมาสามเดือนกว่า กำลังคืบหน้าไปบนแผ่นกระดาษดิจิทัล ก่อนที่เราจะตื่นมาพบกับข่าวที่น่าตกใจมากสำหรับใครก็ตามที่เคยไปเยือนภูเขายอดราบแห่งนี้ หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่เคยไป ข่าวไฟไหม้ป่ากินพื้นที่สามพันกว่าไร่ก็ไม่น่าอภิรมย์เท่าไรนัก

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

หลังแป วังกวาง หมากดูก สระใหญ่ สระอโนดาต สระแก้ว ป่าสน ทุ่งหญ้า เฮ้ย! ไหม้แทบทุกจุดที่เราไปมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ภาพทุ่งหญ้า กอเฟิร์นกลายเป็นสีดำ สลับกับภาพจำแสนสวยที่เราได้ไปเห็นมาผุดขึ้นมาในหัว พร้อมกับความรู้สึกเสียดายปนเสียใจ แม้ลึกๆ รู้ว่าธรรมชาติจะค่อยๆ เยียวยาตัวเองก็เถอะ สาเหตุของไฟป่าอาจยังไม่ได้มีข้อสรุปที่แน่ชัด อาจเกิดจากธรรมชาติ อาจเกิดจากฝีมือมนุษย์ แต่สิ่งหนึ่งที่เราขอยืนยันคือ ภูกระดึงเหมือนคนที่ภายนอกดูสุขภาพดี แต่ภายในกลับมีโรคแฝงอยู่

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ย้อนไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่แล้ว ทริปภูกระดึงเกิดขึ้นเพราะมีเพื่อนหนึ่งคนในกลุ่มดันไปบนบานศาลกล่าวไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเจ้าป่าเจ้าเขาเมื่อหลายปีที่แล้วว่า “หากสิ่งที่ปรารถนาเป็นจริง จะมาเดินเก็บขยะที่ภูกระดึง” และเจ้าป่าเจ้าเขาก็เสกปิ๊งให้พรตามที่ขอ ทว่าเจ้าตัวก็ผัดผ่อนมาเรื่อยจนล่วงเลยมาหลายปี จึงได้ฤกษ์ชวนเราและเพื่อนอีก 2 คน รวมกันเป็น 4 คน มาเดินขึ้นภูเก็บขยะกันตอนที่อายุล่วงเลยมาวัยสามสิบกลางๆ 

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ด้วยความที่ไม่เคยมาภูกระดึง และภาพจำมีเพียงวิวชะง่อนผาหล่มสักกับต้นสนที่เห็นดาษดื่นตามสื่อทั้งหลาย เลยไม่คาดหวังว่าจะสวยไปกว่านั้น แต่พอได้สัมผัสของจริงจึงพบว่า ทุกครั้งที่เหนื่อยหอบและหยุดพัก กลับได้สังเกตรอบตัวว่าผืนป่าค่อยๆ เปลี่ยนไปตามระดับความสูง ลีลาของกิ่งไม้ดูอ่อนช้อยเหมือนนางรำ บางต้นดูสง่า บางต้นฉวัดเฉวียนเอียงเอน แม้กระทั่งใบไม้แห้งบนพื้นยังมีโทนสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ทุกอย่างสวยได้ด้วยตัวมันเอง

 

 

บนหลังแป ทุ่งเฟิร์นขึ้นปกคลุมไปทั่วทุกจุดของป่าสน หลายคนที่มาเที่ยวอาจเหนื่อย ร้อน และคุยสนุกกับกลุ่มเพื่อนจนลืมมองข้างทาง บ้างอาจจะมองวิวกว้างของทุ่งหญ้า แต่เราพบว่าความสวยงามที่แท้จริงมักซ่อนตัวอยู่ข้างทาง พืชพันธุ์เล็กจิ๋วอย่างมอสข้าวตอกพระร่วงให้ความรู้สึกนุ่มฟูเหมือนพรมไหม ไลเคนเกาะอยู่ตามเปลือกไม้สร้างภาพแปลกตาราวกับมีคนมาวาดแผนที่ไว้ ต้นไม้รากอากาศมากมายหลายชนิดซ่อนตัวอยู่ตามซอกหิน ซึ่งถ้าไม่ก้มมองก็คงเดินผ่านไปแบบไม่ไยดี ดอกกระดุมเงินขึ้นเป็นกอบนลานหิน หรือแม้แต่ตะไคร่น้ำตามน้ำตกก็ยังมีสีสวยสะดุดตา

 

 

แต่ละก้าวที่เดิน เราช่วยกันสอดส่องสายตาหาขยะ ซึ่งแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม  เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยเศษเปลือกลูกอม ทิชชู่แห้ง ทิชชู่เปียก ซองขนม ก้นบุหรี่ แม้ว่าจะไม่มีขยะชิ้นใหญ่ แต่ทุกชิ้นล้วนเป็นขนาดพอดีคำ พร้อมให้สัตว์ป่ากลืนลงท้องได้ทั้งสิ้น มากมายจนเกิดคำถามว่า ทำไมทำตัวเป็นอาเฮียกันจัง ถังขยะทางอุทยานก็จัดไว้ให้ทุกซำ ทุกจุดพัก แค่เศษทิชชู่ เศษลูกอมมันหนักจนถือไม่ไหวเลยเหรอ

 

เราเชื่อว่ามีหลายคนนิสัยดี รู้ว่าต้องเคารพธรรมชาติ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ขาดสำนึก แม้กระทั่งคนพื้นที่อย่างลูกหาบที่หากินกับภูกระดึง ยังสูบบุหรี่แล้วโยนทิ้งข้างทาง นี่เราเห็นกับตา ทางอุทยานก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปลูกจิตสำนึก มีโครงการให้ช่วยกันเก็บขยะลงจากภู เราก็ไม่รู้ว่ามีคนร่วมมากน้อยแค่ไหน เพราะตอนขนลงอาจต้องจ่ายค่าขนให้ลูกหาบเพิ่ม ราคาขนแค่กิโลกรัมละ 30 บาท เราว่ามันไม่ได้แพงอะไรเลย เมื่อเทียบกับปริมาณขยะหนึ่งกิโลกรัม อย่างทีมเราเองเก็บได้ทั้งหมด 4 กิโลกรัม คิดดูแล้วกันว่าเปลือกลูกอม ก้นบุหรี่ เศษทิชชู่ต้องเยอะขนาดไหน ถึงหนักได้เท่านี้

 

 

เส้นทางเดินป่าสองสามเส้นทางบนภู คือลายแทงสำคัญที่จะพาเราไปพบกับความงามที่แท้จริงของป่าแห่งนี้ เพียงแต่ต้องใช้เวลากับมันสักนิด เดินให้ช้าลง อย่ามัวแต่มุ่งหน้าไปหาจุดหมาย ทุกก้าวของเราย่างเหยียบอยู่บนสวรรค์ธรรมชาติ ฉะนั้นจงดื่มด่ำให้เต็มที่ด้วยวิธีจิบและละเลียด ทำเหมือนกับว่าภูกระดึงคือไวน์ชั้นดี ที่ต้องเสพสัมผัสด้วยความบรรจง

 

เราอาจไม่ได้บรรยายรายละเอียดของการเดินเที่ยวบนภูมากนัก เพราะเส้นทางทุกเส้นนั้นถูกกำหนดไว้แล้ว ทุกคนจะได้เดินบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติเช่นเดียวกัน ปล่อยให้ภาพเป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวของป่าที่เราได้เจอมาแล้วกัน

 

 

อยู่ในเมือง ถ้ายังไม่ถึง 8 โมงเช้า เราก็ไม่ตื่น แต่สำหรับที่นี่ตีห้าครึ่งถึงหกโมงครึ่งคือ ช่วงเวลาที่เราจะได้ซึมซับพลังที่งามที่สุดของโลกใบนี้ แสงอาทิตย์จับขอบฟ้าที่ผานกแอ่น สาดส่องผ่านแนวต้นสน เมฆเปลี่ยนสีตามเวลาที่ผ่านพ้น จากเย็นเยียบสู่อุ่นไอ UV ในช่วงบ่ายก่อนจะคล้อยหายและกลับสู่ค่ำคืนสงบแต่ไม่สงัดเพราะมีเสียงหมาจิ้งจอกโห่ร้องหอนรับกันมาจากชายป่า

 

 

วัฏจักรของภูกระดึงดำเนินไปแบบนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน แตกต่างกันในรายละเอียดและโฉมหน้าของธรรมชาติประจำฤดูกาล เราผู้มาเยือนเพียงชั่วคราวควรแสดงความเคารพอย่างสูงสุด ด้วยการรบกวนภูแห่งนี้ให้น้อยที่สุด เอาของขึ้นมาเท่าไร อย่างน้อยต้องเอากลับลงไปเท่านั้น แต่จะให้ดีพกถุงไปเก็บขยะให้ได้อีกคนละหนึ่งกิโลกรัมแล้วนำลงไปทิ้งข้างล่าง

 

ถ้าภูกระดึงเปรียบเสมือนร่างกาย นักท่องเที่ยวก็คือจุลินทรีย์ หากร่างกายเจอจุลินทรีย์ร้ายก็ป่วยไข้ เจอจุลินทรีย์ดีก็มีสุขภาพแข็งแรง และเราเลือกได้นะว่าจะเป็นจุลินทรีย์ประเภทไหน

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 10
  • Nong
    ถ้าเกิดไฟป่าธรรมชาติ มันก็น่าเสียดายและเสียใจด้วย แต่ถ้าเกิดจากการเผาป่าอีก จับได้ขอประหารลูกเดียวเลย ฐานทำลายชาติได้นะ
    17 ก.พ. 2563 เวลา 11.41 น.
  • Pornchanok Sangkrom
    เกลียดไอ้พวกชอบเผา ชอบทำลายธรรมชาติ
    17 ก.พ. 2563 เวลา 14.13 น.
  • OatOatOat
    กรมอุท หรือ ผู้ว่าเลย จะมีแผนจัดกิจกรรมฟื้นฟูคืนสภาพภู่กระดึงน่าจะประมาณเดือนไหน #รักภูกระดึง
    17 ก.พ. 2563 เวลา 11.53 น.
  • เทียน6️⃣5️⃣♾
    รักมากภูกระดึง 4 ครั้งแล้วที่ไปเยือน ธรรมชาติ สร้างสรรค์ความงาม โปรดช่วยกันดูแล
    17 ก.พ. 2563 เวลา 15.45 น.
  • Waraporn
    ไฟป่า มันก็แอบเผา ใครมันจะตามทัน จะเข้าแล้ง กับร้อน ขอนะฝนหลวงของพ่อ มาช่วยหน่อย กรมฯที่ดูแลมีแต่บอกหนาวร้อนกับปีนี้แลง เอาให้มันดีๆ ขอฝนเทียมเถอะ
    17 ก.พ. 2563 เวลา 15.09 น.
ดูทั้งหมด