ไลฟ์สไตล์

หมดเวลารู้สึกแย่! เรียนรู้ 6 วิธีรับมือ เมื่อถูก(หยาม)เหยียด - ห้องแนะแนว

LINE TODAY
เผยแพร่ 30 ก.ค. 2563 เวลา 17.00 น. • nawa.

 

91% ของเด็กไทยเคยถูกบูลลี่ (Bully) กลั่นแกล้ง เหยียดหยามจะเพื่อนรอบข้าง จนทำให้พฤติกรรมบูลลี่ของเด็กไทยติดอันดับ 2 ของโลกไปโดยปริยาย นับเป็นสถิติที่ไม่ค่อยน่าพูดถึงเท่าไหร่นักใช่ไหมคะ แต่รู้ไหมว่าไม่ใช่แค่เด็กเท่านั้นที่ต้องตกเป็นเหยื่อความทรมานทางจิตใจนี้ ผู้ใหญ่อย่างเราเองก็ยังคงพบเจออยู่ได้เรื่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะทางวาจา สารพัดคำพูดคำจาเชิงลบ แล้วที่เจ็บปวดไปกว่าเดิมคือคำเหล่านั้นมักมาจากคนใกล้ตัวทั้งนั้นน่ะสิ ท้อใจ! 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ไม่เป็นไรค่ะ หากใครกำลังตกอยู่ท่ามกลางสมรภูมิการหยามเหยียด จงเอาชนะคนเหล่านั้นด้วย 6 วิธีที่ 'ห้องแนะแนว' คัดมาแล้วว่าทำแล้วได้ผล เวิร์คจริงอะไรจริงค่ะ

1. ไม่สนใจ 

เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่เราโดนพูดดูถูก เหยียดหยาม หรือถูกรังแกทางวาจา แน่นอนว่าต้องเกิดความรู้สึกไม่พึงพอใจ จนอยากจะโต้ตอบกลับไปซะเดี๋ยวนั้น แต่คนที่เรียกร้องความสนใจ หากเรายิ่งให้ความใส่ใจ เขาจะยิ่งได้ใจมากขึ้นไปอีกนะคะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ เพิกเฉย! สูดหายใจลึก ๆ ใจเย็น ไม่ต้องเก็บคำพูดเหล่านั้นมาใส่ใจ ที่สำคัญคือไม่ต้องสนใจคนเหล่านั้น หรือแสดงออกโต้ตอบให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แค่ปล่อยให้เสียงผ่านหูเราไปนิ่ง ๆ รับรองว่านานวันเข้า เขาก็จะทดท้อและหยุดไปเองค่ะ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

2. เอาความเคารพเข้าสู้

การตอบโต้ที่ดีที่สุดต่อคนที่มีนิสัยชอบเหยียดคือการแสดงออกถึงความเคารพเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่จำเป็นต้อง ‘เหยียดมาเหยียดกลับ’ เพราะหากเราทำแบบนั้นก็แปลว่าเราเองที่สนับสนุนวิถีการเหยียดหยามแบบนี้ให้คงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ เสียเอง พอจะเห็นภาพไหมคะ เคารพและให้เกียรติทุกคน แม้ทุกคนจะไม่ได้เคารพเราก็ตาม 

3. หลีกเลี่ยงสถานการณ์ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

บนโลกโซเชียลมีเดียเป็นอะไรที่ปิดหูปิดตาง่ายมาก หากเคยเจอเพื่อนหรือคนรู้จักในเฟซบุ๊ก หรือสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ เขียนข้อความในเชิงบูลลี่ (Cyberbully) อ่านแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ก็แค่เลิกติดตามกันไป จะอันฟอลโลว์ หรือเลิกเป็นเพื่อนก็อยู่ที่เราจะเลือก ไม่มีประโยชน์ที่จะทนทุกข์ใจจากน้ำมือของคนอื่นที่ไม่มีความรับผิดชอบ ส่วนในชีวิตจริง หากทำได้ก็พยายามเลี่ยงการเผชิญหน้ากันและกันจะดีที่สุดค่ะ หรือหากสุดวิสัยจริง ๆ หนีไม่ได้ที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กันก็ต้องโฟกัสในหน้าที่หรือเรื่องที่อยู่ตรงหน้า โดยไม่จำเป็นต้องสนใจอากัปกิริยานอกเกมของคนเหล่านั้น ยุ่งกันเท่าที่จำเป็นก็พอแล้ว

4. มั่นใจเข้าไว้ อย่าไขว้เขว 

อย่างแรกต้องเพิ่มความเข้มแข็งให้จิตใจตนเองก่อน เพราะทุกคนมีดีในตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แค่รักตัวเองให้มาก ๆ ค่ะ เรื่องอารมณ์หลังจากถูกพูดจากลั่นแกล้งแล้วเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกไม่ดี แต่ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองเป็นหลัก ไม่ว่ายังไง จิตใจต้องมาก่อน

อีกด้านหนึ่งที่ควรปรับไปพร้อมกันคือทางกาย ต้องยอมรับว่าบุคลิกของเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีแนวโน้มจะทำให้เกิดการกลั่นแกล้งจากคนอื่นได้เช่นกันค่ะ หากใครที่ดูเป็นคนเหนียมอาย ถ่อมตัว(มาก) หรือเป็นคนประเภทอารมณ์เป็นใหญ่ ชอบคิดเล็กคิดน้อย ก็อาจจะเป็นจุดที่ทำให้ถูกบูลลี่จากคนอื่นอยู่เสมอ ลองค่อย ๆ ปรับพฤติกรรม ปรับนิสัยให้ดูเป็นคนน่าเกรงขามขึ้นมาสักหน่อย ก็พอช่วยได้นะคะ ถึงเวลาทิ้งบทบาทผู้ถูกข่มเหงแล้วค่ะ

5. หาผู้ช่วยบ้างก็ดี

รับมือคนเดียวอาจจะเหนื่อยใจในบางเวลา ลองมองหาผู้ที่สามารถซัพพอร์ตเราได้ดูค่ะ อย่างเช่น หากเกิดในสถานที่ทำงาน ควรหาลู่ทางแจ้งผู้บังคับบัญชาเพื่อให้เกิดการดำเนินการอะไรบางอย่าง หรือหากเป็นเด็กอาจจะต้องรายงานต่อคุณครูที่ปรึกษาเพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงสถานการณ์อื่น ๆ ก็ลองมองไปรอบตัวว่าสามารถระบายเรื่องราวให้ใครฟังได้บาง จะได้ช่วยกันหาทางออกได้ดีขึ้น ยังไงสองหัวก็ย่อมดีกว่าหัวเดียวจริงไหมคะ

6. ปรับโฟกัสใหม่

เลิกมองจุดดำบนผ้าขาวเสียบ้างก็ดีนะคะ บางครั้งที่เราเองไม่มีความสุขก็เพราะมัวแต่ใช้ใจไปกับเรื่องกับคนที่ไม่น่ารัก หากรู้เท่าทันตัวเองแล้วก็หันมามองคนดี ๆ เรื่องดี ๆ รอบตัวซะตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า การใช้ชีวิตในโลกใบนี้ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขอยู่ที่เราจะเลือกมองทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอย่าพยายามเก็บขยะมาไว้ในใจเลยค่ะ เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ เราก็หันมาเปลี่ยนตัวเอง สบายใจกว่านะคะ 

แม้ว่าสุดท้ายแล้วเราไม่สามารถกำจัดคนนิสัยไม่น่ารักจำพวกนั้นไปได้ แต่ห้องแนะแนวเชื่อว่า หากทุกคนมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจุดยืนที่มั่นคง ก็จะสามารถผ่านพ้นบรรยากาศไม่ดีเหล่านั้นไปได้ และแน่นอนว่าเราจะต้องแข็งแกร่งมากขึ้นทุกวัน เพราะบางทีการที่เราได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างที่เราควรได้รับ นั่นคือวิธีการเอาคืนที่ดีที่สุดแล้วก็ได้นะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขค่ะ

.

อ้างอิง

1

ความเห็น 54
  • ®>∆<~{P}~>∆<®
    แค่ลองดูตัวเองครับว่าเป็นอย่างที่เค้าว่าจริงมั้ย ถ้าไม่จริงก็ ไม่ต้องสนใจให้ค่า แต่ถ้าจริงก็ตัดสินใจเอาว่าจะปรับแก้หรือจะปล่อยให้เค้าด่าต่อไป ไม่มีใครสมบูรณ์แบบครับ
    28 ก.พ. 2563 เวลา 00.17 น.
  • ก่อนจะตำนิอะไรคนอื่นสำรวจตัวเองดียัง.
    27 ก.พ. 2563 เวลา 22.22 น.
  • Thanakon 10/2 (Fc)
    จริง ลองทำดู กลายเป็นว่ายิ่งเรานิ่ง เขายิ่งดูแย่ในสายตาคนอื่น
    28 ก.พ. 2563 เวลา 02.14 น.
  • Yong
    คนมีปากพูดดีเป็นศรีศักดิ์แต่ถ้าใช้คำพูดที่ทิ่มแทงผู้อื่นเป็นอาวุธทำร้ายจิตใจด้วยวาจาอยาบคายบ้างทำให้เขาดูต่ำต้อยอันนี้บ่งบอกถึงจิตใจที่ยังไม่ประเสริฐมาจากความคิดที่ต่ำตมขาดความกรุณาเมตตาในจิตใจแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงก็ต้องใช้ภาษาที่สุภาพอย่าใช้วาจาหยาบคายเหมือนพวกที่ชอบถุยออกมาส่วนคนที่ถูกดูถูกถ้าทำใจให้เหมือนแผ่นดินหนักแน่นไม่โกรธได้ก็เรียกว่าเป็นผู้มีปัญญาอันเลิศมีความฉลาดในธรรมเข้าใจเรื่องการปล่อยวางหรือการทำใจให้เป็นกลางเป็นอุเบกขาได้แล้วนั่นเอง
    28 ก.พ. 2563 เวลา 10.44 น.
  • ทำไรต้องไปรู้สึก กับคำของมานุษย์ครับ แค่เข้าใจว่านี้ละมานุษย์ละ
    27 ก.พ. 2563 เวลา 23.45 น.
ดูทั้งหมด