ไลฟ์สไตล์

เจ้านายไม่ฟังใคร - วินทร์ เลียววาริณ

THINK TODAY
เผยแพร่ 07 ม.ค. 2562 เวลา 03.01 น. • วินทร์ เลียววาริณ

ในตำนาน สามก๊ก ปลายปี พ.ศ. 794 สุมาอี้วัยเจ็ดสิบสามเสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่อสิ้นบุญสุมาอี้ พระเจ้าโจฮองแต่งตั้งสุมาสูเป็นเสนาบดีผู้ใหญ่ ให้สุมาเจียวเป็นแม่ทัพใหญ่คุมกองทัพวุยก๊ก

ต่อมาเมื่อสิ้นสุมาสู ฮ่องเต้ก็แต่งตั้งสุมาเจียวเป็นมหาอุปราช

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แม่ทัพเกียงอุยแห่งจ๊กก๊กเมื่อรู้ข่าวสุมาสูตาย ก็เข้าเฝ้าพระเจ้าเล่าเสี้ยน ขอพระบรมราชานุญาตไปตีวุยก๊ก

ฝ่ายกองทัพไม่เห็นด้วย เพราะเกียงอุยเคยยกทัพไปตีวุยก๊ก ไม่สำเร็จมาแล้วสองครั้ง ขุนพลเตียวเอ๊กออกความเห็นว่า มันเป็นสงครามที่ไม่ก่อประโยชน์อันใด เสียทั้งทรัพยากรและชีวิตชาวเสฉวน

เกียงอุยไม่สนใจความเห็นนั้น ให้เหตุผลว่า จ๊กก๊กต้องมองการณ์ไกล ถ้าต้องการอยู่รอดในระยะยาว ขงเบ้งต้องมีเหตุผล จึงยกไปตีหลายหน ก่อนตายได้สั่งเสียให้ทำการนี้ต่อไป พวกเขาควรสานต่อปณิธานของขงเบ้ง แล้วนำทัพหกสิบหมื่นไปทำสงคราม ถึงเมืองยงจิ๋ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สองทัพรบพุ่งกัน ฝ่ายเกียงอุยชนะ บดขยี้ทัพวุยก๊กแตกยับเยินหนีไปยังเมืองเต๊กโตเสีย เกียงอุยยกทัพตามไปประชิดเมือง พยายามตีหลายหน ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมีแม่ทัพเตงงายผู้มีกลศึกสูง ในที่สุดเกียงอุยก็จำต้องยกทัพกลับไปตั้งหลักใหม่ แล้วยกไปตีวุยก๊กอีกครั้ง

นายทหารชื่อฮวนเกี้ยนแย้งเกียงอุยว่า ยากจะเอาชัย เพราะข้าศึกเข้มแข็งและอ่านกลศึกเราออก แต่เกียงอุยยืนยันว่าทหารจ๊กก๊กมีมากกว่า ฝึกมาดีกว่า เสบียงพร้อมกว่า ฯลฯ

นายทหารอีกคนคือแฮหัวป๋าซึ่งแปรพักตร์มาจากวุยก๊กบอกว่าแม่ทัพเตงงายมีสติปัญญาสูง เกียงอุยบอกว่า ไม่กลัวเตงงาย เขาจะบดขยี้ข้าศึกให้ราบ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แม้มีหลายเสียงคัดค้านให้ทบทวนแผนการรบ เกียงอุยก็ไม่ฟัง ยกทัพไปตีวุยก๊กอีก แต่เตงงายวางหมากค่ายกลศึกรัดกุม ป้องกันไว้ดีเยี่ยม ไม่มีหนทางเข้าตี

เกียงอุยยกทัพเข้าตีหลายหน ก็ไม่สำเร็จ มิหนำซ้ำยังถูกทัพเตงงายบดขยี้ แทบจะเสียชีวิตในสนามรบ โชคดีที่มีทหารแหกวงล้อมไปช่วยเขาออกมาได้

เกียงอุยแตกทัพกลับบ้าน พ่ายแพ้หมดรูป ขอให้ฮ่องเต้ทรงลงโทษ สำนึกได้ว่าตนเองไม่ได้ฟังเสียงคนอื่นเลย เพราะเชื่อมั่นในตนเองสูงเกินไป ต้องการบรรลุเป้าหมายที่ตนตั้งใจให้ได้

เกียงอุยแตกต่างจากผู้นำบางคนในยุคสามก๊ก เช่น ซุนกวนและพระเจ้าสุมาเอี๋ยนแห่งไต้จิ้นที่ทำงานเป็นทีม ซุนกวนใช้ทีมที่ปรึกษา มีสภาขุนนาง พระเจ้าสุมาเอี๋ยนแห่งไต้จิ้นก็ทรงปรึกษาราชการสำคัญเสมอ

เกียงอุยเป็นคนฉลาด มีสติปัญญา และกล้าหาญ แต่ความฉลาดก็ทำให้ทระนงตน เชื่อมั่นในตัวเองสูงจนเสียการ พลาดเพราะไม่ฟังเสียงใคร

…………..

ในโลกการเมืองและธุรกิจ มีผู้นำประเภทไม่ฟังใครเสมอ เมื่อกำหนดจุดหมายแล้ว ก็จะไปให้ถึงจนได้แม้สถานการณ์ไม่เหมาะสม ผู้นำเหล่านี้อาจเก่ง มีประสบการณ์สูง แต่คนเก่งและมีประสบการณ์สูงก็ผิดพลาดได้และผิดพลาดเสมอ

อันตรายของผู้นำที่มีอีโก้สูงเท่าตึกร้อยชั้นคือมีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินความสามารถ คิดว่าตนเองถูกเสมอ

การปกครองแบบ “ฉันจะเอาแบบนี้แหละ” มักโยงกับวิธีคิดวิธีทำงานเหล่านี้

- ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าตัวเองผิด

- ไร้วิสัยทัศน์ มองไม่เห็นภาพไกลๆ

- ไม่สามารถสื่อสารได้ทั้งคนในและนอกองค์กร

- ปกครองตามกรอบคิดที่เคยชิน มองโลกด้วยสายตาแบบเดิม กรอบคิดเดิม

- ไม่ฟังความเห็นครบด้าน

- ไม่รับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์

- ไม่ยอมออกจาก Comfort Zone

- ไม่เอาใจคนอื่นมาใส่ใจตน

- เมื่อเกิดปัญหา แก้ปัญหาโดยมองหาคนทำผิด

- ไม่เสมอต้นเสมอปลาย

- ไม่รู้ว่าองค์กรกำลังอยู่ตรงจุดไหนในแผนที่โลกและยุคสมัยใด และปรับตัวช้าเกินไป

- ให้ราคาประสบการณ์มากกว่าศักยภาพของคน ทำให้พลาดโอกาสได้ลูกน้องที่ดี แต่ยังไม่เก่ง

- เห็นแต่ไอเดียตัวเองว่าดี

- ไม่ให้เครดิตลูกน้อง

- ไม่ทำงานหนักเท่าหรือหนักกว่าลูกน้อง

- ไม่พัฒนาลูกน้อง

…………..

ในปี พ.ศ. 2561 บ้านเราเกิดเหตุการณ์ทีมนักฟุตบอลเยาวชน ‘13 หมูป่า’ ติดในถ้ำลึกของขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย

การกู้ภัยช่วยชีวิตคนต้องทำแข่งกับเวลา เนื่องจากผู้ติดอยู่ภายในขาดอาหาร และระดับออกซิเจนกำลังลดลง ทว่าการเดินทางฝ่าถ้ำมืดมิด คับแคบ น้ำลึกที่ขุ่น เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงระดับ ‘เป็นไปไม่ได้’

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายทำหน้าที่เป็นผู้นำทีมการกู้ภัย ต้องคุมคนนับหมื่นคน ทั้งคนไทยและต่างชาติ ผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน ทหาร ตำรวจ หน่วยราชการต่างๆ นักดำน้ำชาติต่างๆ

เป็นงานใหญ่ประหนึ่งยกทัพบุกวุยก๊ก เพราะการทำงานมีทั้งวางแผน กำหนดยุทธศาสตร์ จัดกำลังทัพ บทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่าย และประเมินสถานการณ์รับนาทีต่อนาที ไม่ต่างจากการทำสงคราม แต่เป็นสงครามกับความไม่แน่นอนของธรรมชาติ

13 หมูป่าออกมาจากถ้ำสำเร็จ พิสูจน์ว่าภารกิจยากเย็นแสนเข็ญก็สำเร็จได้ หากแม่ทัพนำทัพถูกทาง

งานบางงานไม่อาจแก้ด้วย “ฉันจะเอาแบบนี้แหละ” ไม่ว่าจะยกทัพใหญ่เพียงไร

…………..

วินทร์ เลียววาริณ

winbookclub.com

เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/

มกราคม 2562

ความเห็น 13
  • Gxxlin
    นี่กำลังเผชิญอยู่เลย นายไม่มีความรู้ด้านบริหารเลย บริหารงานตามความรู้สึกใครทักอะไรก็ไม่ฟัง
    07 ม.ค. 2562 เวลา 14.37 น.
  • Prajak
    โดนใจเต็มๆ สมัยนี้ผู้นำแบบนี้มีเยอะซะด้วย
    07 ม.ค. 2562 เวลา 13.15 น.
  • Yongyuth
    แล้วจะทำไรเขาได้ล่ะ...ลาออกจากบริษัทนี้ไปอบู่บริษัทใหม่. ย้ายออกจากประเทศนี้ไปอยู่ประเทศใหม่ ???
    07 ม.ค. 2562 เวลา 14.22 น.
  • NZ Peter
    ขอบคุณบทความที่ดี แต่ไม่กล้า forward ให้หัวหน้า เพราะวัฒนธรรมไทยที่ถูกหล่อหลอมมานาน เอวัง
    07 ม.ค. 2562 เวลา 12.17 น.
  • @...
    ผมคิดว่าในเรื่องนี้สามารถทำให้เรารู้ได้ว่าไม่ว่าจะทำการสิ่งใดๆก็ตามเราก็ควรจะต้องมีแผนงานรวมทั้งต้องเปิดใจรับฟังถึงเหตุผลในหลายๆด้านเพื่อที่จะได้นำมาวิเคาะห์ให้ได้ถึงบทสรุปที่ชัดเจนในความสำเร็จให้ได้มากที่่สุดก่อนที่จะลงมือทำครับ.
    07 ม.ค. 2562 เวลา 11.43 น.
ดูทั้งหมด