เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.8112/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวง 2 (รัชดา) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายภูวดล ศรีสำโรง อายุ 24 ปีเศษ อาชีพรับ-ส่งเอกสาร (แมสเซ็นเจอร์) ที่ขี่จยย. ชนเด็กนักเรียนหญิง บนทางเท้าได้รับบาดเจ็บ เป็นจำเลย ในความผิดฐานผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายและจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 , ขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน , ขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุสมควร , ขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 32 , 43 (4)(7)(8) , 157 , 160 รวม 4 ข้อหา
กรณีเมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 เวลากลางวัน จำเลยได้ขี่รถ จยย. ทะเบียน 6 กฎ 6283 กทม.จาก ถนนพหลโยธินไปตาม ถนนลาดพร้าว มุ่งหน้าไปทาง ซ.ลาดพร้าว 112 ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังที่ต้องมีตามวิสัย เมื่อถึงบริเวณป้ายรถประจำทางใกล้ปาก ซ.ลาดพร้าว 69 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง โดยถนนเส้นนั้นเป็นทางเดินรถที่จัดแบ่งช่องเดินรถไว้ 2 ช่อง และมีทางเท้าอยู่ด้วย แต่จำเลยกลับขี่รถขึ้นบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุสมควรด้วยความเร็วโดยไม่ให้สัญญาณเตือนคนเดินเท้าให้รู้ตัว อันเป็นการขี่รถโดยประมาทน่าหวาดเสียวที่อาจเกิดอันตรายต่อบุคคลและทรัพย์สิน และไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ซึ่งขณะนั้นเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนบดินทรเดชา 3 ผู้เสียหาย เดินอยู่บนทางเท้าถูกเฉี่ยวชนอย่างแรงจนล้มลง ได้รับบาดเจ็บมีอาการปวดที่สะโพก และแผลถลอกที่บริเวณขาทั้ง2ข้าง ต่อมาวันที่ 27 พ.ย.61 เวลา 18.00 น. พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้จำเลยทราบ และยึดรถ จยย. คันเกิดเหตุ ไว้เป็นของกลางชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และภายหลังเกิดเหตุจำเลยกับผู้เสียหายได้ตกลงชดใช้ค่าเสียหายแล้ว ซึ่งอัยการยังระบุด้วยว่า การขี่รถ จยย. ของจำเลยเป็นการรบกวนความสงบสุข ความปลอดภัยของคนเดินเท้า และการกระทำผิดดังกล่าวเป็นภัยอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดและเพื่อคุ้มครองสังคมและสุจริตชน ขอให้ศาลลงโทษจำเลยสถานหนักด้วยศาลประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.61 "จำเลย" ให้การรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี ศาลจึงมีคำสั่งให้ พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติ-ภูมิหลังอายุ อาชีพของจำเลย สภาพความผิดพฤติการณ์แห่งคดี และเหตุอันควรปรานี กรณีการเยียวยาผู้เสียหาย สรุปเป็นรายงานส่งให้ศาลพิจารณาประกอบคำพิพากษา
โดยวันนี้ นายภูวดล จำเลยที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวไปโดยไม่มีหลักประกัน เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัดของศาล ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว จึงพิพากษาว่า "จำเลย" มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 , พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 43 (4)(7)(8) , 157 , 160 วรรคสาม การกระทำของจำเลย เป็นความผิดกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 160 วรรคสาม ซึ่งเป็นบทลงโทษหนักสุด จำคุก 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลย 1 เดือน ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังเป็นเวลา 1 เดือน (กักขังในสถานที่กักขัง ซึ่งไม่ใช่เรือนจำ)ส่วนรถ จยย.ของกลางนั้น ถือเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง ศาลจึงมีคำสั่งให้ริบไว้ด้วยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 (1) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลมีคำพิพากษาแล้วนายภูวดล จำเลย ก็ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้นายภูวดล จำเลย ประกันตัวไประหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 18,000 บาท
JOB Krub ไม่เข็ดหรอก
23 ม.ค. 2562 เวลา 08.46 น.
Archangel Que ยึดรถ ศาลมีคำสั่งแล้วต่อไปตำรวตเจอ ยึดรถได้เบย
23 ม.ค. 2562 เวลา 08.05 น.
TUE MAFIA น้อยไปไม่มีใครกลัวหรอก แม่งแทนที่มันจะหลบคน คนต้องหลบ โดนบีบแตรใส่อีก สรุปทางเดินหรือทางรถ ไม่หลบมันมันจะต่อยอีก
23 ม.ค. 2562 เวลา 08.02 น.
ชาญชัย จำไว้นะพวกมักง่าย ชึ้นศาลสารภาพผิด เจรจาชดใช้ให้เรียบร้อย เอาไว้ไม่จ่ายก็ไม่มีใครทำอะไรได้ ไปฟ้องเอาใหม่อีกห้าปี ขอโทษทำหน้าเศร้าเข้าไว้ อุธรณ์ ฎีกาให้ครบกว่าจะจบสิบปี แล้วจะได้รับโทษจากผลกรรมเบาหวิววววววว...จบ
23 ม.ค. 2562 เวลา 08.01 น.
กระทำความผิดหลายกระทงแต่สรุปเจอโทษนิดเดี่ยวเองเนอะท่านผู้พิพากษา?? เสียดายเวลาที่ท่านออกมานั่งบังลังก์ อยากให้ได้รับโทษหนักกว่านี้เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ผู้อื่น?? ที่ขับขี่ประมาท น่าจะยึดใบขับขี่ห้ามจักรยานยนต์ไปตลอดชีพเลยยยยย.., และติดคุกสองเดือนจริงๆเต็มไปจะได้เข็ด.....,,
23 ม.ค. 2562 เวลา 07.56 น.
ดูทั้งหมด