ไลฟ์สไตล์

“เพื่อนรักเพื่อน” ความสัมพันธ์ต้องห้าม! ถ้าไม่อยาก “สิ้นสุดคำว่าเพื่อน”

Another View
เผยแพร่ 16 ก.พ. 2562 เวลา 01.00 น.

“เพื่อนรักเพื่อน” ความสัมพันธ์ต้องห้าม! ถ้าไม่อยาก “สิ้นสุดคำว่าเพื่อน”

“ผู้ชายไม่เป็นเพื่อนกับผู้หญิง หรือต่อให้เป็นเพื่อนกัน ก็ต้องตกหลุมรักกันสักวันนั่นแหละ” 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นั่นคือความเชื่ออย่างหนึ่งของคนไทยหลาย ๆ คน รวมทั้งประเทศที่มีวัฒนธรรมความคิดแบบแบ่งแยกเพศชัดเจน (ชายเป็นชายหญิงเป็นหญิง) เราเชื่อกันว่าเพศชายกับเพศหญิงตามธรรมชาติแล้วไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้ เพราะเราเชื่อว่าตามธรรมชาติแล้วเพศทั้งสองเพศนั้นจะดึงดูดกันเองในที่สุด…ดังนั้น คนสมัยก่อนจึงเชื่อกันว่า เราไม่ควรมีเพื่อนสนิทเป็นคนต่างเพศ 

อย่างไรก็ตาม ในยุคปัจจุบัน เราจะพบได้ว่าสังคมที่มีสภาพแวดล้อมแบบ “เพศล้วน” นั้นเริ่มจะลดลงทุกที ไม่ว่าจะเป็นตามโรงเรียนต่าง ๆ ที่เปลี่ยนจากโรงเรียนหญิงล้วนชายล้วนมาเป็นโรงเรียนแบบสหศึกษาที่รับนักเรียนทั้งสองเพศ สภาพแวดล้อมก็เปิดให้คนทั้งสองเพศรู้จักกันมากขึ้น และกลายเป็นเพื่อนกัน และนำมาซึ่งคำถามว่า ตกลง เราสามารถมีเพื่อนเป็นคนต่างเพศได้หรือไม่…

เพราะในหลาย ๆ ครั้ง เมื่อไปรักใครแล้วเขาก็ชอบบอกให้ เป็นเพื่อนกันจึงเกิดคำว่า Friendzone หรือแปลตรงตัวว่า“โซนของเพื่อน” ที่ไม่สามารถก้าวล้ำเข้าไปได้ ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหน สุดท้ายเขาก็บอกว่าให้เป็นเพื่อนกัน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น และความสัมพันธ์ประเภทนี้ดีหรือไม่ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ก่อนอื่น เราต้องทำความเข้าใจ “ความรู้สึก” และ “ความสัมพันธ์” ในแบบต่าง ๆ เสียก่อน 

ความสัมพันธ์แบบเพื่อนรัก (Platonic Relationship) 

ความสัมพันธ์ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “ความสัมพันธ์ฉันท์มิตร” หรือ “ไร้เสน่หา” ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Platonic Relationship นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกความสัมพันธ์ประเภทที่ไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ลูก ความสัมพันธ์ฉันญาติมิตร หรือเพื่อนสนิท…ซึ่งในที่นี้ เพื่อนสนิทอาจเป็นหญิงหรือชายก็ได้ ต่อให้จะเป็นเพศตรงข้ามกัน แต่หากมีความรู้สึกต่อกันในระดับ Platonic (ไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง) ก็แปลว่าคุณไม่มีความรู้สึกเสน่หาใดใดต่อบุคคลผู้นั้นเลยนั่นเอง คุณจะไม่มีความรู้สึกเขินอาย ใจเต้นแรง หึงหวง แต่กลับรู้สึก “สบายใจ” ที่จะอยู่ข้าง ๆ โดยไม่มีอาการตื่นเต้นใดแม้ว่าจะใกล้ชิดกันสักเพียงไหน และ ณ จุดนี้เองที่คุณพบว่านี่คือความสัมพันธ์แบบ “เพื่อนรัก” อย่างแท้จริง 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ความสัมพันธ์แบบรักเพื่อน (Non-platonic Relationship) 

หัวใจเต้นแรง…หน้าแดงทุกที… ความรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกว่าใครสักคนน่าดึงดูด (Attractive) หัวใจของคุณจะเต้นแรง คุณจะมองหาเขา คิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา หรือกระทั่งฝันถึงวันที่จะได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน…นั่นเองที่คุณจะรู้ตัวว่าคุณได้เข้าสู่ความสัมพันธ์ประเภท “Non-platonic Relationship” ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระดับ “เสน่หา” หรือความสัมพันธ์เชิงชู้สาว คุณจะรู้สึกดึงดูดทางเพศกับบุคคลผู้นั้นและรู้สึกหึงหวง คุณอาจรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเขาให้ความสำคัญกับคนอื่น นั่นเองคือความรู้สึกที่เราเรียกกันว่า“ความรัก” ซึ่งเป็นความรู้สึกเสน่หาที่หมิ่นเหม่และนำมาซึ่งความเจ็บปวดได้ หากไม่ระวังตัวระวังใจเอาไว้ดี ๆ 

FRIENDZONE เกิดขึ้นเมื่อคนสองคนรู้สึกไม่เท่ากัน 

เมื่อคนสองคนเป็นเพื่อนกัน หากทั้งคู่มีความรู้สึกในระดับเดียวกัน ซึ่งก็คือในระดับ “ไร้เสน่หา” ก็คงไม่มีปัญหาใด ๆ เพราะคนทั้งคู่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือหึงหวงกันและกันเมื่ออีกฝ่ายให้ความสำคัญกับใครมากกว่า…แต่เมื่อ “ความรู้สึก” เกิด “ไม่สมดุล” กัน ก็ย่อมจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเจ็บปวด…ความสัมพันธ์ประเภท “FRIENDZONE” จึงเกิดขึ้น 

อาการรักและไม่กล้าบอกรักไป ด้วยความรู้สึกที่ว่า “ไม่อยากเสียเพื่อน” นั้นเป็นหนึ่งในความรู้สึกสากลที่หลาย ๆ คนคงเคยรู้สึกกันบ้างในช่วงของชีวิต…สำหรับบางคนนั้น การได้เป็นแค่เพื่อนก็ดีมากมายแล้ว เพราะสุดท้ายก็ไม่ต้องเลิกกัน แม้ว่าจะต้องทนเห็นเขาไปกับคนอื่นก็ตาม…คนบางคนก็อาจมีความสุขอยู่ใน FRIENDZONE แบบนั้น

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความสัมพันธ์แบบ FRIENDZONE นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดในการเลือกที่จะมีความสัมพันธ์ เพราะฉะนั้น หากคุณเริ่มมีความรู้สึก “เกินเพื่อน” กับใคร ก็จงตัดสินใจให้ดีว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับความรู้สึกเช่นนั้น…บางคนก็ตัดสินใจบอกออกไปเพื่อทำลาย FRIENDZONE นั้นแล้วก็กลายเป็นจบความสัมพันธ์แบบเพื่อน…ไม่ว่าจะเป็นในแง่ดี ก็คือได้คบกัน สุขสมหวัง หรือเป็นแง่ร้ายก็คือเลิกเป็นเพื่อนกันไปเลยเพราะใจไม่ตรงกัน 

แต่อย่างน้อย การได้ลองเสี่ยงดูก็น่าจะดีกว่าการเก็บความรู้สึกเอาไว้โดยปล่อยให้มันทรมานจิตใจ…แล้วมานั่งเสียดายภายหลัง ไม่ใช่หรือ? 

อย่าเสียใจถ้าต้องอยู่ใน FRIENDZONE  

คุณอาจพบว่าไม่ว่าคุณจะพยายามสักแค่ไหนก็ไม่สามารถรักใครบางคนได้ ต่อให้เขาจะเป็นเพศตรงข้ามก็ตาม ไม่ว่าอย่างไร คุณก็มองเขา “เป็นได้แค่เพื่อน” และกระทั่งตัวคุณเองก็อาจพบว่าไม่ว่าคุณจะพยายามสักแค่ไหน “ใครคนนั้น” ของคุณก็กลับไม่รักคุณสักที…

อย่าเสียใจไป ถ้าคุณถูก FRIENDZONE ก็ให้คิดเสียว่า “เคมีไม่ตรงกัน” สุดท้าย สักวันหนึ่งก็คงจะมีใครสักคน ที่เคมีตรงกับคุณ…และเมื่อพบเจอเขาคนนั้นที่ทำให้คุณหลุดพ้นจาก FRIENDZONE แล้ว ก็อย่าลืมเก็บรักษาเขาเอาไว้ให้ดีล่ะ! 

ความเห็น 6
  • เพื่อนรักเพื่อนได้แต่ฟันเพื่อนแล้วทิ้งมันจะเสียเพื่อนอย่าเอาความเหงามาทำลายความเป็นเพื่อน
    18 ก.พ. 2562 เวลา 01.27 น.
  • ohtipwimol
    รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง ดีกว่าเสียดายนะคะ
    17 ก.พ. 2562 เวลา 13.52 น.
  • ไม่จริงเสมอไปครับ เพื่อนที่กลายเป็น สามี-ภริยากัน ก็หลายคู่ ครับ
    17 ก.พ. 2562 เวลา 07.26 น.
  • 😢
    25 ก.พ. 2562 เวลา 03.20 น.
  • Arm
    เคย comment เรื่องแบบนี้ไว้ในหลายที่แล้วว่า ทำไมต้องเอาคำว่า "เสน่หา" มาเป็นเส้นแบ่งระหว่างคำว่า "เพื่อน" กับ "แฟน" ทั้งที่แค่คำว่าเสน่หาเพียงคำเดียว อาจจะไม่ให้คุณค่าอะไรเท่ากับความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้แต่ในภาษาอังกฤษ คำว่าแฟนก็ยังมีคำว่าเพื่อนรวมอยู่ด้วย รุ่นพี่โรงเรียนมัธยมของผมตั้งแต่รุ่นแรกเป็นต้นมา หลายคู่ก็พัฒนาความสัมพันธ์จากเพื่อนร่วมชีวิต จนเป็นแบบอย่างให้ผมเจริญรอยตาม และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทลายกำแพง friend zone ให้ได้เช่นกันครับ
    16 ก.พ. 2562 เวลา 01.55 น.
ดูทั้งหมด