สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในสหรัฐอเมริกา วันที่ 6 เม.ย. ว่า สหรัฐเข้าสู่สัปดาห์ที่คาดหมายว่าจะหนักหนาสาหัสที่สุด หลังจากมียอดผู้เสียชีวิตเกิน 9,500 รายแล้ว พร้อมกับจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเกิน 3.3 แสนราย แต่มีผู้ว่าการมลรัฐไม่กี่รัฐที่อดทนใช้มาตรการสั่งให้ประชาชนเก็บตัวอยู่ในบ้าน อีกทั้งยังมีโบสถ์หลายแห่งประกอบพิธีปาล์ม ซันเดย์ ของชาวคริสต์
จำนวนยอดผู้เสียชีวิตที่รัฐนิวยอร์ก ศูนยกลางการระบาดของสหรัฐ ลดลงเล็กน้อย แต่ยังมีจำนวนสูงเกือบ 600 รายภายในวันเดียว ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อภายในวันเดียวเพิ่มถึง 7,300 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อของรัฐนิวยอร์กเพิ่มเป็น 122,000 ราย และเสียชีวิตแล้ว 1,459 ราย ขณะที่รัฐเพนซิลเวเนีย รัฐโคโลราโด และวอชิงตัน ดี.ซี. เริ่มมีภาพที่น่าสลดใจและบ่งบอกว่า สัปดาห์มรณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงว่าจะเป็นสัปดาห์ที่หนักที่สุดมาถึงแล้ว คือมีศพจำนวนมาก ที่เจ้าหน้าที่เร่งบรรจุในถุงสีแสด และใส่ไว้ในห้องเก็บศพของศูนย์วีกคอฟฟ์ เต็มแน่นห้อง
นายแอนดรูว์ คูโมโอ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า ไวรัสโคโรนาร้ายกาจและมีประสิทธิภาพเท่าที่ไวรัสมี เป็นเพชฌฆาตที่ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่ง การตรวจเชื้ออย่างรวดเร็วจะช่วยให้ประเทศกลับคืนสู่ภาวะปกติได้
T. Noppawan คหสต. แค่สงสัย สหรัฐอเมริกา มีมหาวิทยาลัย ศูนย์การแพทย์ ศูนย์การวิจัยเชื้อโรค ชั้นนำอันดับหนึ่งของโลก แต่รับมือกับโควิทได้ไม่ดีเท่าที่ควร เป็นเพราะอะไร ประมาทเกินไปหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม ถึงจะคนละผิวพรรณ ก็ไม่อยากเห็นใครตายเป็นเบือแบบนี้ ขอให้ทุกชีวิตบนโลกนี้ปลอดภัยจาก โควิด 19
06 เม.ย. 2563 เวลา 23.32 น.
ดูทั้งหมด