2ผัวเมียกางมุ้งนอนเฝ้าไร่มันฯ ช้างป่า 3 ตัวเดินผ่าน สามีตกใจวิ่งหนี ถูกงาแทงไส้ตับทะลัก เมียใช้มุ้งพันตัว ทำทีนอนตาย รอดหวุดหวิด

บุรีรัมย์สุดสลดสองผัวเมียกางมุ้งนอนรอฉีดยาไร่มันสำปะหลัง ตกกลางดึกช้างป่า 3 ตัวเดินผ่าน สามีตกใจวิ่งหนีสะดุดล้มถูกช้างใช้งาแทงใต้ราวนมด้านขวาทะลุไปถึงด้านหลัง ลำไส้ตับไหลทะลักออกมาด้านนอก ส่วนภรรยาใช้มุ้งพันตัวทำทีนอนนิ่งก่อนคลานหลบใต้ท้องรถสิบล้อรอดตายหวุดหวิด

วันนี้(20 มิ.ย.62) ร.ต.อ.ชลิต สุดาจันทร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต ที่บริเวณไร่มันสำปะหลังด้านทิศใต้บ้านคลองหิน ม.4 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลโนนดินแดง และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมประจำจุดโนนดินแดง ร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างนายสุรศักดิ์ พิจารณาครบุรี อายุ 26 ปี ชาวบ้าน ต.หนองบัว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นดินกลางไร่มันสำปะหลัง ในสภาพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงวอร์มขายาว สีดำตัวเดียว จากการตรวจสภาพศพเบื้องต้นพบบาดแผลถูกช้างป่าใช้งาแทง บริเวณใต้ราวนมด้านขวา ทะลุไปถึงด้านหลัง ลำไส้ตับไหลทะลักออกมาด้านนอกเป็นที่น่าสยดสยอง แต่ไม่พบบาดแผลที่บริเวณอื่น ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ ยังพบรอยเท้าขนาดใหญ่เดินย่ำกระจายรอบพื้นที่ด้วย

จากการสอบสวน น.ส.สุรีรัตน์ ทบวงศรี อายุ 27 ปี ภรรยา ของผู้ตาย เล่าว่า ตอนกลางวันของวันที่ 19 มิ.ย. ผู้ตาย พร้อมด้วยภรรยา พ่อของผู้ตายและคนงานประมาณ 10 คน ได้มาถอนมัน และปลูกมันอยู่บริเวณไร่มันจุดเกิดเหตุ พอตกค่ำผู้ตายได้บอกกับพ่อว่าตนกับภรรยาจะนอนที่ไร่มัน เพื่อจะรอฉีดยาต้นมันให้เสร็จก่อนจึงจะกลับบ้าน จากนั้นพ่อและคนงานจึงได้เดินทางกลับบ้านที่ อ.ปะคำ ก่อน เหลือเพียงผู้ตายกับภรรยาจึงได้กางมุ้งนอนข้างรถสิบล้อ กระทั่งตกดึกได้มีช้างป่าดงใหญ่จำนวน 3 ตัว เดินผ่านมาและได้ลากเอามุ้งกางที่กางนอนออก สามีตก จึงลุกขึ้นเพื่อวิ่งหนีแต่เกิดสะดุดล้ม จึงถูกช้างป่าซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตัวที่มีงาเดียวที่เคยเหยียบคนตายก่อนหน้านี้ ใช้งาแทงบริเวณใต้ราวนมซ้ายของสามีจนเสียชีวิต

ส่วนภรรยาใช้มุ้งพันรอบตัวแล้วทำทีนอนนิ่งอยู่กับที่ แล้วค่อยๆคลานไปหลบใต้ท้องรถสิบล้ออยู่สักพักรอจนกว่าช้างจะเดินผ่านไป จึงทำให้รอดตายมาได้ พอตั้งสติได้จึงวิ่งออกไปดูสามีก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้โทรศัพท์บอกญาติและแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว