ทั่วไป

'ดร.สมเกียรติ'ลากไส้คณะราษฏรชังเจ้า-ระบอบทักษิณ พวกทำลายการศึกษาประเทศไทย

ไทยโพสต์
อัพเดต 25 มิ.ย. 2562 เวลา 04.06 น. • เผยแพร่ 25 มิ.ย. 2562 เวลา 04.06 น. • ไทยโพสต์

25 มิ.ย.62-ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ พวกทำลายการศึกษาประเทศไทย โดยระบุรายลดเอียดว่า

พระพุทธเจ้าหลวง ครองราชย์ 42 ปี ได้ส่งนักเรียนทุนคิง และทุนกระทรวงต่างๆ ไปศืกษาในต่างประเทศ 204 คน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สมัยรัชกาลที่6 ครองราชย์ 15 ปี ส่งนักเรียนทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ 306 คน

รวมสองรัชกาล มีนักเรียนทุน 510 คน

นักเรียนเหล่านี้ คือ ความหวังที่จะกลับมาพัฒนาสยามประเทศ ในโครงการจำนวนมากที่ ร 5 ทรงริเริ่มไว้เป็นประเทศแรกๆในเอเซีย จนญี่ปุ่นยังต้องมาดูงาน เช่น การไฟฟ้า รถไฟ อากาศยาน รถราง ไปรษณีย์ ป่าไม้ วิศวกรรม วิทยาศาสตร์ พาณิชย์นาวี การพาณิชย์ การศึกษา การเหมืองแร่ การผังเมือง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คนเก่งที่สุดของประเทศเหล่านี้ ถูกปลดจากราชการ ส่งไปขังไว้ที่เกาะตารุเตา นักพัฒนาจำนวนมากไปตายในต่างประเทศ หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475

ดิกชันนารี่ฉบับแรกของไทย เขียนจากในคุก โดย สอ เสถบุตร เขาถูกหาว่าเป็นสายเจ้า

ผมคุ้นเคยกับชื่อนักเรียนทุนเหล่านี้ที่ติดบอร์ดไว้ที่โรงเรียน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ยุคนั้น เป็นยุคสมัยการสร้างเมือง การสร้างชาติในยุโรป หากไม่ถูกจำคุก ปลดออก ไล่ออก ประเทศไทยน่าจะไปได้ระดับญี่ปุ่น ผมหวังว่า

เมื่อคณะราษฎร์ยึดอำนาจได้ ได้สั่งปิดการสอนมัธยมปลายในโรงเรียนรัฐบาล ในกรุงเทพ 25 แห่งและปิดการสอนมัธยมปลายใน โรงเรียนประจำมณฑล ประจำ จังหวัดทั่วประเทศ โรงเรียนเหล่านี้ ได้กลับมาเปิดสอนชั้นมัธยมปลายอีกครั้งในปี 2490 เหตุที่ปิด เขาหาว่าเป็นโรงเรียนเจ้าตั้ง

ดีที่ไม่ปิดเซนต์โยไปด้วย โรงเรียนเซนต์โยเซฟเปิดสอนในรัชกาลที่5 เช่นกัน

การศึกษาพังทลาย ระบบการเรียนที่มีครูฝรั่งมาสอน ใช้ระบบอังกฤษ มีครูฝรั่งเป็นอาจารย์ใหญ่ถูกทำลายลง นักเรียนยุคนั้นจบ ม ปลาย ภาษาใช้งานได้แล้ว

ครูฝรั่งถูกส่งกลับประเทศหมดสิ้น แต่การศึกษาระบบนี้ยังดำเนินต่อไปในสิงคโปร์ มลายา ลังกา อินเดีย ฟิลิปปินส์ ที่เอาครูฝรั่งมาตั้งถิ่นฐานกันมาก คนพื้นเมืองประเทศเหล่านั้นเดิมพูดอังกฤษไม่เป็นเหมือนกัน

ใช้เวลาร่วม 20ปี จึงเปิดโรงเรียนกันใหม่ ไล่ชาติอื่นไม่ทันแล้ว

โรงเรียนของไทยกลับคืนมาใหม่ มีโรงเรียนดีๆกระจายทั่วพระนคร และต่างจังหวัด ============== ราวปี 2503 เกิดการทำแผนพัฒนาประเทศฉบับแรก ผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลกมาช่วยวางแผนการศึกษา และวางแผนกำลังคน จัดเงินกู้ให้พัฒนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ม แพทย์ศาสตร์ ม เชียงใหม่ และขอนแก่น มีเงินร้อกกี้เฟลเลอร์มาช่วยธรรมศาสตร์ ทำให้มหาวิทยาลัยเข้มแข็ง

เน้นผลิตสาขาจำเป็น ไม่ล้น ไม่เกิน

เมื่อนักการเมืองมาคุม ในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีแผนใดๆ ขึ้นกับเงินใต้โต๊ะ ผลประโยชน์งานก่อสร้างมหาวิทยาลัย จึงผลิตกันล้น สาขาที่ควรผลิตไม่มี

การวางแผนโดยผู้เชี่ยวชาญที่ไม่มีผลประโยชน์ต่างจากนักการเมืองที่เอาผลประโยชน์นำมาก

เมื่อต่างประเทศออกไป นักการเมืองคุม ความเละเทะก็เกิดขึ้น

พศ 2535 มีคนประหลาดสองคนจากสองพรรค มาผลักดันให้จับสลากเข้าโรงเรียนทุกโรงเรียน ไม่มีประเทศใดในโลกเขาทำกัน อ้างเหตุว่าแก้รถติด และทำให้โรงเรียนเท่ากัน

เมื่อสองปีที่ผ่านมา ผมตามไปดูพบว่าทำวิจัยพื้นๆงี่เง่า ไม่มีข้อมูลอะไรไว้ชิ้นหนึ่ง ใช้เงินห้าล้าน ทำโดยอาจารย์ราชภัฏ เด็กนักการเมือง

จับสลากอยู่สองปี แต่นักเรียนเรียนอย่างน้อยสามปี อย่างมากหกปี ห้ามสอบตกอีก โรงเรียนไทยพังทั้งประเทศ

มีจับสลากครึ่งหนึ่ง สอบเข้าครึ่งหนึ่งหลายปี

พวกเขมร เวียดนามขำก้าก

โรงเรียนเพิ่งแกร่งเหมือนเดิมเมื่อสิบปีที่ผ่านมา แต่โรงเรียนจำนวนมาก ตายแล้วตายเลย

เราจึงเกิดวิกฤติการศึกษา ผู้ปกครองไม่มีโรงเรียนที่ดีเเพียงพอ แห่ส่งลูกเข้าอินเตอร์บ้าง ไปนอกบ้าง

เกิดเงินไหลออกครั้งมโหฬาร เศรษฐกิจจะฝืดมาก เมื่อชนชั้นกลางไม่ศรัทธาระบบการศืกษาประเทศ

สิบกว่าปีมานี้ นักการเมืองฝากลูกหลาน หัวคะแนนมาเป็นครู ข้าราชการ ที่จบจากมหาวิทยาลัยแข่งขันสูงมีเพียง 5% มีคอรัปชั่น 30% ทั้งแทบเลต สร้างอาคาร เลือกใช้แบบเรียน จนโรงเรียนจำนวนมากค้างค่าไฟ

รัฐมนตรีอยูในตำแหน่งคนละหกเดือนโดยเฉลี่ย

มีงบให้ซื้อเสื้อผ้า รองเท้าให้นักเรียนทุกคน บ้าป่าว ส่วนใหญ่ซื้อเองได้

เป็นกระทรวงหาเสียง หาตังค์

สัญญาแทบเลตเซ็นไปแล้ว รับคอมห้าสิบเปอร์เซนต์ไปแล้ว เสียหายมากมาย ไม่มีทำคอนเทนท์ให้เด็ก โรงงานปิดไปแล้ว แต่จะซื้ออืก

ต้นทุนผลิตพันเดียวเอง

เป็นกระทรวงที่ต้องวางแผนกำลังคน ดันผลิตครูเกินมาปีละห้าหกหมื่น

ต้องห้ามพวกสายตรงอย่างวิศวะ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิตศาสตร์ มาสอน เด็กก็ต้องไปกวดวิชาซีครับ

ลูกหลานถามว่าทำไมการศึกษา ไทยเป็นอย่างนี้ จึงเล่าให้ฟัง ----------------------------------

พระพุทธเจ้าหลวง ครองราชย์ 42 ปี ได้ส่งนักเรียนทุนคิง และทุนกระทรวงต่างๆ ไปศืกษาในต่างประเทศ 204 คน

สมัยรัชกาลที่6 ครองราชย์ 15 ปี ส่งนักเรียนทุนไปศืกษาต่อต่างประเทศ 306 คน

รวมสองรัชกาล มีนักเรียนทุน 510 คน

นักเรียนเหล่านี้ คือ ความหวังที่จะกลับมาพัฒนาสยามประเทศ ในโครงการที่ ร 5 ทรงริเริ่มไว้เป็นประเทศแรกๆในเอเซีย จนญี่ปุ่นยังต้องมาดูงาน เช่น การไฟฟ้า รถไฟ อากาศยาน รถราง ไปรษณีย์ ป่าไม้ วิศวกรรม วิทยาศาสตร์ พาณิชย์นาวี การพาณิชย์ การศืกษา การเหมืองแร่

คณะราษฏร์จับเข้าคุกสิ้น

เมื่อรัชกาลที่9 ขึ้นครองราชย์พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านในสิบกว่าปีแรกคือ ทรงให้กำลังใจนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ในงานของโรงเรียน งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน งานลูกเสือ ทั้งในกทม และต่างจังหวัด

ทรงทราบเรื่องราวความเป็นมาของโรงเรียนต่างๆดีมาก คือกำลังใจของการศึกษาไทย ให้ฟื้นกลับมา

เขียนแล้วเศร้า เสียเวลาไปเท่าใด อับอายประเทศแถวบ้านรอบบ้าน

ทำลายการศึกษาคือทำลายชาติ.

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 280
  • mayuree
    ปัญหาของประเทศไม่ใช่สถาบันพระมหากษัตริย์ แต่การคอร์รัปชั่นทุกภาคส่วนต่างหากที่เป็นปัญหา ทั้งนักการเมืองทั้งข้าราชการ คอร์รัปชั่นเต็มไปหมด ไม่มีใครคิดแก้ไข แต่จะมาเอาเป็นเอาตายกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมายาวนาน ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งประเทศ พวกคนเนรคุณ มาอาศัยบ้านอยู่แต่จะมาไล่เจ้าของบ้าน
    25 มิ.ย. 2562 เวลา 05.09 น.
  • เต๋อ
    กราบขอบพระคุณมากครับท่าน ทีได้เอาข้อมูลมาให้ เข้าใจ
    25 มิ.ย. 2562 เวลา 04.28 น.
  • Tommytorn Ph.D
    ดีงามข้อมูลเชิงลึก
    25 มิ.ย. 2562 เวลา 04.31 น.
  • Ann_Saijai
    เมือไหร่การศึกษาไทยจะดีขึ้นไปดูงานต่างประเทศกลับมาไม่ได้มีอะไรเลยเด็กๆก็โง่เหมือนเดิมไม่พัฒนาเลยนักการเมืองอยากให้คนโง่เวลามันพด
    25 มิ.ย. 2562 เวลา 04.28 น.
  • นักเลือกตั้งเวลาพูดก้อเอามัน สร้างความเกรียกชังสร้างความแตกแยกภายในประเทศ......ไม่มีนักการเมืองที่แม่งไม่ทำเพื่อพรรคพวก นักการเมือเปิดบริสัทรอ พอได้รับเลือกตั้งก้อเข้ามาเปิดทางสะดวกให้ตัวเองทุกยุคทุกสมัย รวยมาไม่รู้ต่อกี่คนแล้ว.....55555....ประเทศกุมี
    25 มิ.ย. 2562 เวลา 04.59 น.
ดูทั้งหมด