ไอที ธุรกิจ

ส่อง 6 เหตุผลที่เราควรซื้อ OnePlus 6 เจ้าของฉายา 'Flagship Killer'

Siamphone
อัพเดต 19 มิ.ย. 2561 เวลา 01.16 น. • เผยแพร่ 18 มิ.ย. 2561 เวลา 06.00 น.
ส่อง 6 เหตุผลที่เราควรซื้อ OnePlus 6 เจ้าของฉายา 'Flagship Killer'

"นักฆ่าเรือธง" ฉายาที่ใครหลายคนคงได้ยินกันมามากแล้วสำหรับแบรนด์ OnePlus ที่ขึ้นชื่อเรื่องมือถือราคาถูกแต่สเปคขั้นเทพ ซึ่งในตอนนี้ก็มี OnePlus 6 สมาร์ทโฟนตัวท็อปที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพมากมาย และก็ได้ประกาศราคาและวันพรีออเดอร์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วอีกด้วย ดังนั้น ใครที่ลังเลว่าจะรอซื้อดีหรือไม่ เราก็มี 6 เหตุผลที่จะทำให้ OnePlus 6 นั้นคุ้มค่าสมกับการรอคอย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1. สเปคจัดเต็มแต่ราคาถูก

เป็นที่เลื่องชื่อลือชากันมานานสำหรับสมาร์ทโฟนค่าย OnePlus ที่มีสเปคจัดเต็มสมเป็นตัวท็อปแต่มาในราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ซึ่งนั่นก็มาถึงคิว OnePlus 6 ที่ก็จัดหนักตั้งแต่หน้าจอรอยบากแบบ Optic AMOLED กว้าง 6.28 นิ้ว ความละเอียด 2280 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 19:9 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 845, RAM 6/8GB, ROM 64/128/256GB มีกล้องหลังคู่ความละเอียด 16+20 ล้านพิกเซล กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ขนาด 3,300 mAh ส่วนราคาของต่างประเทศก็เริ่มต้นแค่เพียง 529 ดอลลาร์ หรือประมาณ 17,xxx เท่านั้น ทั้งนี้ ราคาในไทยก็คงไม่หนีกันมากเท่าไหร่

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

2. Android P กำลังรออยู่แน่นอน

หากใครที่กลัวว่าจะโดน Google ลอยแพเรื่องระบบปฏิบัติการ ก็แทบจะหายกังวลไปได้เลย เพราะ OnePlus 6 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ ที่ได้รับการทดสอบระบบปฏิบัติการตัวใหม่อย่าง Android P เวอร์ชั่น Beta Testing ต่อจากตระกูล Pixel และ Nexus ที่เป็นของ Google เอง

ซึ่งนี่ก็หมายความว่า เมื่อ Google ปล่อย Android P ตัวเต็มออกมา ทาง OnePlus 6 ก็แทบจะได้รับการอัปเดตทันทีโดยไม่ต้องรอหลายเดือน หรือรอจนข้ามปีแบบรุ่นอื่นๆ ค่อนข้างแน่นอน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

3. ยังคงมีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

สิ่งที่ใครหลายคนคงจะคิดถึงเมื่อขาดหายไปในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร แต่ OnePlus 6 ก็ยังคงมีอยู่เพราะผู้ใช้งานหลายคนคงจะชอบมากกว่าใช้หูฟังแบบไร้สายที่มีราคาแพงๆ

4. ความสวยงามแบบแอนดรอยด์ด้วย OxygenOS

นอกจากจะได้การันตีอัปเดตเป็น Android P แล้ว OnePlus 6 ยังมีการครอบทับด้วย UI ของตัวเองในชื่อ "OxygenOS" อีกด้วย เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์แบบแอนดรอยด์อย่างแท้จริง ประกอบกับมีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น Parallel Apps หรือฟีเจอร์ที่ทำให้เราใช้งานแอพฯ ได้หลายบัญชี ทั้ง Facebook Line หรือ Whatapps, Gaming mode ตัดการใช้งานแอพฯ เบื้องหลัง เพื่อให้เครื่องทำงานได้ไหลลื่น เป็นต้น

5. ฟีเจอร์อื่นอีกเพียบ

  • เปิด/ปิดรอยบาก : เรียกว่าทำมาเพื่อเอาใจผู้ใช้งานโดยเฉพาะสำหรับสมาร์ทโฟนหน้าจอรอยบากแต่สามารถปิดได้อย่าง OnePlus 6 หากใครที่ชอบก็เปิดทิ้งไว้ แต่หากใครมองแล้วแปลกตาก็สามารถเลือกปิดได้เช่นกัน
  • เปลี่ยนระบบการนำทางได้หลากหลาย : ด้วย Oxygen OS 5 ช่วยให้เรามีตัวเลือกในการเลือกปุ่มนำทางแบบต่างๆ ได้มากขึ้น จากปกติที่มีแค่ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่มแอพฯ ล่าสุด ก็ให้เราเลือกแบบซ่อนปุ่มนำทางและใช้การปัดจากมุมซ้ายหรือขวาเพื่อย้อนกลับ ปัดขึ้นจากตรงกลางเพื่อไปหน้าหลัก และปัดแล้วค้างไว้ที่กลางจอเพื่อดูแอพฯ ล่าสุด
  • กันน้ำได้ : แม้ว่า OnePlus 6 จะไม่ได้บอกมาตรฐาน IP เป็นตัวเลขออกมาชัดๆ แต่ก็มาพร้อมกับการป้องกันน้ำจากภาพนอก เช่น ฝนตก, โดนน้ำสาด หรือการทำตกในน้ำที่ไม่ลึกมาก
  • วาดอักษรเพื่อเปิดแอพฯ : หนึ่งในฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกอย่างมากใน OnePlus 6 ก็คงจะเป็นฟีเจอร์การวาดตัวอักษรภาษาอังกฤษขณะหน้าจอล็อคอยู่เพื่อเปิดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เราตั้งไว้ เช่น วาดตัว C เพื่อเปิด Chrome หรือวาดตัว O เพื่อเปิดกล้อง เป็นต้น
  • เทคโนโลยีชาร์จเร็วก็มา : จากแบตเตอรี่ 3,300 mAh และเป็นสมาร์ทโฟนตัวท็อป ก็คงจะไม่พ้นเรื่องเทคโนดลยีชาร์จเร็ว ที่ OnePlus ได้นำมาใส่กับ OnePlus 6 ซึ่งจากการทดสอบก็แสดงให้เห็นว่า จากแบตเตอรี่ 0%-50% ใช้ระะเวลาเพียง 30 นาที และจาก 0%-100% ก็ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น

6. เข้าไทยแน่นอน

แม้ว่ารุ่นก่อนหน้านี้จาก OnePlus จะไม่ได้เข้าไทยอย่างเป็นทางการ และต้องหาเครื่องหิ้วมาใช้กัน แต่ในตอนนี้ OnePlus 6

ก็พร้อมที่จะให้แฟนๆ ชาวไทยได้ลองสัมผัสและกำลังจะวางขายอย่างเป็นทางการ โดยเครื่องที่จะนำมาขายก้จะเป็นเวอร์ชั่น Global หรือเครื่องจากสหรัฐอเมริกา ที่มีความเสถียรและใช้งานได้ดีกว่าเครื่องหิ้วทั่วไปแน่นอน

และนี่ก็คือ 6 เหตุผลดีๆ ที่เราควรจะซื้อสมาร์ทโฟน "นักฆ่าเรือธง" OnePlus 6 โดยราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยตามรุ่นต่างๆ มีดังนี้

  • รุ่น Ram 6GB+ROM 64GB ราคา 17,999 บาท ในสีดำเงา Mirror Black
  • รุ่น RAM 8GB+ROM 128GB ราคา 19,999 บาท ในขาว Mirror Black Silk White
  • รุ่น RAM 8GB+ROM 256GB ราคา 21,999 บาท ในสีดำ Midnight Black

ซึ่งจะเปิดให้จองได้ตั้งแต่วันที่ 21 - 27 มิถุนายน 2561 และจำหน่ายจริงในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ที่ jd.co.th, Power Buy และหนึ่งใน Operator ชั้นนำอีกหนึ่งแห่ง

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 7
  • OFF
    มีข้อดีแล้ว ก่อนซื้อ ลองพิจารณาข้อเสียดู 1. ใช้ VoLTE และ VoWiFi กับเครือข่ายไทยไม่ได้ เพราะสองตัวนี้บริษัทผลิตต้องพัฒนา firmware กับเครือข่ายก่อน ถึงจะใช้กับเครือข่ายนั้นๆ ได้ ซึ่งตอนนี้ไม่มีการพัฒนา และก็คงจะไม่มีต่อไป(ด้วยจำนวนคนใช้ที่น้อย) 2. แอพต่างๆ อาจเข้ากันไม่ได้เพราะมันเป็นรุ่นที่คนใช้น้อย คนเขียนแอพเลยไม่ได้ทำไว้เผื่อ ยกตย. เช่น เล่มเกมภาพไม่เต็มจอ แถมเวลามีปัญหาเรื่องพวกนี้คุณจะหาความช่วยเหลือจาก Google ไม่ได้เลยเพราะคนใช้น้อย 3. อุปกรณ์เสริมเช่น เคส ฯลฯ หาไม่ได้เลย ต้องสั่งตปท.
    19 มิ.ย. 2561 เวลา 02.05 น.
  • กล้องโคตรห่วย สู้S9 plusไม่ได้เลย
    19 มิ.ย. 2561 เวลา 19.54 น.
  • phiboon
    สเป็คอวยราคาเทพ
    19 มิ.ย. 2561 เวลา 01.05 น.
  • ⏳⇂จ้ๅજາઈ🏯ūήşๅ⌛
    เอาจริงนะ เรือธงค่ายอื่นก็ snap 845 มัน killer ตรงไหน ?
    19 มิ.ย. 2561 เวลา 11.03 น.
  • P.Apinan
    จัดมาแล้ว Avenger One Plus 6 Infinity War Edition
    19 มิ.ย. 2561 เวลา 11.10 น.
ดูทั้งหมด