ไลฟ์สไตล์

10 เทคนิค ที่ช่วยทำให้การเรียนภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องที่ง่าย | เก่งได้เร็วยิ่งขึ้น

Campus Star
เผยแพร่ 19 ก.ค. 2561 เวลา 09.07 น.
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการเรียน การฝึกพูดภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ยาก แค่เริ่มต้นก็ยากแล้ว แต่รู้ไหมว่าในทุกวันนี้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียวในการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน และการทำงาน

หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการเรียน การฝึกพูดภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ยาก แค่เริ่มต้นก็ยากแล้ว แต่รู้ไหมว่าในทุกวันนี้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียวในการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน และการทำงาน

10 เทคนิคเก่งภาษาอังกฤษ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สังเกตได้ว่าไม่ว่าเราจะไปที่ไหนก็จะมีภาษาอักฤษอยู่ด้วยเสมอ และถ้าใครต้องการที่จะเก่งภาษาอังกฤษให้ได้เร็ว ๆ ก็ต้องลองนำ 10 เทคนิคการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเหล่านี้ไปใช้กันเลย…

1. เลิกแปลเป็นภาษาของตนเอง

อันดับแรกเลยเราควรเลิกแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาของตนเอง เนื่องจากจะทำให้เรามีความคืบหน้าในการเรียนช้าลง เพราะเมื่อเราไปเจอภาษาอักฤษในแบบทางการ หรือที่เขาใช้กันทั่วไป ก็จะทำให้เรางงและไม่เข้าใจได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

2. อย่ากลัวผิดพลาด

เราต้องไม่กลัวการทำผิดพลาด เพราะความกลัวเป็นอุปสรรคใหญ่ที่จะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษของเราก้าวไปข้างหน้าได้ช้า แทนที่เราจะเก่งภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

3. คิดบวกดีกว่า

เราควรที่จะหยุดพูดถึงตนเองในเชิงลบ เพราะการมีทัศนคติเชิงลบไม่ได้ช่วยปรับปรุงการเรียนรู้ของเราให้ดีขึ้นได้เลย มีแต่จะทำให้แย่ลงไปเรื่อย ๆ

4. หยุดคิดมากได้แล้ว

หยุด!! คิดมากและวิตกกังวลได้แล้ว เพราะยิ่งคิดมากเกี่ยวกับการฝึกพูดภาษาอังกฤษ มันก็จะยิ่งทำให้เรารู้สึกประหม่า ไม่กล้าที่จะพูดออกมา และในที่สุดเราก็จะพูดไม่ได้เหมือนเดิม

5. อย่าคิดว่าการเรียนคือ สิ่งที่น่าเบื่อ

อีกหนึ่งสิ่งที่เราควรจะเปลี่ยนความคิดเลยก็คือ อย่าคิดว่าการเรียนเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ อย่ายอมแพ้ ถึงแม้ว่าในตอนแรกของการเรียนรู้จะเป็นสิ่งที่ยากจนทำให้รู้สึกว่าไม่อยากเรียนแล้ว ให้เราลองเปลี่ยนความคิดจากสิ่งที่น่าเบื่อ เป็นสิ่งที่จะทำให้เราได้พัฒนาตนเองให้เก่ง เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรามีแรง มีความอดทน ขึ้นมาแล้ว

6. อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น

หยุดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่เก่งภาษาอังกฤษคนอื่น ๆ ได้แล้ว เราจะต้องภูมิใจในความพยายามของตนเองในการเรียนรู้ เพื่อเป็นการพัฒนาตนเองจะดีกว่า

7. เปลี่ยนวิธีการจำคำศัพท์

วิธีการจำคำศัพท์ การแปลไวยากรณ์ และการโต้ตอบบทสนทนาที่นิยมใช้กันหรือมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายนั้น ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นวิธีที่จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเรียนรู้สำหรับเรา ดังนั้นเราควรที่จะลองหาวิธีในการจำคำศัพท์ การแปลไวยากรณ์ และการโต้ตอบบทสนทนาในแบบที่ช่วยทำให้เราเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น (เทคนิคของแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป)

8. อย่าทุ่มเวลาเยอะจนเกินไป

เราไม่ควรทุ่มเวลากับการเรียนมากเกินไป เราควรที่จะมีระยะเวลาในการศึกษาสั้น ๆ ไม่เกิน 30 นาที จากนั้นก็พักเบรคแล้วค่อยมาเรียนรู้ต่อ และที่สำคัญเราก็ไม่ควรที่จะฝึกฝนทักษะด้านใดด้านหนึ่งเยอะเกินไปจนละเลยทักษะด้านอื่น ๆ เพราะทักษะในทุกด้านมีความสำคัญเท่ากัน

9. ไม่ต้องรู้สึกผิด

ไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะไม่มีใครที่เก่งสมบูรณ์แบบทุกอย่าง ดังนั้นเราไม่ควรที่จะต้องรู้สึกผิดที่ทำไมเราถึงไม่เก่งภาษาอังกฤษเหมือนกับคนอื่น ทุกอย่างต้องใช้เวลา แต่ก็ใช่ว่าเราจะเก่งไม่ได้ เพียงแค่เรามีความตั้งใจ ขยัน อดทน ก็เก่งได้เหมือนกัน

10. อย่ากักความรู้ในห้องเรียนอย่างเดียว

เราไม่ควรที่จะกักความรู้เพียงในชั้นเรียนเท่านั้น การฝึกฝนภาษาอังกฤษนอกห้องเรียนก็มีความสำคัญเช่นกัน จะช่วยทำให้เรามีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

Written by : Toey

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 8
  • papon
    ขอบคุณ...ก็งั้น ๆ แหละ
    19 ก.ค. 2561 เวลา 14.41 น.
  • จีนี่
    คิดบวกดีที่สุด
    19 ก.ค. 2561 เวลา 14.53 น.
  • anntn2012
    ก็ ภาษา มัน ไม่เพราะ จะให้คิดบวกได้ไง เกลียดก็คือ เกลียด สอนภาษา ญี่ปุ่น อาจจะตั้งใจมากกว่า ก็เหมือน บางคนเกลียด เลข นั่นแหละ
    19 ก.ค. 2561 เวลา 18.50 น.
  • PhanPhan
    ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเรา ที่รับผิดชอบนำ้พาประเทศ คิดผิดมาตลอด ว่าภาษาที่อังกฤษ ต้องเรียนในห้องเรียนวัดความรู้ผ่านสถาบันต่างที่ส่วนใหญ่ต้องเสียค่าสมัคร ท้ายสุด การพูดภาษาอังกฤษก็ยังไม่คล่อง เมื่อไหร่ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราจะคิดได้เสียที่ว่า ทำไมเด็ก2 ขวบ ที่ฟิลิปินส์ พูดภาษาอังกฤษคล่องโดยไม่ต้องสอน หรือ เข้าห้องเรียน ทำไมเด็ก 2 ชวบไทย พูดภาษาไทยคล่อง โดยไม่ต้องสอน หรือ เข้าห้องเรียน ถ้าเราจับจุดถูก เรื่องภาษา เราจะรู้เลยว่า เราควรเริ่มต้นที่ไหนก่อน การเรียน(เพิ่มเติม) ในห้องเรียน
    20 ก.ค. 2561 เวลา 23.58 น.
  • Niramone
    บทความมาจากประสพการณ์จริง ไม่ใช่บทเรียน หรือมาตรฐานวิชาการ แต่สะท้อนการเรียนรู้ได้ดีมาก ....
    19 ก.ค. 2561 เวลา 15.20 น.
ดูทั้งหมด