นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี(ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง)เปิดเผยความคืบหน้ามาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว"ชิมช้อปใช้"เฟสสองว่า ขณะนี้ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจาณารายละเดียดโครงการเรียบร้อยและเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่22ต.ค.นี้ หลังจากนั้นเปิดให้มีการลงทะเบียนและเดินหน้าโครงการได้ทันทีโดยในเฟสสองจะเน้นให้กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง ดังนั้น จึงจะไม่แจกเงิน 1,000 บาทแล้ว แต่จะให้เงินคืนเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการใช้จ่ายเงิน
ทั้งนี้ เปิดให้ลงทะเบียนในเวลาทำการในช่วงกลางวันแทนช่วงเวลากลางคืนอย่างในเฟสแรก โดยกำหนดจำนวนผู้ลงทะเบียนในชิมช้อปใช้เฟสสองเพียง2ล้านคนเท่านั้น น้อยกว่าเฟสแรกที่กำหนดไว้ 10 ล้านคน เนื่องจาก กระทรวงการคลังไม่อยากจะตั้งเป้าไว้สูง แต่ถ้าหากเปิดลงทะเบียนแล้วได้รับกระแสตอบรับดีอาจจะพิจารณาขยายจำนวนลงทะเบียนเพิ่มเติมในอนาคต
อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในเฟสแรกจะได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนกับเฟสสองด้วย โดยระยะเวลาดำเนินโครงการขยายไปถึง31ธ.ค.2562จากเดิมกำหนดไว้วันที่ 30 พ.ย.2562 โดยหวังว่าชิมช้อปใช้ทั้งสองเฟสจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยว
"เป้าหมายชิมช้อปใช้ในเฟสสองนั้น เราตั้งเป้าไว้ไม่เหมือนกันในเฟสแรกเพราะอยากเน้นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง ส่วนคนที่ลงทะเบียนในเฟสแรกจะได้รับสิทธิประโยชน์เท่ากับคนที่ลงทะเบียนในเฟสสอง เช่น คนที่ใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่องที่2ในแอปเป๋าตัง จำนวน30,000บาท ซึ่งจะได้รับเงินคืน15%หากใช้จ่ายเงินมากกว่า30,000บาท ถึง 50,000 บาท ก็อาจได้รับเงินคืนเพิ่มเป็นขั้นบันไดถึง20%"
ส่วนเรื่องงบประมาณที่จะใช้ในชิมช้อปใช้เฟส2นั้น กระทรวงการคลังจะใช้งบประมาณที่เคยขอครม.ไว้เดิมที่ใช้ดำเนินการในชิมช้อปใช้เฟสแรกจำนวน19,000ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังมีการใช้จ่ายไม่ถึงงบที่ขอไว้จึงจะดึงงบประมาณส่วนนี้มาใช้โดยไม่ของบจากรัฐบาลเพิ่มเติม เนื่องจากไม่อยากจะเพิ่มภาระงบประมาณของแผ่นดิน
นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าจะเรียกกรมบัญชีกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จำนวน14.6ล้านคนว่า จะมีมาตรการเพิ่มเติมอะไรบ้างและจะมีวิธีใดบ้างที่จะคัดกรองคนรวยที่ได้รับบัตรคนจนในเฟสแรกออกไปซึ่งจะเร่งสรุปเงื่อนไขก่อนเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ โดยหากสรุปแนวทางเรียบร้อยตนจะลงพื้นที่เพื่อเปิดรับสมัครผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการรับสวัสดิการในบัตรจนด้วยตัวเอง
ส่วนมาตรการช่วยเหลือชนชั้นกลาง ได้สั่งให้กรมสรรพากรเร่งสรุป2เรื่องหลัก คือ เรื่องความชัดเจนของเรื่องกองทุน กองทุนรวมหุ้นระยะยาว(แอลทีเอฟ)ที่ปีนี้จะหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษีว่า จะมีกองทุนใดมาทดแทน มีรายละเอียดเป็นอย่างไร และเรื่องการปรับลดภาษีบุคคลธรรมดาให้เอื้อต่อคนชนชั้นกลาง ไม่ใช่เอื้อต่อกลุ่มคนที่มีฐานะร่ำรวยให้เสร็จสิ้นภายในไตรมาส4ปีนี้
tum network แจกเงินคนส่วนใหญ่ก็เอาสะดวกซื้อของห้าง เบื้องหน้าคือแจกเงินให้ประชาชน แต่เบื้องหลังพรรคพวกกำไรมหาศาล
บิ๊กซี โลตัส 7 คนซื้อของเกือบทั้งโครงการแจก คิดดูกำไรเท่าไหร่ มันเป็นโครงการช่วยนายทุนทางอ้อมชัดๆ
19 ต.ค. 2562 เวลา 13.52 น.
Benz ยังสงสัย นโยบายหรือชิงโชค จำกัดจำนวนเป็นของเซลไปได้ สุดท้ายบรรดาผู้ประกอบการได้ประโยชน์เต็มๆ กับ ผู้โชคดีที่กดทัน ส่วนภาษีใช้กระตุ้นเศรษฐกิจที่ควรมีผลทั้งประเทศ แม่งไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากตัวเลขปลอมๆ
19 ต.ค. 2562 เวลา 11.43 น.
The pex แจกเงินเข้าบัญชีดีกว่าไหม กูจะได้เอาไปซื้อของตามร้านข้างถนนได้ ไม่ใช่จ่ายแต่ใยห้าง
19 ต.ค. 2562 เวลา 09.23 น.
Tosapol สุดท้ายเงินไปอยู่กับนายทุนหมด แล้วมันต่างกับจำนำข้าวตรงไหน
19 ต.ค. 2562 เวลา 07.11 น.
Chamlong เข้าไม่แคร์ขอเสนอเราหรอกครับทุกอย่างผ่านหมด ดีไม่ดียังไง่ก็ผ่าน
19 ต.ค. 2562 เวลา 05.18 น.
ดูทั้งหมด