อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ถาม "กรมการขนส่งทางบก" ไม่มีงานทำหรืออย่างไร จึงมีแนวคิดเรียกผู้ได้ใบขับขี่ตลอดชีพทดสอบใหม่ ด้าน อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุ เห็นถึงความสำคัญในการใช้รถร่วมกันกับผู้สูงอายุและเพื่อยกระดับความปลอดภัยทางถนนของประเทศ
จากกรณี กรมการขนส่งทางบก แจง อยู่ระหว่างศึกษา เรียกผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพ ทดสอบความพร้อมในการขับรถ เผยมีแนวคิดให้เปลี่ยนใบขับขี่กระดาษเป็นสมาร์ทการ์ด เพื่ออัพเดทฐานข้อมูล เล็งเพิ่มเกณฑ์ “โรค-สมรรถภาพ”ผู้สูงอายุ
โดย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า ในการทดสอบสมรรถภาพผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพใหม่ยังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ยังไม่มีการกำหนดมาตรการหรือแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจน เพราะการกำหนดให้กลับมาทดสอบเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอีกครั้ง โดย กรมการขนส่งทางบก อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามที่มาของแนวคิดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่ของประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถมีความพร้อมเพียงพอ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงต้องหารือกับทุกฝ่ายทีเกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อให้มีความรอบเหมาะสมในการดำเนินการ
อ่านข่าวประกอบ - ขบ.แจง ทดสอบใบขับขี่ตลอดชีพใหม่ เพื่อยกระดับความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า โดยได้ตำหนิกรมการขนส่งทางบกเกี่ยวกับแนวคิดดังกล่าวโดยได้ระบุข้อความว่า
"ใบขับขี่ตลอดชีพมันหนักหัวใคร เห็นข่าวว่ากรมขนส่งจะให้คนที่ถือใบอนุญาตขับขี่ชนิดตลอดชีพ มาทดสอบใหม่
ต้องถามว่า กรมขนส่งไม่มีงานทำหรือไง มาเพิ่มงาน งานที่ทำอยู่เอาให้มันเข้มงวดมากขึ้นไม่ดีกว่าหรือ งานตรวจสภาพรถ รถปุโรทั่ง รถบรรทุกทำส่วนต่อขยายเกินน้ำหนัก รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ยังวิ่งกันเต็มบ้านเต็มเมือง
หรือกรมตั้งใจจะเปลี่ยนกรมจัดหารายได้คนที่ถือใบขับขี่ตลอดชีพไม่ได้ทำอะไรผิดนะ ที่บอกว่าคนแก่ขับรถเกิดอุบัติเหตุบ่อย เอาตัวเลขสถิติมาดู คนขับรถที่เกิดอุบัติบ่อยคือรถจักรยานยนต์ รถบรรทุก คนขับรถเร็ว ขับขี่หลังการดื่มสุรา คิดผิดคิดใหม่ได้นะ"
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกมีแนวคิดในการเปลี่ยนใบขับขี่ตลอดชีพจากบัตรแบบกระดาษมาเป็นแบบสมาร์ทการ์ด มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ฐานข้อมูลผู้ถือใบขับขี่มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบันมากขึ้น เพราะผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและอยู่ในฐานข้อมูลระบบเดิม โดยหากมาเปลี่ยนเป็นแบบสมาร์ทการ์ดที่มี QR Code แล้ว กรมการขนส่งทางบกจะมีฐานข้อมูลผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปต่อยอดพัฒนามาตรฐานใบอนุญาตขับรถของประเทศไทยครอบคลุมทุกมิติ เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางถนนของประเทศ
ปัจจุบันนี้กรมการขนส่งทางบก มีความเข้มข้นในกระบวนการก่อนออกใบอนุญาตขับรถ ด้วยการให้มีการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ประกอบด้วย การทดสอบความสามารถในการมองเห็นสัญญาณไฟจราจร ความสามารถในการใช้สายตาทางลึก ความสามารถในการใช้สายตาทางกว้าง และปฏิกิริยาในการใช้เบรก
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกเห็นถึงความสำคัญในการใช้รถร่วมกันกับผู้สูงอายุ แนวทางการอบรมได้เพิ่มเนื้อหาอบรมให้ทราบถึงลักษณะและสภาวะการใช้รถของผู้สูงอายุ เพื่อให้เกิดทัศนคติที่ดีในการใช้รถร่วมกันระหว่างวัยที่แตกต่างกัน
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO
worrawit29 ไม่ทราบว่าท่านมีเจตนาอะไรกับการแสดงความเห็นนี้ และสื่อมีเจตนาอะไรกับการนำเสนอข่าวนี้ ต้องการแฝงอะไรรึเปล่า เพราะผมเองก้อมีใบอนุญาตตลอดชีพเหมือนกัน และผมก้อคิดได้ว่า ทำไมไม่พิจารณายกเลิกใบอนุญาตขับขี่ของคนสูงอายุบ้าง เพราะสมรรถนะของคนมันลดลงเรื่อย ๆ ดูคุณพ่อของ สส.หญิง ดาวเด่นแห่งรัฐสภาไทยสิ อุบัติเหตุไปกี่ครั้งแล้ว ถ้าผมอายุมากขึ้น ผมก้อต้องเลิกขับรถ แล้วมันผิดตรงไหนที่ คค.จะคิดได้แบบนี้ ไม่คิดสิแปลก บ้า...
10 ส.ค. 2563 เวลา 07.25 น.
ชัยณรงค์ ผู้ที่อายุมากแล้วการตัดสินใจช้าลงมากอาจเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครับ ถ้าผ่านการทดสอบก็ไม่เดือดร้อนอะไร
10 ส.ค. 2563 เวลา 07.12 น.
arkom ขนส่ง เขาทำถูกแล้วครับท่าน
เขาไม่เรียกคืนใบขับขี่ตลอดชีพ ก็บุญแล้ว
10 ส.ค. 2563 เวลา 07.41 น.
เอาคนขับเฟอร์ร่ารีชนตำรวจตายเข้าคุกทีซิ.
10 ส.ค. 2563 เวลา 07.47 น.
ctom กินเงินเดือนภาษียังไม่พอ หากินเงินอื่นเพิ่ม
10 ส.ค. 2563 เวลา 07.37 น.
ดูทั้งหมด