ท้องเสียบ่อย เป็นอะไรไหม
โดยปกติแล้วถ้าถ่ายเหลวเกิน 3 ครั้งต่อวันก็จะถือว่ามีอาการท้องเสีย หรือบางคนเรียกอาการท้องเดินนั่นแหละค่ะ ว่าแต่ ท้องเสียติดกันบ่อย ๆ อันตรายไหม เสี่ยงโรคอะไรบ้าง ลองเช็กดู
ติดเชื้อปนเปื้อนมากับอาหาร
สาเหตุของอาการท้องเสียที่พบได้บ่อยที่สุดก็เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารและน้ำดื่ม ซึ่งคนที่ท้องเสียบ่อย ๆ ด้วยสาเหตุนี้มักจะเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเป็นเด็กที่ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงพอ แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่รับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ปรุงค้างคืน หรือหยิบอาหารเข้าปากโดยไม่ได้ล้างมือก่อนก็อาจจะท้องเสียบ่อย ๆ ด้วยการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการท้องเสียเพราะติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ร่างกายจะมีกลไกขับเชื้อโรคออกไปกับอุจจาระ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้รับประทานยาหยุดถ่าย แต่ควรดื่มเกลือแร่ ORS เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป และหากท้องเสียติดกันเกิน 2 วันควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
แพ้อาหาร
สำหรับคนที่มักจะมีอาการท้องเสียหลังจากกินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ประมาณว่ากินเมื่อไรก็ท้องเสียเมื่อนั้น นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายของคุณมีระบบภูมิคุ้มกันที่ไวต่อสิ่งกระตุ้น หรือมีอาการแพ้อาหารบางชนิด เช่น นม ถั่วลิสง อาหารทะเล ช็อกโกแลต กลูเตน สีสังเคราะห์ กลิ่นสังเคราะห์ ไข่ หรือน้ำส้มสายชู เป็นต้น
ดังนั้นลองสังเกตดูนะคะว่าตัวเองมีอาการท้องเสียบ่อย ๆ ตอนกินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งหรือเปล่า และหากมีอาการท้องเดินทุกครั้งที่กินอาหารชนิดนั้น ๆ ก็พยายามหลีกเลี่ยงอาหารประเภทที่เราแพ้ไป แต่ทั้งนี้ก็ควรระมัดระวังอาหารบางชนิดด้วย โดยเฉพาะคนที่แพ้นม แพ้ไข่ เพราะนมหรือไข่ก็เป็นส่วนประกอบของอาหารหลาย ๆ ชนิดที่เราอาจคาดไม่ถึง
ระบบย่อยอาหารไม่ดี
ระบบย่อยอาหารของเราจำเป็นต้องใช้เอนไซม์หลายตัวที่ช่วยย่อยและจำแนกสารอาหารที่ร่างกายได้รับเข้าไปแต่ละชนิด ซึ่งหากระบบย่อยอาหารไม่ดี หรือร่างกายขาดเอนไซม์บางตัวที่มีหน้าที่ย่อยอาหาร เช่น ร่างกายขาดโพรเรนนิน หรือมีเอนไซม์ชนิดนี้น้อย ร่างกายจะไม่สามารถย่อนโปรตีนจากนมได้ ส่งผลให้ดื่มนมทีไรก็เกิดอาการท้องเสียทุกครั้งไปนั่นเอง
โรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันบกพร่อง
หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่าธาตุอ่อนนั่นเองค่ะ คือกินอะไรแปลก ๆ ปน ๆ กันไปเมื่อไรก็ได้เรื่อง ถ่ายเหลว ถ่ายบ่อยเป็นประจำเพราะกินอาหารที่ไม่ค่อยได้กินนี่แหละ หรือบางคนอาจมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงเพียงพอจะต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายได้ ส่งผลให้เชื้อโรคที่ปนเปื้อนเข้าไปในลำไส้แผลงฤทธิ์เล่นงานให้เกิดอาการท้องเดิน
ดังนั้นคนที่กินอะไรก็มักจะท้องเสีย ก็ควรดูแลตัวเองให้ดี เลือกกินอาหารที่ดูสะอาด ปลอดภัย ปรุงสุกใหม่ ดูมีสุขอนามัยที่ไม่น่าเสี่ยงให้เกิดอาการท้องเสียกับเราได้
ลำไส้แปรปรวน
โรคฮิตของคนในยุคนี้เลยก็ว่าได้ โดยคนที่มีอาการลำไส้แปรปรวนหรือโรค IBS มักจะมีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย รู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด ร่วมกับมีอาการท้องอืด แน่นท้อง เหมือนมีลมอยู่ในกระเพาะมากเกินไป ซึ่งอาการดังกล่าวมักจะเป็นต่อเนื่องนาน 3 เดือนขึ้นไป
โดยสาเหตุของโรคนี้ก็สันนิษฐานว่าเกิดจากความเครียด ความวิตกกังวล หรือระบบประสาทไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น ชา กาแฟ อาหารรสเผ็ด เปรี้ยว รวมไปถึงอาจจะเกิดจากลำไส้ทำงานผิดปกติไป ส่งผลให้การขับถ่ายผิดปกติตาม
ลำไส้อักเสบ
ความเครียดและพฤติกรรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น กินแต่อาหารชนิดเดิม ๆ กินอาหารฟาสต์ฟู้ดบ่อย ๆ หรือมักจะกินอาหารไม่เป็นเวลา สาเหตุเหล่านี้สามารถกระตุ้นอาการของโรคลำไส้อักเสบ ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายผิดปกติไป โดยบางคนอาจจะมีอาการท้องเสียบ่อย หรือถ่ายหลายครั้ง (5-10) ต่อวัน ร่วมกับอาการอื่น ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ จนไม่นึกเอะใจว่าระบบภายในร่างกายเราผิดปกติอยู่
ไทรอยด์เป็นพิษ
อาการท้องเสียง่ายและเกิดอาการท้องเสียบ่อย ๆ อาจเป็นหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ได้ว่ามีภาวะไทรอยด์เป็นพิษ เนื่องจากเมื่อไทรอยด์เป็นพิษ ระบบทางเดินอาหารจะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากขึ้น ส่งผลให้มีอาการถ่ายบ่อย ถ่ายหลายครั้งต่อวัน โดยส่วนมากจะถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ
เบาหวาน
คนที่เป็นโรคเบาหวานก็มักมีอาการท้องเสียบ่อย ๆ หรือท้องผูกสลับท้องเสียได้เหมือนกัน รวมไปถึงภาวะกลั้นอุจจาระไม่อยู่ เพราะเส้นประสาทในร่างกายถูกทำลาย จึงมีอาการคล้ายท้องเสียอยู่บ่อย ๆ ซึ่งหากผู้ป่วยเบาหวานท้องเสียอาจรู้สึกเหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว และเป็นลมได้ เพราะระดับน้ำตาลในเลือดลดลงต่ำมาก ๆ
โรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
หากเป็นคนที่ป่วยด้วยโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันมาก่อน หรือรักษานานแล้วก็ยังไม่หาย นี่อาจนำไปสู่โรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังได้ค่ะ ซึ่งจะส่งผลให้มีอาการท้องเสียเรื้อรังตามมา เพราะตับอ่อนไม่สามารถย่อยไขมันได้ อาการที่สังเกตเห็นได้ชัดว่าเป็นโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังหรือไม่ก็คือ จะถ่ายอุจจาระออกมาเป็นไขมันลอยขึ้นมาให้เห็น และมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีภาวะน้ำตาลในเลือดผิดปกติ เกิดโรคเบาหวาน มีอาการตาเหลืองตัวเหลือง ซึ่งทั้งหมดเกิดจากความผิดปกติของตับอ่อน
นอกจากโรคดังกล่าวแล้ว อาการท้องเสียบ่อยอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs รวมไปถึงการรักษาด้วยวิธีฉายรังสีบำบัด และการทำคีโมในผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
medicalnewstoday
healthline
kapook
