แม่ใจชื้น ‘เณรดิว’ เริ่มมีอาการตอบสนอง ขอหวังปาฏิหาริย์จะเกิด ขณะที่เจ้าอาวาสเผยหลวงตา 10 ปี ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ส่วนเณรก็เป็นเด็กซน ชอบเล่นไฟ และเคยเผาบริเวณวัดมาแล้วกว่า 10 ครั้ง
แม่ใจชื้น จากกรณีสามเณรดิว อายุ 9 ปี ถูกหลวงตาศุภชัย บุญลักขะ อายุ 64 ปี อดีตพระลูกวัดดอนขมิ้น จ.กาญจนบุรี ตีจนเลือดคั่งในสมอง และนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ร.พ.พหลพลพยุหเสนา อ.เมืองกาญจนบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่แพทย์ก็บอกให้ญาติเตรียมทำใจ เนื่องจากอาการสาหัส ขณะเดียวกันตำรวจ สภ.ลูกแก ก็ได้นำตัวอดีตพระศุภชัย ไปฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ส.ค. พ.ต.อ.ประสม หงษ์โต ผกก.สภ.ลูกแก สั่งการให้ ร.ต.อ.อำนาจ จันทร์บุตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลูกแก คุมตัวนายศุภชัย ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีผัดแรก พร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัว แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ขณะที่ พ.ต.อ.ประสม กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสเอาไว้ก่อน แต่ถ้าหากเณรดิวเกิดเสียชีวิต ก็จะแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิตในภายหลัง
ขณะเดียวกันที่ ร.พ.พหลพลพยุหเสนา เณรดิว ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โดยมีนางสุกัญญา ตุ้นฮิ้น นายวัฒนา สีสวัสดิ์ แม่และพ่อ พร้อมบรรดาญาติเฝ้ารอดูอาการด้วยความเป็นห่วง นางสุกัญญา กล่าวว่า วันนี้แพทย์ผู้ดูแลแจ้งให้ทราบว่า อาการของลูกชายเริ่มมีการตอบสนองในการรับยา ภาพรวมอาการดีขึ้นกว่าเมื่อวาน ทำให้รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะมีความหวังเพียงแค่ริบหรี่ก็ตาม แต่อย่างน้อยอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับลูกชายก็เป็นได้ และหากลูกชายฟื้นขึ้นมาถึงแม้อาการจะไม่กลับมาเป็นปกติเช่นเดิม ตนก็จะดูแลเขาอย่างดีที่สุด
ด้านพระครูสุพัฒน กาญจนกิจ เจ้าอาวาสวัดดอนขมิ้น กล่าวว่า หลวงตาศุภชัย บวชจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 หรือประมาณ 14 ปีมาแล้ว ที่ผ่านมาหลวงตาจะคอยเป็นพระพี่เลี้ยงให้กับสามเณรที่บวชใหม่มาโดยตลอด และไม่เคยมีประวัติทำร้ายสามเณรเช่นนี้มาก่อน จะมีบ้างก็แค่ตีเพื่อสั่งสอนให้รู้ว่าสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูกเท่านั้น นอกจากนี้หลวงตาศุภชัย ยังเป็นที่เคารพของชาวบ้าน อีกทั้งยังเป็นครูสอนธรรมมะให้กับเด็กนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ อีกหลายแห่ง
สำหรับสามเณรดิว เป็นเด็กที่มีนิสัยดื้อรั้น ชอบเล่นจุดไฟเผา ส่วนฐานะทางบ้านก็ยากจน หาเช้ากินค่ำ พ่อแม่ก็แยกทางกัน ด้วยความยากจนผู้เป็นแม่จึงนำลูกชายที่มีอยู่ 2 คน มาบวชช่วงภาคฤดูร้อนประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนมาบวชแม่ของสามเณรก็บอกกับพระว่าลูกชายมีนิสัยชอบเล่นไฟ แต่พระก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเห็นว่าเป็นเด็ก และที่ผ่านมาสามเณรได้ก่อเหตุจุดไฟเผาภายในบริเวณวัดมาแล้วกว่า 10 ครั้ง ทางวัดจึงจำเป็นต้องนำถึงดับเพลิงไปติดตั้งเอาไว้ตามจุดต่างๆ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาสามเณรก็ได้หลวงตาศุภชัย คอยเป็นพระพี่เลี้ยงให้ และคอยว่ากล่าวตักเตือนมาโดยตลอด แต่สามาเณรก็ไม่ยอมเชื่อฟัง จนหลวงตาเริ่มทนไม่ไหว ในที่สุดก่อนเกิดเหตุได้ 2 วัน หลวงตาศุภชัย ก็ได้มาแจ้งกับอาตมาว่า จะไม่ขอเป็นพระพี่เลี้ยงสามเณรอีกต่อไป แต่อาตมาเห็นว่าอีกเพียงแค่ 2 วันสามเณรก็จะสึกแล้ว อาตมาจึงขอให้หลวงตาศุภชัย อดทนเป็นพระพี่เลี้ยงให้อีก 2 วัน แต่สุดท้ายก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
“ซึ่งอาตมาเชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากความโมโหจนทนไม่ไหว อีกทั้งในวันดังกล่าวสามเณรยังได้ด่าทอถึงบุพการีของหลวงตาอีก แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วก็ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินคดีทางด้านกฎหมาย ส่วนอาตมาเองก็จะให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียหายให้ดีที่สุด” พระครูสุพัฒน กล่าว
อ่านข่าว เณรน้อยวัย 9 ขวบ อาการโคม่า หัวบวม-คางแตก-กระดูกหัก คาดฝีมือหลวงตาพระลูกวัด
อ่านข่าว จับคาวัด หลวงตาคว้าไม้หวดสามเณรวัย 9 ขวบปางตาย หมอแจ้งญาติให้ทำใจ
อ่านข่าว ขอยื้อชีวิตเณร!พ่อแม่สุดเศร้า ไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจ ยันเอาผิดหลวงตาถึงที่สุด
อ่านข่าว สุดเวทนา!เณรยังโคม่าเลือดคั่งสมอง แม่วอนช่วยไร้เงินรักษา คุมหลวงตาฝากขัง
karn เด็กซนจนดูแลไม่ได้ก็ควรส่งคืนพ่อแม่เค้าไม่ใช่บ้าอำนาจตืเค้าปางตายแบบนี้ อย่าไปฟังไอ้พระนี่พูดมากนัก ขนาดบวชมาหลายปียังไม่มีสติขนาดนี้ จะมาบวชเพื่ออะไร
21 ส.ค. 2561 เวลา 14.18 น.
เด็กจะซนขนาดไหน พระก็ไม่สมควรใช้ความรุนแรง ยิ่งเป็นพระด้วยแล้วควรมีแต่ความเมตตา
21 ส.ค. 2561 เวลา 13.55 น.
ใช่พ่อแม่แยกกันน้องอาจเป็นเด็กพิเศษแต่ไม่มีใครรู้เลยคิดว่าเด็กซนพูดไม่รู้เรื่องสอนไม่จำแต่จริงๆๆน้องเป็นเด็กพิเศษคือความจำสั้แล้วก็ไม่นิ่งคือภาษาชาวบ้านเรียกว่าดื้อมึนเด็กเหล่านี้ต้องพบหมอจิตเวชเด็กและต้องใช้ยาร่วมด้วยเพื่อคุมพฤติกรรมน้องเพื่อให้น้องนิ่งเพราะฉะนั้นคนที่ไม่รู้จึงทำร้ายทุบตีกันอย่างที่เป็นข่าวถ้าลูกเราซนผิดปรกติไม่เหมือนลูกคนอื่นสงสัยไว้ก่อนพาไปพบจิตเวชเด็กเลยไม่ต้องอาย
21 ส.ค. 2561 เวลา 13.47 น.
ดูจากสถานการณ์แล้วคิดว่าเด็กคงดื้อจนผู้เป็นแม่ดูแลไม่ได้แล้วเอา
มาบวชเพื่อผลักภาระออกจากตัวแม้แต่พ่อแม่ยังดูแลไม่ได้เลยแล้วจะให
คนอื่นดูแลได้ไง(ความคิดเห็นส่วนตัวครับ)
21 ส.ค. 2561 เวลา 13.46 น.
ปอน ปอน ผิดที่เด็ก
21 ส.ค. 2561 เวลา 13.35 น.
ดูทั้งหมด