ผู้ที่คิดมากมักจะมีความคิดและอารมณ์ในเชิงลบ คำพูดต่างๆมักจะเต็มไปด้วยความรู้สึกวิตกกังวล กลุ้มใจ ความเครียด หงุดหงิด และคิดมาก อย่างไรก็ตามนักจิตวิทยาได้ค้นพบคุณสมบัติอันมีค่าที่ซ่อนอยู่ ผู้ที่คิดมากจะมีความคิดสร้างสรรค์อย่างเปี่ยมล้นและหากคุณเป็นหนึ่งในนั้นก็เป็นไปได้ว่าคุณคืออัจฉริยะที่สร้างสรรค์
เหตุใดผู้ที่คิดมากจึงมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าปกติ?
เพื่อทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนเราจำเป็นต้องหาการเชื่อมโยงระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับความไม่สมดุลทางจิตใจและหวั่นไหวง่าย ล่าสุดพบว่าทฤษฎีใหม่ได้กล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับผู้ที่เป็นโรคประสาท สมองส่วนหนึ่งจะรับผิดชอบความคิดที่สร้างขึ้นเอง เช่น การทบทวนความคิดและการวิเคราะห์ซึ่งมีการใช้งานมากสำหรับผู้ที่เป็นโรคประสาททั้งในลักษณะทางบวกและทางลบ ลักษณะทางบวกคือความคิดสร้างสรรค์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ลักษณะทางลบคือความวิตกกังวล ความซึมเศร้า ความคิดครอบงำ และแม้กระทั่งความทุกข์ทรมาน ดร.อดัม เพอร์กินส์ หนึ่งในผู้เขียนการศึกษานี้ยืนยันว่า “ความไม่สมดุลทางจิตใจนั้นมีคุณค่าและประโยชน์อย่างมาก ผู้ที่มีอาการทางประสาทสูงจะมีความวิตกกังวลและซึมเศร้าตลอดชั่วชีวิตของพวกเขา ทว่าก็ก่อให้เกิดศักยภาพทางความคิดที่สร้างสรรค์ได้เช่นกัน ดังนั้นความเชื่อมโยงก็คือความคิดมากนั่นเอง
อาการคิดมากคือแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังความไม่สมดุลทางจิตใจ
แต่ไม่ใช่แค่ประเภทของอาการคิดมาก ผู้ที่คิดมากจะเชี่ยวชาญในด้านความคิดเชิงลบเนื่องจากคอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้าบางส่วน (สมองส่วนที่ควบคุมความคิดของตัวเอง) มีการใช้งานสูง ผลที่ตามมาคือพวกมันจะไวต่อการคุกคามและอันตรายแม้ว่าจะไม่เกิดขึ้นจริงก็ตาม ที่สำคัญสมองส่วนนี้มักจะทำงานหนักเกินไปในการแก้ปัญหาและอาจทำให้ผู้ที่คิดมากเกิดความทุกข์อย่างหนักเนื่องจากมันจะเชื่อมโยงกับจินตนาการที่อยู่เหนือการตอบสนองและก่อให้เกิดอันตราย ขณะเดียวกันพวกเขาก็จะกลายเป็นนักแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์อย่างไม่น่าเชื่อ
นักคิดที่ยอดเยี่ยม
และนี่อาจอธิบายได้ว่าทำไมบุคคลอย่างแวนโก๊ะ, วู้ดดี้ อัลเลน และไอแซค นิวตันจึงมีความคิดที่สร้างสรรค์แถมยังเป็นคนที่คิดมากสุดๆอีกด้วย นั่นเป็นเพราะพวกเขาคลุกคลีอยู่กับปัญหานานกว่าคนทั่วไปและจะขุดลึก วิเคราะห์ (และวิเคราะห์มากเกินไป) และถูกครอบงำอยู่กับสิ่งเหล่านั้น ยกตัวอย่างเช่นไอแซค นิวตันมักจะกังวล คิดมาก และยึดติดกับปัญหาทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเขามักจะเก็บปัญหาไว้ที่ตัวเองตลอด จากนั้นก็รอจนกว่าจะเริ่มทำความเข้าใจอย่างช้าๆทีละนิดจนในที่สุดก็รู้แจ้งเห็นจริง
ช่วยให้ผู้คนเข้าใจในประสบการณ์ของตัวเองอย่างมีเหตุผล
กลุ่มนักวิจัยหวังว่าทฤษฎีนี้จะกระตุ้นการวิจัยครั้งใหม่และเตรียมผูกความเชื่อมโยงระหว่างความไม่สมดุลทางจิตใจและความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตามพวกเขายอมรับว่าต้องทำการวิจัยเพิ่มเติม ดังนั้นคราวหน้าเมื่อคุณรู้สึกหดหู่ ซึมเศร้า วิตกกังวล หรือหงุดหงิด จงจำไว้ว่าคุณมีความสามารถพิเศษที่น่าทึ่งเนื่องจากอาการคิดมากบ่งบอกว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ขณะที่บางคนอาจถึงขั้นบอกว่าคุณคืออัจฉริยะผู้สร้างสรรค์
@... คนที่จะแก้ปัญหาได้ดีคิดว่าจะต้องเป็นคนที่มีความรอบครอบระวังถึงผลเสียไปด้วย.
14 ธ.ค. 2561 เวลา 05.13 น.
สุจินต์ สุ จิ ปุ ลิ ออกมาเป็น ความคิดรวบยอด
16 ก.ย 2561 เวลา 12.12 น.
Poppy Stitch Meow สุดยอด
12 ส.ค. 2561 เวลา 07.55 น.
เราไม่รู้อะไรเลย
ก็เลยไม่รู้จักคิด
เวลาเกิดปัญหาชอบถามให้คนอื่นช่วย
คำพูดเดียว คือ มันบอกว่า "แกคิดเอง"
มึงหัดแก้ปัญหาเอง
แล้วมึงจะรู้จักคิด
สิ่งที่ทำให้สะบายใจที่สุด เบาที่สุดคือ
กูไม่ต้องคิดอะไรมาก
14 ธ.ค. 2561 เวลา 01.51 น.
ตรงข้ามกะพวกโลกสวย
17 ก.ย 2561 เวลา 00.03 น.
ดูทั้งหมด