ในยุคที่ทุกคนเปิดพอดแคสต์ระหว่างแต่งตัวก่อนออกไปทำงาน ฟังวิทยุออนไลน์คลอไปกับการขับรถ ตกดึกหมุนไปฟังรายการผี รอคอยคลับฟรายเดย์ทุกวันศุกร์ ทุกอย่างเหล่านี้ย้ำว่าวิทยุยังคงเป็นวิธีในการสื่อสารที่ยังไม่ตายและเป็นส่วนใหญ่ ๆ ส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน เนื่องในวันวิทยุโลก World Radio Day วันนี้ เราขอพาทุกคนย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของวิทยุที่เราฟังกันอยู่ทุกวันว่ามาจากไหน และก่อนที่จะกลายร่างมาอยู่ในหน้าปัดรถยนต์หรือแอปพลิเคชั่นฟังวิทยุออนไลน์ในมือถือของเรา เส้นทางชีวิตของวิทยุเป็นอย่างไรบ้าง
กำเนิดสัญญาณวิทยุครั้งแรก
ในยุคแห่งการประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์แต่ละคนต่างผุดไอเดียในการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเพื่อนมนุษย์ และเขาคนนี้ก็เช่นกัน กูลเยลโม มาร์โคนี นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาเลียนที่หลงใหลในทฤษฎีการส่งคลื่นความถี่ไร้สายของนักวิทยาศาสตร์รุ่นพี่อย่าง ไฮน์ริช เฮิร์ตซ์ จนนำมาดัดแปลงและคิดค้นคลื่นวิทยุได้สำเร็จในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
เขาคือคนแรกที่พิสูจน์ได้ว่าสัญญาณวิทยุสามารถเดินทางข้ามห้องได้ ข้ามตึกได้ และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือเขาล้มล้างความเชื่อที่ว่าคลื่นวิทยุสามารถเดินทางได้ไกลมากที่สุดแค่ 150 กิโลเมตรด้วยการส่งสัญญาณข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก จากคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ ไปยังเมืองเซนต์จอห์นส์ในแคนาดาในปีค.ศ. 1899
การคิดค้นนี้นอกจากจะทำให้มาร์โคนีได้รับรางวัลโนเบลฟิสิกส์ในปี 1909 แล้ว คลื่นวิทยุยังกลายเป็นส่วนสำคัญของการติดต่อสื่อสาร ทั้งทางการทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และเครื่องมือของรัฐบาลในการกระจายข่าวสาร
วิทยุเพื่อความบันเทิง
ถึงจะพอมีสถานีวิทยุเล็ก ๆ ที่ทดลองตั้งขึ้นมาเพื่อทำรายการเสิร์ฟความบันเทิงบ้าง แต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 คือเวลาที่สถานีเหล่านั้นถูกแบน หากต้องการทำต่อก็ต้องขอใบอนุญาต ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้ใครมาแทรกแซงการใช้คลื่นวิทยุของหน่วยทหารในยามที่จำเป็นที่สุด ช่องทางในการเสพความสนุกของผู้คนเลยกลายเป็นทางโทรศัพท์แทน มีบริการสมัครสมาชิกรับข่าวทางโทรศัพท์ มีแม้กระทั่งการเผยแพร่ละครน้ำเน่าโดยการโทรและจ่ายเป็นครั้ง ๆ การใช้วิทยุเลยหายไปจากภาคครัวเรือนระหว่างช่วงสงคราม
อย่างไรก็ตาม วิทยุกลับมาเดบิวต์ใหม่อีกครั้งในช่วงปี 1920 คราวนี้ในฐานะของการเป็นแหล่งความบันเทิงที่ทุกบ้านจะต้องมี ช่วงนี้เป็นจุดกำเนิดของรายการวิทยุที่นำเสนอคอนเทนต์ทุกรูปแบบ ตั้งแต่ข่าว กีฬา ละคร เพลง เรื่องลี้ลับ รายการตลก ไปจนถึงรายการสำหรับเด็กและรายการทำอาหาร และเป็นช่วงที่การแข่งขันในวงการวิทยุสูงมาก การลงโฆษณาในวิทยุก็เป็นสิ่งที่ทำรายได้ให้กับสถานีได้เยอะมากเช่นกัน
วิทยุกระจายเสียงครั้งแรกในประเทศไทย
ถ้าพูดถึงวิทยุในบริบทประเทศไทย ครั้งแรกที่คนไทยได้รู้จักกับเครื่องวิทยุคือในปีพ.ศ. 2447 ที่ห้าง บี.กริมม์ นำเอาเครื่องวิทยุโทรเลขเข้ามาทดลองใช้ในกรุงเทพฯ ครั้งแรก แต่ถ้าพูดถึง "วิทยุกระจายเสียง" ในประเทศไทยแล้วล่ะก็ ครั้งแรกคือตอนที่สมเด็จกรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธินทรงสั่งเครื่องรับวิทยุกระจายเสียงเข้ามาจากประเทศฮอลแลนด์ (เนเธอร์แลนด์ในปัจจุบัน) และรับสั่งให้ห้างเกียร์สันสร้างห้องส่งสำหรับการกระจายเสียง กลายเป็น "สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท" สถานีวิทยุแห่งแรกของประเทศไทย และมีการกระจายเสียงปฐมฤกษ์ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2473 ถ่ายทอดกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ในงานพระราชพิธีฉัตรมงคล จากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
ปัจจุบัน "สถานีวิทยุกรุงเทพฯ ที่พญาไท" ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ของกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ถือเป็นสถานีวิทยุแห่งแรกที่มีอายุยาวนานที่สุดถึง 89 ปี
จากแผ่นเสียงสู่ระบบดิจิตอล
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับวิวัฒนาการของการกระจายเสียงวิทยุ นอกจากการเปลี่ยนแปลงของตัวคอนเทนต์ที่ถูกแพร่แล้วก็คือด้านเทคโนโลยีที่ใช้ในการทั้งรับและส่งสัญญาณ ตัวอย่างหนึ่งที่ดีมากคือรายการเพลง หากเราได้ไปคุยกับดีเจยุคก่อน ๆ พวกเขาจะเล่าให้ฟังถึงการแบกกระเป๋าใบใหญ่ที่ใส่แผ่นเสียงไปยังสถานีในสมัยที่ทุกอย่างถูกบันทึกลงบนแผ่นไวนิล ยุคสมัยเปลี่ยนไป ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยี สื่อกลางที่เคยเป็นไวนิลแผ่นเทอะทะถูกย่อส่วนลงเรื่อย ๆ เป็นซีดีแผ่นเล็กลง และมาสู่ยุคดิจิตอลที่ไฟล์เพลงถูกเก็บเอาไว้ในคอมพิวเตอร์
ในฝั่งของผู้รับก็เช่นกัน จากเครื่องวิทยุตัวหนัก ๆ ที่มาพร้อมหน้าปัด ปุ่มหมุนหาคลื่น และเสารับสัญญาณ ถูกย่อขนาดให้เล็กลง เบาขึ้น เหมาะสำหรับการพกพามากขึ้น สู่หน้าปัดแบบดิจิตอลกับปุ่มกดสแกนสัญญาณ และในที่สุดคือการ tune in แค่เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของสถานีวิทยุออนไลน์นั้น ๆ
น้องใหม่ล่าสุด: พอดแคสต์
ร่างใหม่ล่าสุดของวิทยุออนไลน์มาในชื่อที่หลายคนเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้นว่า "พอดแคสต์" รายการวิทยุออนดีมานด์ที่เราสามารถเลือกฟังผ่านทางแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ บนโทรศัพท์มือถือชนิดนี้เริ่มต้นขึ้นในปีพ.ศ. 2547 โดยคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์ The Guardian ที่จัดทำขึ้นเพื่อขยายความเนื้อข่าวในคอลัมน์ของเขา คำว่า "พอดแคสต์" มาจากคำว่า "ไอพอด"ผสมกับคำว่า "บรอดแคสต์" และปัจจุบันก็กลายเป็นเทรนด์ใหม่ภายในคนเฉพาะกลุ่มที่กำลังขยายวงกว้าง ตอบโจทย์ความต้องการของคนที่อยากเสพคอนเทนต์ที่น่าสนใจแต่มีเวลาที่จำกัดหรือมีความจำเป็นต้อง multitask ทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปด้วย ทุกอย่างรวบจบภายในขั้นตอนเดียวคือการเปิดพอดแคสต์ฟัง
แหล่งที่มา
Patiwatt คิดถึงวันเก่าๆ
13 ก.พ. 2563 เวลา 08.41 น.
ธรรมนูญ โตมาก็ได้เห็นแม่เปิดเพลงจากวิทยุธานิน เครื่องใหญ่ให้ฟัง
13 ก.พ. 2563 เวลา 08.17 น.
kamen rider อิหยังหว่า...เอาปากกาไปกรอเทปแป๊บ
13 ก.พ. 2563 เวลา 08.27 น.
VJ Chen ทุกบาทคุ้มค่าด้วย ธานินทร์
ถ่านไฟฉายตรา กบ
18 พ.ย. 2563 เวลา 22.38 น.
Tam คิดถึงเวลาโทรไปขอเพลงหลังไมค์ แล้วก็ลุ้นว่าจะได้ฟังมั้ย555 ผมยุค90คับ
04 ส.ค. 2563 เวลา 01.02 น.
ดูทั้งหมด