ชาวเชียงใหม่ร่วมทอดผ้าป่าระดมทุนแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ส่วนหนึ่งของมหกรรมรวมพลังเชียงใหม่ลมหายใจเดียวกัน “เชียงใหม่ฮ่วมใจ๋สู้ฝุ่น” ผู้ว่าฯ นำประชาชนปั่นจักรยานรอบเมืองรณรงค์ลดการใช้รถ เช้านี้ค่าฝุ่น*PM 2.5 พุ่งเกินค่ามาตรฐานเกือบทั้งจังหวัด *
วันนี้ (19 ม.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และตัวแทนส่วนราชการ ร่วมกันตั้งขบวนผ้าป่า “รวมพลังเชียงใหม่ลมหายใจเดียวกัน” โดยมีนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานกองผ้าป่า เดินนำขบวนแห่ไปตามถนนราชดำเนิน ไปทอดถวายที่วัดพระสิงห์วรวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ มีประชาชนและกลุ่มชาวต่างชาติในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมขบวนนับร้อยคน
กิจกรรมทอดผ้าป่า เป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมรวมพลังเชียงใหม่ลมหายใจเดียวกัน “เชียงใหม่ฮ่วมใจ๋สู้ฝุ่น” ที่จัดขึ้นโดยสภาลมหายใจเชียงใหม่ เพื่อระดมทุนส่งเสริมการลดฝุ่นควันของประชาชนในเขตเมืองและนอกเมือง ช่วยในการป้องกันและดับไฟป่า รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง ล่าสุดมีประชาชน ภาคธุรกิจ และ หน่วยงานราชการ ร่วมสนับสนุนกองทุนแล้วประมาณ 150,000 บาท
เงินทุนที่ได้มาในระยะแรกจะนำไปสนับสนุนกองทุนชุมชนในหลายอำเภอในการจัดการป่า เช่น เพาะเห็ดป่า จัดการวัชพืช ทำปุ๋ย รวมทั้งปลูกป่าในพื้นที่เสื่อมโทรม โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ทั้งหมดนี้เพื่อลดการเผาซึ่งเป็นต้นตอของปัญหามลพิษทางอากาศให้ได้มากที่สุด
วันเดียวกันนี้ ยังมีกิจกรรม “ปั่นล่องกอง” เชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวปั่นจักรยานชมเมือง รณรงค์ลดการใช้รถยนต์ลดฝุ่นควันในเขตเมือง โดยมีจักรยานให้ยืมปั่นรอบละ 30 คันตลอดทั้งวัด
ขณะที่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า มีการเฝ้าระวังติดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน รวมทั้งนำแอปพลิเคชั่น AirCMI มาให้กับประชาชนได้ใช้เพื่อติดตามสภาพอากาศและค่าฝุ่น
ขณะเดียวกันได้ประสานกับสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่และองค์กรปกครองวส่วนท้องถิ่นให้จัดเตรียมหน้ากากอนามัยและเซฟตี้โซน ให้พร้อมแจกจ่ายและให้ประชาชนได้เข้าไปใช้บริการได้ทันทีหากค่าฝุ่นควันเกินมาตรฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ จากข้อมูลแอพพลิเคชั่น AirCMI ในเวลา 10.00 น. ที่ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ พบค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน อยู่ที่ 84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่หลายอำเภอค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานด้วยเช่นกัน สูงสุดที่ อ.ฝาง วัดได้ถึง 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีเพียง 8 อำเภอ จากทั้งหมด 25 อำเภอ ที่ยังไม่เกินมาตรฐาน แต่ก็อยู่ในระดับสูงใกล้แตะค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรทุกอำเภอ
A รัฐบาลสมควรต้องใช้ยาแรง ไม่อย่างนั้นก็แก้ไม่ได้ ความร่วมมือไม่เพียงพอ
19 ม.ค. 2563 เวลา 08.07 น.
Nattanard ยุคตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เสียดายเงินภาษีจริงๆ
19 ม.ค. 2563 เวลา 08.25 น.
T "curse my name" รัฐบวยไม่ทำห่านอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรม ปชช ต้องช่วยตัวเอง ถถถถถถ
19 ม.ค. 2563 เวลา 08.20 น.
bj. ต้องแก้ที่ข้าราชการ ผู้ว่าฯ นายอำเภอเป็นอันดับแรก
19 ม.ค. 2563 เวลา 08.21 น.
August มันมีควันข้ามแดนมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ใช่น้อยๆ
ทั้งจากพม่าและจากลาว ทั้งการเผาไร่ โรงงานและโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ไม่ได้มาตรฐาน
ในไทยปัญหาจากโรงงานไม่เยอะเพราะเราพัฒนาไปไกลแล้ว ยังเหลือส่วนของการใช้รถใช้ยานพาหนะที่ใช้น้ำมันต่างๆ และการเผาทางการเกษตร ที่ต้องร่วมมือช่วยกัน
หรือไม่รัฐบาลต้องใช้ยาแรงแบบประเทศที่พัฒนาแล้วเช่น ไม่ให้รถใช้น้ำมันเข้าเขตเมืองเลย ให้ใช้แต่รถพลังงานไฟฟ้าแบบเมืองใหญ่ๆในจีน หรือกำหนดให้รถทะเบียนหมวดไหนสามารถขับเข้าเมืองได้วันไหน ปรับจีบให้หนัก รวมถึงเรื่องควันดำด้วย
19 ม.ค. 2563 เวลา 08.45 น.
ดูทั้งหมด