ผู้ใช้บริการรถตู้สาธารณะร้องเรียนกับ TNN ช่อง 16 ว่าหลังจากที่กรมการขนส่งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งคัด ในการตรวจจับรถตู้ที่มีเบาะที่นั่งเกิน 13 ที่นั่่ง ทำให้รถตู้โดยสารฉวยโอกาสขึ้นราคา โดยสำรวจสายรถตู้ที่มีการร้องเรียนคือ อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ขึ้นราคาจาก 30 เป็น 35 บาท และสาย มหาวิทยารังสิต - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขึ้นราคาจาก 35 บาท เป็น 40 บาท
ทีมข่าว TNN24 ทดลองใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ สาย ต.83 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต พบว่า รถตู้คันนี้มีการขึ้นราคาค่าโดยสารจากเดิม 30 บาทตลอดสาย เป็น 35 บาท ตามที่มีการร้องเรียนจากประชาชน เช่นเดียวกับ สายต.84 มหาวิทยารังสิต - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่ขึ้นค่าโดยสารอีก 5 บาท เป็น 40 บาท
แม้การทดลองใช้บริการรถตู้โดยสารทั้ง 2 เส้นทางในครั้งนี้ จะพบว่า คนขับปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ทั้ง การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมถึงการจัดวางที่นั่ง 13 ที่นั่ง
แต่การขึ้นราคาค่าโดยสาร เพื่อหวังชดเชยรายได้ ที่ขาดหายไป จากการกำหนดที่นั่งผู้โดยสาร ให้เหลือ 13 ที่นั่ง นั้น ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เพราะกรมการขนส่งทางบก ยังไม่อนุญาต
ขณะที่คนขับรถตู้สาธารณะ เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - สะพานใหม่ ระบุว่า วินของตัวเอง ยังไม่มีการปรับค่าโดยสาร แต่เป็นการขอความเห็นใจจากผู้โดยสาร ขอค่าบริการเพิ่ม 5 บาท เพื่อเป็นค่าโทรลเวย์ ซึ่งไม่มีการบังคับ แล้วแต่ความสมัครใจของผู้โดยสารแต่ละคน
เสียงสะท้อนจากคนขับรถตู้โดยสารสาธารณะ เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - สะพานใหม่ ยอมรับว่า การกำหนดที่นั่งรถตู้โดยสารเหลือเพียง 13 ที่นั่ง จากเดิม 15 ที่นั่ง ส่งผลกระทบโดยตรงในเรื่องรายได้ ทำให้รายได้หายไปเที่ยวละ เกือบ 100 บาท และหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าเช่ารถ ค่าโทรลเวย์ ค่าก๊าซ NGV จะเหลือรายได้เพียงวันละ 300 - 500 บาทเท่านั้น
ผลกระทบที่เกิดขึ้น คนขับรถตู้โดยสารสาธารณะ ฝากเรียกร้องไปยังกรมการขนส่งทางบก ให้พิจารณาเรื่องการปรับราคาค่าโดยสารให้มีความเหมาะสม หลังพวกเขาให้ความร่วมมือ และปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด
สำหรับการกำหนดที่นั่งรถตู้โดยสารสาธารณะ เป็นไปตามตามพระราชบัญญัติขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ที่บังคับให้รถตู้โดยสารจัดวางตำแหน่งที่นั่งไม่เกิน 13 ที่นั่งเท่านั้น และต้องเว้นช่องทางเดิน ความกว้างไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตรตรงกลาง และต้องเอาเบาะแถวสุดท้ายออก เพื่อให้สามารถทำประตูฉุกเฉินข้างหลังได้ ไว้หนีในยามฉุกเฉิน ซึ่งกรมการขนส่งทางบก บังคับใช้กฎหมายฉบับนี้อย่างเข้มงวด เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ทีมข่าว TNN ช่อง 16 รายงาน
chaiyawat สิ่งที่ขาดหายคือความซื่อสัตย์ของผู้ประกอบการ มีแต่พวกฉวยโอกาส เอาแค่ผลประโยชน์ สรุปสั้นๆคือเห็นแก่ตัว แค่นั้น
10 ก.ค. 2560 เวลา 10.25 น.
😊 ต่ายน่อย 😊 อ่าวงัยมาตกที่ผู้โดยสารล่ะท่าน
10 ก.ค. 2560 เวลา 10.16 น.
PEAR ทำไมไม่คิดว่ารถตู้ฉวยโอกาสล่ะ หายไปที่นั่งเดียวเก็บเพิ่ม 5-10 บาท ทั้งๆที่หารมาแล้วถ้าจะเพิ่มจริงก็ควรขึ้นคนละไม่ถึง 5 บาทเลย อย่าอคติกันไปหน่อยเลย มันไม่สร้างสรรค์
10 ก.ค. 2560 เวลา 10.15 น.
Gu Ju สมควรขึ้นราคา แต่ต้องลดความเร็วด้วย
ผู้โดยสารส่วนใหญ่คงยินดีจ่ายเพิ่ม
เพื่ิอมีชีวิตรอดกลับบ้านไปเจอครอบครัว
10 ก.ค. 2560 เวลา 10.34 น.
เป็นไงกันละออกกฏหมายควายๆออกมา แล้วควบคุมกันได้ไหมละ สุดท้ายแม่งภาระต้องตกมาอยู่กับประชาชนอีก
10 ก.ค. 2560 เวลา 10.08 น.
ดูทั้งหมด